นายไพรัตน์ รุ่งสว่าง นายกอบต. บางเจ้าฉ่า อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง เปิดเผยว่าได้รับแจ้งจากนายพรชัย บุญรื่น เจ้าของบ้าน โฮมสเตย์ หมู่ 8 ใกล้วัดยางทองว่า ขณะที่ชาวบ้านกำลังช่วยกันกรอกทราย เพื่อทำแนวป้องกันน้ำท่วมอยู่บนถนนข้างตลิ่งแม่น้ำน้อย และมีเด็ก 3-4 คน กำลังเล่นน้ำอยู่ริมตลิ่ง ทันใดนั้นมีจระเข้ยาวกว่า 1 เมตร โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ และไล่งับเด็ก ทำให้เด็ก ๆ ที่กำลังเล่นน้ำอยู่ต้องวิ่งหนีเอาชีวิตรอดอย่างหวุดหวิด ทำให้ชาวบ้านต่างหวาดผวากันมาก เนื่องจากจระเข้มีลักษณะหิวโซดุร้ายมาเพ่นพ่านในแม่น้ำ จึงได้ประกาศแจ้งเตือนให้ชาวบ้านระมัดระวัง คาดว่าเป็นจระเข้ที่หลุดมาจากสิงห์บุรี ขณะที่นายวันชัย โพธิ์พันธุ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสามโก้ อ.สามโก้ กล่าวว่าได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีจระเข้ 2 ตัว ในคลองสามโก้ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเข้าไปไล่ล่าแต่ยังไม่พบตัวไกรทอง "เป่า" ชาละวัน 9 ตัว
ส่วนเหตุการณ์จระเข้ 19 ตัว หลุดลอยน้ำอยู่ในพื้นที่ ต.วิหารขาว อ.ท่าช้าง สร้างความหวาดผวาให้กับคนสิงห์บุรีนั้น มีรายงานว่าเมื่อคืนวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ทีมไกรทองจากฟาร์มจระเข้ จ.สมุทรปราการ เกือบ 10 คนพร้อมอาวุธปืนยาวขนาด .22 ติดกล้องเล็ง ได้ออกเรือล่าจระเข้ในพื้นที่ใน ต.วิหารขาว และพบจระเข้ขนาดความยาวเกือบ 2 เมตรลอยอยู่ในน้ำ จึงตัดสินใจยิงทิ้งไป 9 ตัว พอรุ่งเช้าทีมไกรทองชุดดังกล่าวจึงเดินทางเข้าพื้นที่ จ.อุทัยธานี ทันที เพื่อไปช่วยกันขนย้ายจระเข้จำนวนมากออกจากฟาร์มของของนายอมรไปไว้ในที่ปลอดภัยก่อน เพราะกลัวระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นท่วมฟาร์ม โดยปล่อย ให้เจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดสิงห์บุรีเฝ้าสังเกตการณ์ล่าจระเข้ที่เหลือไปพลาง ๆ ก่อน
จับเป็นเสียเปรียบต้องยิงทิ้ง
ทั้งนี้ทีมไกรทองคนหนึ่งเปิดเผยว่า เหตุผลที่ออกล่าจระเข้ในตอนกลางคืน เพราะไม่มีผู้คนพลุกพล่าน เกรงว่าประชาชนจะถูกลูกหลง และกลางคืนจะพบเห็นจระเข้ได้ง่ายเนื่องจากตาจระเข้มีสีแดงขนาดใหญ่เมื่อต้องกับแสงไฟ สำหรับเหตุผลที่ต้องตัดสินใจยิงทิ้งทันที เพราะไปเจอจระเข้ลอยอยู่ในระดับน้ำลึกกว่า 1.5 เมตร ซึ่งหากจับเป็นจะเสียเปรียบจระเข้ จึงต้องยิงทิ้ง
ที่มาจากหนังสือพิมพ์
