
เจ้าอาวาส พระลูกวัด และชาวบ้าน พร้อมตำรวจ ช่วยกันล้อมจับ “จอมโจรเหนือเมฆ-บาปยกกำลังสอง” หลอกนิมนต์พระสงฆ์ทั้งวัดให้ไปฉันเพล โดยโทรศัพท์เรียกศูนย์บริการรถแท็กซี่ส่งรถไปรับถึง 8 คัน เมื่อพระออกจากวัดไปหมด ก็เข้าไปงัดกุฏิสมภาร ขโมยทรัพย์สินอย่างสบายใจ ในขณะที่หลวงพ่อหลวงพี่ พร้อมโชเฟอร์แท็กซี่ ขับวนหาบ้านงานอยู่นานไม่พบ จึงพากันกลับวัด มาจ๊ะเอ๋จอมโจรตัวแสบพอดี เลยโวยวายช่วยกันล้อมจับไว้ได้ รับสารภาพคิดแผนการมาถึง 2 วัน ส่วนหลวงพ่อหลวงพี่อดฉันเพลไป
วันนี้ (13 ธ.ค.) ขณะที่ พ.ต.ต.พรรณศักดิ์ วรวิบูลย์สวัสดิ์ สวป.สน.บางโพงพาง นำกำลังออกตรวจตราความเรียบร้อยในพื้นที่ ได้รับแจ้งมีกลุ่มชาวบ้านกำลังปิดล้อมจับคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์ ภายในกุฏิพระวัดคลองภูมิ ถนนพระราม 3 ซอยพระราม 3 - 46 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม.จึงรุดไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบกลุ่มชาวบ้านกำลังล้อมปิดคนร้ายที่หลบซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้า จึงทำการปิดล้อมจับกุม นายภิรมย์ ลาวทอง อายุ 20 ปี อยู่เลขที่ 117/38 ซอยวัดช่องลม แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม.พร้อมของกลางเงินสด 42,000 บาท และไขควงปากแบน 1 อัน โดยมีพระครูพิศาลศาสนธรรม เจ้าอาวาสวัดคลองภูมิ และนายอาคม สิทธิโพธิ์ อายุ 49 ปี อยู่เลขที่ 41 ตรอกนองเขต แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม.กรรมการวัดชี้ให้จับกุม
นายอาคม กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ที่ผ่านมา นายภิรมย์ โทรศัพท์ติดต่อนิมนต์พระหมดทั้งวัดไปฉันเพลงานทำบุญบ้าน ช่วงเช้าวันที่ 10 ธันวาคม ที่บ้านพักภายในซอยกำนันแม้น 19 แต่พระที่วัดติดงานนิมนต์ จึงได้เลื่อนมาเป็นวันนี้ (13) โดยเมื่อเวลา 09.00 น.ได้ส่งรถแท็กซี่จำนวน 4 คัน มารับพระแต่พระไปไม่หมด เนื่องจากในวัดมีพระทั้งหมด 15 องค์ จึงติดต่อกลับไปที่เบอร์ที่ให้ไว้ เพื่อให้ส่งรถมารับพระเพิ่มอีก 4 คัน จากนั้นพระทั้งหมดได้ออกจากวัดไป
ด้านพระครูพิศาลศาสนธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากได้ออกไปจากวัดพร้อมพระลูกวัด ไปถึงที่ซอยดังกล่าวแล้ว ปรากฏว่า โชเฟอร์แท็กซี่ขับรถวนหาบ้านงานตามที่แจ้งมาไม่พบ จึงตัดสินใจให้แท็กซี่ขับกลับมาส่งที่วัด เมื่อมาถึงกุฏิก็พบว่าประตูห้องถูกงัด จึงเข้าไปตรวจสอบภายใน พบนายภิรมย์ กำลังรื้อค้นทรัพย์สิน โดยทันทีที่นายภิรมย์เห็นถึงกับตกใจ และวิ่งเผ่นหนีออกจากกุฏิอย่างรวดเร็ว จึงตะโกนเรียกให้คนในวัดไล่จับกุมตัวไว้ได้พร้อมกับทรัพย์สินที่ขโมยไป
จากการสอบสวน นายภิรมย์ ให้การรับสารภาพว่า วางแผนเพื่อเข้ามาลักทรัพย์ภายในกุฏิวัดดังกล่าวเป็นเวลา 2 วัน ก่อนที่จะโทรศัพท์ไปติดต่อนิมนต์พระที่วัด จากนั้นก็โทรศัพท์เข้าไปที่ศูนย์รถแท็กซี่ให้ส่งรถเข้าไปรับพระทั้งวัด เมื่อรถแท็กซี่รับพระไปหมดแล้ว ตนก็เข้าไปใช้ไขควงงัดประตูกุฏิเข้าไปลักทรัพย์ แต่พระกลับมาเจอเสียก่อน จึงถูกจับกุมตัวในที่สุด ทั้งนี้ ตนมีเหตุผลที่ต้องกระทำความผิด เนื่องจากต้องการเงินไปรักษาแม่ที่ป่วย เป็นมะเร็งปากมดลูก ที่นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเลิดสิน อย่างไรก็ตามตำรวจไม่ปักใจเชื่อ ส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พนักงานสอบสวน สน.บางโพงพาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป