"วธ."จับมือ"กรมประชาสัมพันธ์ -ปดส."สกัดเพลงใต้ดินลามก ประสานไอซีทีระงับเว็บไซต์ต้นตอพร้อมเอาผิด กม. รมต.ไอซีทีขอตรวจสอบไม่เหมาะสมจริงสั่งปิดทันที เครือข่ายผู้ปกครองบางขุนเทียนเผยล่าสุด นร.ดาวน์โหลดเป็นเสียงเรียกเข้าและรอสายโทรศัพท์



เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ นางสาวลัดดา ตั้งสุภาชัย ผู้อำนายการกลุ่มเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีที่มีผู้ร้องเรียน เพื่อให้ดำเนินคดีเอาผิดกลุ่มผู้ผลิตเพลงและศิลปินใต้ดิน เนื่องจากมีเนื้อหาลามกอนาจาร ขัดต่อศีลธรรมอันดีงามที่แพร่หลายอยู่ในกลุ่มคนจำนวนหนึ่งในขณะนี้ว่า คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รัฐมนตรีว่าการ วธ. รู้สึกร้อนใจกับเรื่องดังกล่าวมาก จึงสั่งให้ส่งหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและเอาผิดทางกฎหมาย ขณะนี้ส่งหนังสือไปที่กรมประชาสัมพันธ์ให้ช่วยกำกับดูแลค่ายเพลงและศิลปินใต้ดินแล้ว

"ขณะเดียวกันส่งหนังสือขอความร่วมมือไปที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชนและสตรี (ปดส.) ให้ช่วยคุ้มครองเด็ก และตรวจสอบเทป และซีดีเถื่อนที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมที่นำเผยแพร่อยู่ในขณะนี้ พร้อมทั้งตรวจสอบไปยังผู้จำหน่ายอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้มีเพลงดังกล่าววางจำหน่ายและเผยแพร่ผ่านสื่อสาธารณะได้อีก" นางสาวลัดดากล่าว

นางสาวลัดดากล่าวว่า จะประสานไปยังกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ให้ตรวจสอบหาต้นเหตุที่มาของเพลงดังกล่าวก่อนจะระงับการเผยแพร่ และนำตัวผู้เผยแพร่มาลงโทษต่อไป ในส่วนกลุ่มเฝ้าระวังไม่มีหน้าที่จะนำผู้แต่งเพลงมาเอาผิดทางกฎหมายโดยตรง จึงได้แต่ประสานเพื่อขอความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินงานต่อไป หากปล่อยให้เผยแพร่ต่อไปจะสร้างค่านิยมที่ไม่ถูกต้องในสังคม เปรียบเสมือนเชื้อโรคที่นับวันยิ่งมีเพิ่มขึ้นและขยายสู่กลุ่มวัยรุ่นเรื่อยๆ

พญ.กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี ประธานเครือข่ายผู้ปกครอง กล่าวว่า ที่ผ่านมามีบทเพลงที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสม และสื่อไปในทางลามกอนาจารเป็นระยะทั้งใต้ดินและบนดิน แต่ไม่ค่อยมีหน่วยงานไหนจะสนใจเข้ามาระงับอย่างจริงจัง ทำให้มีเพลงลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในฐานะผู้ปกครองคนหนึ่งทนไม่ได้ที่จะเห็นวัฒนธรรมที่เป็นของคนไทยสูญหายไป จำต้องออกมากระตุ้นให้สังคมรับรู้และหาแนวทางป้องไม่ให้สื่อไม่ดีทำลายวัฒนธรรมของประเทศไทย จะประสานไปยังมูลนิธิเครือข่ายครอบครัวเพื่อระดมความคิดหาแนวทางแก้ไขอีกทางหนึ่ง

"ขณะนี้ วธ.อ่อนมากในการแก้ไขปัญหาทางวัฒนธรรมที่เกิดขึ้น การแก้ปัญหาที่ผ่านมาเป็นไปในลักษณะผ่อนปรนไม่เด็ดขาด จึงอยากให้ วธ.ออกกฎหมายหรือกฎกระทรวงมาบังคับใช้ เพื่อลงโทษผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง หากปล่อยให้เป็นหน้าที่ทางกฎหมายอย่างเดียวคงไม่สามารถขจัดสิ่งไม่ดีออกไปจากสังคมได้ เพราะการลงโทษผู้กระทำผิดดังกล่าวเป็นโทษปรับ 6,000 บาท หรือจำคุกเพียงไม่กี่ปีถือว่าเป็นโทษที่เบามาก และส่วนใหญ่หาตัวผู้กระทำผิดไม่ได้" พญ.กมลพรรณกล่าวว่า

นายเจริญ อนะธรรม ประธานเครือข่ายผู้ปกครองเขตบางขุนเทียน กล่าวว่า ได้รับทราบว่ามีเพลงดังกล่าวเผยแพร่ในสังคมจากกลุ่มนักเรียน โดยเฉพาะในกลุ่มนักเรียนในระดับชั้น ม.2-4 ที่อยู่ช่วงในวัยอยากรู้อยากเห็น ซึ่งนักเรียนเหล่านั้นจะดาวน์โหลดน์เพลงดังกล่าวจากอินเตอร์เน็ต นอกจากจะเปิดฟังแล้ว ยังใช้เป็นเสียงเรียกเข้าและเสียงรอสายของโทรศัพท์มือถือและส่งต่อไปยังเพื่อนๆ อย่างแพร่หลาย

"ตรวจสอบไปที่ฝ่ายปกครองของโรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตบางขุนเทียน พบว่าครูส่วนใหญ่ทราบว่ามีเรื่องเกิดขึ้น และใช้วิธีแก้ปัญหาด้วยการนำนักเรียนที่มีเพลงดังกล่าวมาตักเตือน และสั่งให้ลบเพลงดังกล่าวทิ้งทันที พร้อมให้ลงภาคทัณฑ์ไว้ หากพบว่ามีการดาวโหลดน์อีกจะแจ้งผู้ปกครองทราบ" นายเจริญกล่าว

นายเจริญกล่าวว่า เข้าใจว่าหลายโรงเรียนไม่รายงานให้ผู้ใหญ่ระดับสูงในโรงเรียนรับทราบ เพราะเกรงว่าจะสร้างความเสื่อมเสียให้กับโรงเรียน ไม่ตระหนักถึงผลเสียที่จะตามมา จึงปกปิดข้อมูลไว้ อยากให้โรงเรียนที่พบเจอสื่อที่ไม่ดีรีบแจ้งให้ผู้ปกครองทราบ เพื่อให้ผู้ปกครองได้อบรมและแนะนำบุตรหลานของตนไม่ให้หลงผิดต่อไป เพราะหากนักเรียนที่ยังขาดประสบการณ์ได้ฟังและซึมซับเพลงเหล่านั้นบ่อยครั้งเข้า
จะกระตุ้นยั่วยุให้เด็กอยากมีเพศสัมพันธ์เร็วขึ้น และมองว่าการเสียตัวก่อนแต่งงานเป็นเรื่องธรรมดา ยิ่งกว่านั้นคือการสร้างวัฒนธรรมที่ผิดว่าไม่มีแฟนเป็นเรื่องน่าอาย

"ที่ผ่านมาหน่วยงานที่แก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่เข้มแข็ง โดยเฉพาะ วธ. แต่การแก้ปัญหากลับเป็นลักษณะแบบไฟไหม้ฟาง หากทุกฝ่ายร่วมมือกันเชื่อว่าทุกปัญหาสามารถแก้ไขได้หมด ขณะนี้ผมได้ร่วมมือกับเครือข่ายผู้ปกครองในเขตบางขุนเทียนและสารวัตรนักเรียนตรวจสอบที่มาของเพลงดังกล่าว จากนั้นจะแจ้งไปกระทรวงไอซีทีให้ระงับเว็บไซต์ที่เผยแพร่ต่อไป" นายเจริญกล่าว

นายสิทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวถึงการเผยแพร่เว็บไซต์เพลงใต้ดินที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสม และมีการดาวน์โหลดเพลงกันอย่างแพร่หลายว่า ขณะนี้กระทรวงไอซีทีได้มีการปิดกั้นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสม เช่น เว็บไซต์ลามกอนาจาร มาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว แต่ในส่วนของเว็บไซต์ที่เผยแพร่เพลงใต้ดิน หรือมีการดาวน์โหลดส่งต่อกันทางอี-เมลนั้น ยังไม่ทราบ คงต้องมีการตรวจสอบก่อนว่าเป็นเพลงในลักษณะที่ไม่เหมาะสมจริงหรือไม่ หากพบว่าไม่เหมาะสมจริงก็จะต้องสั่งปิด และไม่ให้มีการเผยแพร่แน่นอน

"เรื่องนี้ถือเป็นหน้าที่ของกระทรวงวัฒนธรรมโดยตรงที่จะต้องตรวจสอบ หากเห็นว่ามีการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ หรืออี-เมลที่ไม่เหมาะสมก็สามารถแจ้งมาที่กระทรวงไอซีทีเพื่อขอความร่วมมือในการสกัดกั้นได้ แต่ที่ผ่านมายังไม่มีใครเข้ามาประสานงาน  ดังนั้น กระทรวงไอซีทีก็คงทำได้เฉพาะในส่วนที่ตรวจสอบพบเท่านั้น" นายสิทธิชัยกล่าว 
 
 
 
 
ที่มา-
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

บทความที่เกี่ยวข้อง