ดวงตาอิเล็กทรอนิกส์ชีวภาพ
หรือ "ไบโอนิก อายส์"
ซึ่งพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยให้ผู้พิการทางสายตากลับมามองเห็นได้อีกครั้งจะพร้อมวางจำหน่ายในสหรัฐภายใน
2 ปีข้างหน้า
ศ.มาร์ก ฮิวมายัน ผู้เชี่ยวชาญด้านจักษุวิทยา สถาบันดวงตาโดเฮนี มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย
ศ.มาร์ก ฮิวมายัน ผู้เชี่ยวชาญด้านจักษุวิทยา สถาบันดวงตาโดเฮนี มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย
สหรัฐ
ผู้นำการวิจัยเปิดเผยว่า โครงการวิจัยไบโอนิก อายส์
ได้รับอนุญาตจากองค์การอาหารและยาสหรัฐ
ให้นำจอตาเทียมใส่ให้กับอาสาสมัครที่พิการทางสายตา 50-75 คน
เพื่อทำการทดสอบเบื้องต้น
หากผลวิจัยมีความก้าวหน้าด้วยดีคาดว่าอุปกรณ์ดังกล่าวจะพร้อมออกสู่ตลาดในช่วงต้นปี
2552 โดยมีราคาคู่ละประมาณ 1 ล้านบาท
ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้พิการทางสายตานับล้านๆ
คนได้กลับมามองเห็นได้อีกครั้ง
สำหรับจอตาเทียมรุ่นแรกเข้ากันได้ดีกับผู้ป่วย 6 ราย ที่ป่วยด้วยโรคประสาทตาเสื่อม ดวงตาเสื่อมสภาพและดวงตาพิการถาวร ซึ่งจะเกิดในอัตรา 1 คนต่อประชากร 3,500 คน โดยพบว่าผู้ป่วยสามารถมองเห็นแสงและการเคลื่อนไหว รวมถึงตัวอักษรขนาดใหญ่และจำแนกวัตถุได้
ไบโอนิก อายส์ ประกอบด้วยกล้องวิดีโอขนาดจิ๋วที่ติดอยู่กับแว่นตาสำหรับให้ผู้ป่วยสวม ทำหน้าที่เป็นตัวเก็บภาพต่างๆ และส่งผ่านแผ่นชิปคอมพิวเตอร์ไปยังขั้วกระตุ้นที่ติดไว้บนดวงตาซึ่งจะปล่อยกระแสไฟฟ้าไปกระตุ้นจอตา ซึ่งเป็นเยื่อเซลล์รับแสงที่อยู่ด้านหลังของลูกตาและส่งสัญญาณภาพผ่านประสาทตาไปยังสมองส่วนที่รับรู้การมองเห็น
การสร้างภาพจะเกิดในลักษณะเดียวกับเครื่องพิมพ์ภาพแบบเข็ม หรือ เม็ดภาพแบบพิกเซลบนจอคอมพิวเตอร์
สำหรับจอตาเทียมรุ่นแรกเข้ากันได้ดีกับผู้ป่วย 6 ราย ที่ป่วยด้วยโรคประสาทตาเสื่อม ดวงตาเสื่อมสภาพและดวงตาพิการถาวร ซึ่งจะเกิดในอัตรา 1 คนต่อประชากร 3,500 คน โดยพบว่าผู้ป่วยสามารถมองเห็นแสงและการเคลื่อนไหว รวมถึงตัวอักษรขนาดใหญ่และจำแนกวัตถุได้
ไบโอนิก อายส์ ประกอบด้วยกล้องวิดีโอขนาดจิ๋วที่ติดอยู่กับแว่นตาสำหรับให้ผู้ป่วยสวม ทำหน้าที่เป็นตัวเก็บภาพต่างๆ และส่งผ่านแผ่นชิปคอมพิวเตอร์ไปยังขั้วกระตุ้นที่ติดไว้บนดวงตาซึ่งจะปล่อยกระแสไฟฟ้าไปกระตุ้นจอตา ซึ่งเป็นเยื่อเซลล์รับแสงที่อยู่ด้านหลังของลูกตาและส่งสัญญาณภาพผ่านประสาทตาไปยังสมองส่วนที่รับรู้การมองเห็น
การสร้างภาพจะเกิดในลักษณะเดียวกับเครื่องพิมพ์ภาพแบบเข็ม หรือ เม็ดภาพแบบพิกเซลบนจอคอมพิวเตอร์
โดยไบโอนิก
อายส์เหมาะกับผู้พิการทางสายตาที่สูญเสียเซลล์รับแสง
รวมถึงผู้ป่วยโรคต้อเนื้อ ซึ่งเป็นสาเหตุส่วนใหญ่ของตาพิการ
แต่เทคโนโลยีนี้ไม่สามารถใช้ได้กับตาพิการที่เกิดจากเส้นประสาทตาถูกทำลายรุนแรง
อันเกิดจากสาเหตุเช่น โรคต้อหินหรือเส้นเลือดอุดตัน
ที่มา-
