วันนี้( 23 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา มีเครือข่ายแรงงานผลักดัน พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นำโดย นางชุติมา บุญจ๋าย และ นายบัณฑิต แป้นวิเศษ ได้ยื่นหนังสือเรียกร้อง ต่อ นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อให้เร่งออกพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และออกมาตราการป้องกันภัย
จากการดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่เขตอุตสาหกรรม
โดยมี นายสำราญ รอดเพชร
รองประธานกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
คนที่ 3 และ นายวุฒิชัย วัชรีรัตน์ รองเลขาธิการ สนช.
เป็นผู้มารับหนังสือเรียกร้องดังกล่าว
โดย นางชุติมา กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์ชีวิตผู้ใช้แรงงานกับภัยจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่นับวันจะรุนแรงมากยิ่งขึ้น ทำให้คุณภาพชีวิตลูกจ้างในโรงงานอุตสาหกรรมลดต่ำลง รวมไปถึงมีแนวโน้มที่จะบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเป็นหนี้สินมากขึ้น ดังนั้นเครือข่ายแรงงานผลักดัน พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จึงขอเรียกร้องให้ สนช. สนับสนุนและเร่งออก พ.ร.บ.ดังกล่าวโดยเร็ว รวมไปถึงให้คงเนื้อหาสาระสำคัญของกฎหมาย อาทิ สถานที่ห้ามจำหน่าย อายุของผู้ซื้อ ในพ.ร.บ.ดังกล่าวไว้ รวมไปถึงต้องให้มีตัวแทนภาคประชาชนเข้าเป็นหนึ่งในคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ต้องจัดตั้งศูนย์ระวังภัยจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบมีส่วนร่วมของภาครัฐ องค์กรแรงงาน องค์กรเอกชน และชาวบ้าน
ด้านนายสำราญ กล่าวว่า ขณะนี้พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อยู่ในชั้นของกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งนี้ยอมรับว่ามีหลายประเด็นที่ต้องถกเถียงกัน ซึ่งก็ต้องว่ากันไปตามหลักเหตุผลความเหมาะสม คงไม่เอนเอียงไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อย่างไรก็ตามการพิจารณาขณะนี้ได้ลงในขั้นรายละเอียดแล้ว และคาดว่าจะเป็นรูปธรรมในเร็วๆ นี้
โดย นางชุติมา กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์ชีวิตผู้ใช้แรงงานกับภัยจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่นับวันจะรุนแรงมากยิ่งขึ้น ทำให้คุณภาพชีวิตลูกจ้างในโรงงานอุตสาหกรรมลดต่ำลง รวมไปถึงมีแนวโน้มที่จะบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเป็นหนี้สินมากขึ้น ดังนั้นเครือข่ายแรงงานผลักดัน พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จึงขอเรียกร้องให้ สนช. สนับสนุนและเร่งออก พ.ร.บ.ดังกล่าวโดยเร็ว รวมไปถึงให้คงเนื้อหาสาระสำคัญของกฎหมาย อาทิ สถานที่ห้ามจำหน่าย อายุของผู้ซื้อ ในพ.ร.บ.ดังกล่าวไว้ รวมไปถึงต้องให้มีตัวแทนภาคประชาชนเข้าเป็นหนึ่งในคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ต้องจัดตั้งศูนย์ระวังภัยจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบมีส่วนร่วมของภาครัฐ องค์กรแรงงาน องค์กรเอกชน และชาวบ้าน
ด้านนายสำราญ กล่าวว่า ขณะนี้พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อยู่ในชั้นของกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งนี้ยอมรับว่ามีหลายประเด็นที่ต้องถกเถียงกัน ซึ่งก็ต้องว่ากันไปตามหลักเหตุผลความเหมาะสม คงไม่เอนเอียงไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อย่างไรก็ตามการพิจารณาขณะนี้ได้ลงในขั้นรายละเอียดแล้ว และคาดว่าจะเป็นรูปธรรมในเร็วๆ นี้
ที่มา-
