เว็บหมิ่นพุทธเลิกแพร่ภาพพระพุทธรูปบนจีสตริง-เสื้อสนัขแล้ว วธ.พิมพ์คู่มือ“ข้อควรและไม่ควรปฎิบัติในวัฒนธรรมไทย” แจกสถานทูต-โรงแรม พร้อมแปล 7 ภาษาแพร่ผ่านเว็บไซต์ ด้านผอ.ศูนย์เฝ้าระวังฯ ชี้เหตุคนไทยวางขายพระเกลื่อนถนนเป็นแบบอย่าง

จากกรณีเครือข่ายเฝ้าระวังทางศาสนา ร้องเรียนผ่านเว็บไซต์ www.m-culture.go.th ของกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ว่า ฝรั่งไอเดียพิเรนทร์ นำเอาภาพพระพุทธรูปไปติดกับสินค้าที่ระลึกขายผ่านอินเตอร์เน็ตในเว็บไซต์ของ
สหรัฐอเมริกา http://www.cafepress.com/philosophy_shop โดยเป็นสินค้ายี่ห้อ philosophy ซึ่งเป็นการกระทำที่ดูหมิ่นพุทธศาสนา ด้วยการนำพระพุทธรูปมาสกรีนลงบนสินค้าต่างๆ ได้แก่ กางเกงในสตรีแบบจีสตริง กางเกงในผู้ชาย เสื้อสำหรับสุนัข และเสื้อสายเดี่ยว เป็นต้น ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสั่งการไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงวอชิงตัน ดีซี สหรัฐอเมริกา ให้ตรวจสอบและสืบหาต้นตอบริษัทที่เป็นเจ้าของสินค้านี้ เพื่อชี้แจงว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมส่งผลกระทบต่อจิตใจของชาวพุทธ ส่วนกรมการศาสนา (ศน.) ประสานไปยังกระทรวงไอซีทีทำการบล็อกเว็บไซต์ดังกล่าวแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2550 ที่กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า หลังจากประสานงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาดังกล่าวไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 พ.ค. วันนี้ตนได้ตรวจสอบไปยังเว็บไซต์ http://www.cafepress.com/philosophy_shop อีกครั้ง ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่าทางเว็บไซต์ได้ให้ความร่วมมือยุติการเผยแพร่ภาพพระพุทธรูป
ที่นำสกรีนลงบนสินค้าต่างๆ ได้แก่ กางเกงในสตรีแบบจีสตริง กางเกงในผู้ชาย เสื้อสำหรับสุนัข และเสื้อสายเดี่ยว แล้ว โดยเปลี่ยนเป็นรูปภาพศิลปะและบุคคลอื่นๆแทน
 
อย่างไรก็ตาม ปัญหาดังกล่าวไม่มีทางป้องกันปัญหานี้ได้ตลอดไป เพราะเป็นเรื่องของความต่างศาสนา เชื้อชาติและวัฒนธรรม อีกทั้งไม่สามารถออกเป็นกฎ ข้อบังคับหรือกฎหมายให้ปฎิบัติ นอกจากจะขอความร่วมมือและเร่งสร้างความเข้าใจให้ชาวต่างชาติเคารพซึ่งกันและกันเท่านั้น
ขณะที่คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า การกระทำที่ละเมิดและดูหมิ่นพระพุทธศาสนาอย่างกรณีการนำภาพพระพุทธรูป
ไปสกรีนลงบนกางเกงในจีสตริงนั้น เป็นเรื่องร้ายแรงที่พุทธศาสนิกชนยอมรับไม่ได้ แต่ชาวต่างประเทศอาจไม่ทราบและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ดังนั้น ตนจึงได้เร่งให้มีการจัดพิมพ์หนังสือข้อควรและไม่ควรปฏิบัติในวัฒนธรรมไทย หรือ THE DO’S AND DON’TS ACCORDING TO THAI CULTURE โดยจัดพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเผยแพร่ไปยังสถานทูตประเทศต่างๆ และแจกไปยังโรงแรมเพื่อให้ชาวต่างประเทศรับทราบข้อมูลความแตกต่างระหว่าง
วัฒนธรรมตะวันออกกับวัฒนธรรมตะวันตก

“กระทรวงวัฒนธรรมจะเผยแพร่ข้อพึงปฏิบัติและสิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติต่อคนไทย ให้ชาวต่างประเทศได้ทราบและใช้เป็นคู่มือในการปฏิบัติตัวกับคนไทย โดยเฉพาะการรณรงค์เผยแพร่คู่มือ DO AND DON’T เพราะจะมีสาระสำคัญที่มุ่งแก้ปัญหาดังกล่าวอยู่ในหมวดของศาสนาที่มีข้อห้ามไว้ชัดเจน และจะเร่งเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการนำพระพุทธรูป หรือสัญลักษณ์ของศาสนาพุทธไปใช้อย่างไม่เหมาะสม” รมว.วธ. กล่าว

นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัด วธ. กล่าวว่า ขณะนี้การจัดพิมพ์หนังสือดังกล่าวได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว มีจำนวนทั้งสิ้น 10,000 เล่ม ในรูปแบบภาษาไทย และภาษาอังกฤษ โดยจะนำไปแจกจ่ายตามหน่วยงานสถานที่ต่างๆ อาทิ สถานทูตประเทศต่างๆ สถานกงศุล โรงแรม สายการบินไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อให้ประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าใจและรับทราบถึงข้อควรปฏิบัติ
ของวัฒนธรรมไทย รวมทั้งจะมีการเผยแพร่ข้อควรปฏิบัติและไม่ควรปฏิบัติ ทางเว็บไซต์ของ วธ. www.m-culture.go.th โดยจะมีถึง 7 ภาษา ได้แก่ ภาษาอารบิก ฝรั่งเศส อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น รัฐเซีย และเยอรมัน

นายวีระ กล่าวอีกว่า การกระทำของเว็บไซต์ขายสินค้าของประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ซึ่งหากเกิดกรณีการขายสินค้าที่ลบหลู่ต่อศาสนาอยู่ในประเทศไทย จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย ตามเนื้อหาของข้อควรปฏิบัติ ซึ่งได้ระบุไว้อย่างชัดเจน ว่า การกระทำใดๆ แก่สิ่งที่เคารพ นับถือ หรือสถานที่อันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของหมู่ชนใด อันเป็นการเหยียดหยามศาสนานั้น เป็นการกระทำที่ผิดกฏหมายอาญา มาตรา 206 ระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 1-7 ปี และการใช้พระพุทธรูปเป็นเครื่องหมายทางการค้า เช่น ขนม เครื่องดื่ม เครื่องดองของเมา เครื่องเล่น หรือภาพพระพุทธรูปไปประทับ ปรากฏอยู่กับวัตถุที่เป็นของใช้สอยทั่วไปในชีวิตประจำวันของบุคคล เช่น รองเท้า ถุงเท้า ชุดว่ายน้ำ ชุดชั้นใน เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ เพราะพระพุทธรูปเป็นสิ่งสักการะสูงสุดของศาสนาพุทธ

น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กล่าวว่า ที่ผ่านมา ศูนย์เฝ้าระวังฯ ได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวเป็นจำนวนมาก และได้ประสานงานไปยังองค์กรพระพุทธศาสนาให้ดำเนินการชี้แจงทำความเข้าใจ อย่างไรก็ตาม การที่ชาวต่างประเทศกระทำการโดยไม่เคารพพระพุทธศาสนา สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการที่คนไทยทำการค้าเชิงพุทธพาณิชย์โดยไม่มีจริยธรรมและ
ไม่เคารพพระพุทธศาสนาเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับชาวต่างประเทศด้วย ไม่ว่าจะเป็นการนำเศียรพระพุทธรูป พระพุทธรูปลักษณะต่างๆ ไปวางเร่ขายบนพื้นดินที่มีคนเดินเหยียบย่ำพื้นไปมา อาทิ การจำหน่ายให้เช่าพระบริเวณถนนพระจันทร์ วัดมหาธาตุ และตามทางเท้ารอบๆ สนามหลวง หรือกรณีการนำพระพุทธรูปไปตกแต่งในห้องน้ำ หรือตามสถานที่ต่างๆที่ไม่เหมาะสม

"เมื่อเร็วๆนี้ รมว.วธ. ได้ประชุมร่วมกับนายพุทธพงษ์ ปุณณกันต์ รองผู้ว่าฯ กทม. เพื่อดำเนินการจัดระเบียบการค้าเชิงพุทธพาณิชย์ที่ไม่เหมาะสมในเขตกรุงเทพฯ เพื่อรักษาความเคารพในพระพุทธศาสนา และไม่ให้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับชาวต่างประเทศอีกทางหนึ่งด้วย"น.ส.ลัดดา กล่าว


 
 
 
ที่มา- 
 
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

บทความที่เกี่ยวข้อง