พบพระภิกษุบำเพ็ญเพียรในถ้ำโบกปูนปิดปากถ้ำนานกว่า 6 ปี มีเพียงลูกศิษย์ 2 รูป หย่อนเชือกส่งอาหารวันละมื้อ ใช้วิธีสื่อสารเพียงเขียนจดหมาย เคยไม่รับอาหารและน้ำนานกว่า 7 วัน จนศิษย์คิดว่าป่วยเตรียมทุบปูน แต่ตะโกนห้ามไว้ เผยเตรียมออกจากถ้ำวันออกพรรษา 29 ตุลาคมนี้

เรื่องราวพระนักปฏิบัติรายนี้ เปิดเผยเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่สำนักสงฆ์เขาแผนที่ บ้านหนองเครือคด หมู่ 8 ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มีพระอาจารย์จวน เขมะจาโร อายุ 50 ปี บำเพ็ญภาวนาศีลนั่งสมาธิปฏิบัติธรรมอยู่ในถ้ำเขาแผนที่ ติดกับสำนักสงฆ์เขาแผนที่เป็นเวลากว่า 6 ปีแล้ว โดยให้ชาวบ้านใช้บล็อกซีเมนต์และปูนซีเมนต์ก่อปิดทับประตูทางเข้าถ้ำ กว้างประมาณ 2 เมตร สูง 2 เมตร หนา 5 นิ้ว ไม่มีช่องให้คนเข้าไปได้

พระมหาพจน์ ปัญญาธโร อายุ 54 ปี พระประจำสำนักสงฆ์ เป็นผู้จัดเตรียมภัตตาหารเช้าที่ญาติโยมนำมาถวายใส่ปิ่นโต ทั้งผลไม้และน้ำดื่ม หย่อนลงที่ช่องอากาศเหนือถ้ำ มีความยาวประมาณ 1.5 เมตร และกว้างประมาณ 1 ฟุต ลึกประมาณ 17 เมตร ให้พระอาจารย์จวนฉันทุกเช้า หลังจากฉันเสร็จก็จะนำปิ่นโตมามัดกับเชือก เพื่อให้พระมหาพจน์ชักรอกขึ้นมาด้านบน ส่วนการสื่อสารใช้วิธีเขียนข้อความบนกระดาษ

พระมหาพจน์ กล่าวว่า พระอาจารย์จวนเป็นชาวบ้านถนนหักใหญ่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา บวชที่วัดบ้านถนนหักใหญ่ เป็นพระสายมหานิกาย ออกธุดงค์ไปทางภาคเหนือและภาคกลาง จนมาปฏิบัติธรรมที่สำนักสงฆ์เขาแผนที่นานกว่า 10 ปีแล้ว โดยสำนักสงฆ์แห่งนี้มีพระอยู่เพียง 3 รูป ช่วงี่พระอาจารย์เข้าไปบำเพ็ญเพียรในถ้ำ เริ่มตั้งแต่วันเข้าพรรษาปี 2545 บอกว่าอยากเข้าไปนั่งปฏิบัติธรรมสมาธิเพื่อปิดโลก ตามรอยพระพุทธเจ้า โดยจะฉันอาหารเพียงมื้อเดียว และงดฉันวันพระ

"ที่ผ่านมาเคยไม่ฉันข้าวและน้ำนานติดต่อกัน 7 วัน ไม่ติดต่อสื่อสารใดๆ เลย นำอาหารไปถวายก็เหลือเต็ม แสดงว่าพระอาจารย์ไม่ได้ฉันอะไร คิดว่าท่านเจ็บป่วย จึงตัดสินใจจะทุบปูนที่ปิดปากถ้ำไว้ แต่ในที่สุดท่านก็สื่อสารมาว่าไม่เป็นไร ยังสบายดี เป็นครั้งเดียวที่ท่านพูดด้วย เพราะปกติจะสื่อสารด้วยการเขียนเท่านั้น ส่วนกำหนดออกจากถ้ำ พระอาจารย์ระบุว่าจะออกมาวันออกพรรษา วันที่ 29 ตุลาคมนี้" พระมหาพจน์ กล่าว

นายสันต์ ศรีนอก ชาวบ้านหนองเครือคด กล่าวว่า พระอาจารย์จวนเคยเทศนาสอนให้ชาวบ้านทำความดี อยู่อย่างสงบ มีสติ อย่าเบียดเบียนเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน หากมีกิจกรรมใดภายในสำนักสงฆ์ก็ให้จัดแบบเรียบง่าย ไม่ใช้เครื่องขยายเสียง และยังสอนชาวบ้านให้รักธรรมชาติและให้ปลูกต้นไม้เพื่อความร่มเย็นอีกด้วย

 
 
 
 
 
 
ที่มา- 
 
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

บทความที่เกี่ยวข้อง