สมาคมหมออนามัยร่วมกับเครือข่ายองค์กรงดเหล้า
ประชุมชี้แจงโครงการงดเหล้าเข้าพรรษา ตลอดปี 2550 เพื่อถวายพ่อหลวง
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550
โดยมีผู้แทนเครือข่ายองค์กรงดเหล้ากว่า 200 คนเข้าร่วมประชุม
พร้อมทั้งมีพิธีมอบรางวัลนวัตกรรมงดเหล้าดีเด่นปี 2549 ของสมาคมหมออนามัย
5 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลดีเด่นด้านประยุกต์ใช้วัฒนธรรม ได้แก่ นายณรงค์ ตั้งศิริชัย
จ.นครสวรรค์ ที่ใช้สื่อศิลปินพื้นบ้าน แหล่รณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา
รางวัลดีเด่นด้านส่งเสริมนวัตกรรมเลิกเหล้าเลิกจน ได้แก่ นางสุจิตรา อุทธา
จ.ขอนแก่น จากโครงการงดเหล้าเข้าพรรษา ออมเงิน 3 บาท
รางวัลดีเด่นด้านการทำงานแบบเครือข่าย ได้แก่ นางสุภาวดี บุญญารักษ์ที่ประสานกับกลุ่มแม่บ้านและศูนย์ศิลปาชีพบางไทรในการณรงค์งดเหล้าในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
รางวัลดีเด่นด้านการประสานงานระดับนโยบายจังหวัด ได้แก่ นายอดิศักดิ์ โพธิ์แก้ว
ที่ประสานงานรณรงค์งดเหล้าร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดและประชาคมงดเหล้าจังหวัดมหาสารคาม
และรางวัลดีเด่นด้านบริหารจัดการโครงการฯ ได้แก่ นายสนอง คล้ำฉิม
จ.สมุทรสงคราม
นางสุจิตรา กล่าวว่า การเลิกเหล้าและเลิกจนต้องใช้วิธีการออม
นำเงินซื้อเหล้ามาใส่กระปุกแทน ซึ่งการรณรงค์ที่ผ่านมาพบว่า
สร้างจิตสำนึกให้คนในชุมชนได้เป็นอย่างดี
เห็นได้ชัดจากคดีทะเลาะวิวาทในงานบุญต่าง ๆ รวมทั้งในชุมชนลดลง
พฤติกรรมเยาวชนดีขึ้น เนื่องจากไม่เห็นพ่อแม่ดื่มเหล้าอีก
นายธีระ วัชรปราณี
ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า และนายนิรุจน์ อุทธา
ผู้อำนวยการศูนย์แก้ไขปัญหาการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สมาคมหมออนามัย
เปิดเผยว่า การรณรงค์งดเหล้าในปี 2549
มีนักดื่มร่วมลงชื่องดเหล้าเข้าพรรษากว่า 330,000 คน
และสอดคล้องกับผลสำรวจเอแบคโพลล์
ที่ระบุว่านักดื่มงดเหล้าในช่วงเข้าพรรษาถึงร้อยละ 63
ปีนี้จึงตั้งเป้าว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น
โดยจะขอความร่วมมือประชาชนร่วมงดเหล้า ออมเงิน ทำความดีเพื่อพ่อหลวง
และจะรณรงค์หมู่บ้านต้นแบบเลิกเหล้าออมเงินเพื่อเศรษฐกิจพอเพียงทำความดีถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
80 หมู่บ้าน เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา
ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม
ประธานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า
เรียกร้องให้กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว
โดยคำนึงถึงการคุ้มครองประชาชนมากกว่าธุรกิจน้ำเมา
เพราะทราบว่ามีการเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของกฎหมายนี้ไปมากแล้ว
และในสัปดาห์นี้จะมีการพิจารณามาตราที่เกี่ยวกับการห้ามโฆษณาด้วย
ย้ำว่าควรเปิดกว้างให้สื่อมวลชนและประชาชนได้รับฟังการพิจารณา
และอย่าลืมว่าร่าง พ.ร.บ.นี้ ประชาชนได้ลงรายชื่อสนับสนุนเกือบ 14 ล้านคน
|