กระทรวงศึกษาธิการสนองนโยบายคุณธรรมนำความรู้เล็งปีการศึกษา 2551
ให้ทุกโรงเรียนทั่วประเทศบรรจุคะแนนคุณธรรมความดีใส่สมุดพกผลการเรียนเด็ก
เน้นระดับประถม ทำกิจกรรมความดีไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมงต่อภาคเรียน
ระดับมัธยมไม่ต่ำกว่า 10-15 ชั่วโมงต่อภาคเรียน
รศ.ดร.วรากรณ์สามโกเศศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ในฐานะปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ในปีการศึกษา 2551
กระทรวงศึกษาธิการ( ศธ.) จะผลักดันนโยบายให้โรงเรียนประถมศึกษา
โรงเรียนมัธยมศึกษาทั่วประเทศ
สร้างระบบวัดผลและบรรจุคะแนนคุณธรรมความดีของเด็กตั้งแต่ชั้น ป.1-ม.6
ลงในใบรายงานผลการเรียนเป็นครั้งแรกในระบบการศึกษาของไทย
เพื่อรองรับข้อเรียกร้องของที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ
ที่อยากให้มีการนำคะแนนคุณธรรมความดีของเด็กมาใช้เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการคัดเลือก
นักศึกษาเข้าเรียนในอนาคต
"ศธ.ได้หารือถึงแนวทางดำเนินการเรื่องนี้กับทางสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาแห่งชาติ(สกอ.)
ตัวแทนมหาวิทยาลัยรัฐและสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เมื่อเดือนกันยายนปีนี้
และได้ข้อสรุปว่า คุณธรรมความดี ที่ ศธ.จะใช้เป็นหลักมีทั้งหมด 4 ประเภทได้แก่
1.กิจกรรมการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์เพื่อสังคม
2.กิจกรรมที่แสดงความเสียสละ เช่น การบริจาคโลหิต อวัยวะ
3.กิจกรรมที่สะท้อนความกตัญญูกตเวทีของนักเรียน
และ4.กิจกรรมที่นักเรียนทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีต่อสังคม
โดยในระดับประถมศึกษา โรงเรียนต้องจัดให้เด็กทำกิจกรรมคุณธรรมความดี ไม่ต่ำกว่า 6 ชม.ต่อภาคเรียน
ระดับมัธยมต้นไม่ต่ำกว่า 10 ชม.ต่อภาคเรียน
มัธยมปลายไม่ต่ำกว่า 15 ชม.ต่อภาคเรียน"รศ.ดร.วรากรณ์ กล่าว
รศ.ดร.วรากรณ์กล่าวอีกว่า ส่วนระดับคะแนน ถ้าสิ่งที่ทำเป็นประโยชน์ต่อตัวเด็กนักเรียนเอง
ระดับคะแนนจะอยู่ที่เกรด 1
ถ้าเป็นประโยชน์ครอบคลุมถึงครอบครัวของนักเรียนจะให้เกรด 2
ถ้าเป็นประโยชน์ต่อโรงเรียนจะให้เกรด3
ต่อชุมชนวงกว้างเกรด4 ต่อประเทศชาติเกรด5
"ขณะนี้ ศธ.กำลังตั้งคณะทำงานเพื่อจัดทำแนวปฏิบัติให้เป็นมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย
ก่อนจะประกาศให้ทุกโรงเรียนใช้
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ศธ.ได้ส่งเสริมให้เด็กได้รับการพัฒนาด้านคุณธรรมจริยธรรมในชั้นเรียน
โดยกำหนดให้สอนด้านคุณธรรมจริยธรรมแก่เด็ก ป.1-ป.6 ไม่น้อยกว่า2 ชม.ต่อสัปดาห์อบรม
พัฒนาครูเพื่อสอนด้านคุณธรรมจริยธรรมไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นคน
ในปีที่ผ่านมาจัดทำตำราเรียนที่ส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมแก่เด็กชั้น ม.1-ม.6 กว่า3 แสนเล่ม
สอนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนำร่องในโรงเรียนประถม มัธยม 1,750 แห่ง
และสร้างต้นแบบโรงเรียนวิถีพุทธ 18,000 แห่ง"รศ.ดร.วรากรณ์กล่าว
ที่มา-
