
เริ่มต้นบทสนทนาพร้อมเสียงหัวเราะร่วนอารมณ์ดี กับนายใหญ่ของค่ายโทรศัพท์ดีแทคชาวนอวิเจี้ยน ซิคเว่ เบรคเก้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พาณิชย์ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น บอกว่าสำหรับเขาแล้ว "ชีวิตการทำงานและการพักผ่อนมันได้กลายเป็นเรื่องเดียวกันไปเสียแล้ว!!"
ฉะนั้น ถ้าใครมีโอกาสขึ้นมาเยือนบนห้องทำงานชั้น 30 ตึกดีแทค ริมถนนวิภาวดีรังสิต ก็จะได้ยลห้องทำงานที่อุดมไปด้วยอุปกรณ์เครื่องเล่นครบครันความสนุกสนาน ทั้งโต๊ะพูล เป้าปาลูกดอก เกมหมากรุก เก้าอี้นวดตัว กระทั่งเครื่องดนตรีก็มีไว้ให้ดีดสีตีเป่ากัน ฯลฯ
"ห้องนี้ไม่ใช่แค่ห้องทำงานส่วนตัวของผม แต่เป็นพื้นที่สำหรับทุกๆ คนเพราะเรามีวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้พนักงานมารวมตัวสังสรรค์กัน บนชั้น 30 นี้ เป็นการ 'ส่งสัญญาณ' ว่าการทำงานกับการเล่นหรือการพักผ่อนนั้นมันสามารถไปด้วยกันได้" ซิคเว่ กล่าว และขอย้ำอีกครั้งว่านี่คือช่วง 'ขอเวลานอก' ออกจากเวลางานของชาวดีแทคโดยแท้

"หลักการทำงานของผม คือ My life as a coach ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับหนังสือที่ผมเขียนกับสำนักพิมพ์บิซบุ๊ค (บอกพร้อมรอยยิ้ม) คนก็จะถามว่า ทำไมเรียกตัวเองว่า 'โค้ช' ไม่ใช่ 'บอส' ผมคิดว่าฐานะซีอีโอเมื่อเปรียบเทียบกับโค้ชกีฬา หน้าที่ก็จะดูคล้ายๆ กัน คือ โค้ชเป็นคนที่ไม่ได้ลงสนามเล่น ไม่ได้เดาะบอล แต่เป็นคนเฟ้นตัวผู้เล่นก็ไม่ต่างกับผู้นำที่จำเป็นต้องล้อมรอบด้วยคนเก่งๆ แล้วสิ่งที่เหมือนกันอีกอย่างคือทั้งสองคนต้องสามารถชี้เป้าอย่างถูกต้องแม่นยำ และทำให้ผู้เล่นมีความสุข" ซิคเว่ กล่าว
ชีวิตจึงเป็นการทำงาน ...ที่สนุกสนาน หลายคนอาจวาดภาพไปว่า วันๆ ซิคเว่ เบรคเก้ ซีอีโอดีแทค คงเดินผิวปากอย่างสบายอารมณ์อยู่ในออฟฟิศ ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นและวันนี้ก็ขอโชว์ทั้งแทงพูล โขกหมารุก! ไปจนถึงการเปิดมินิคอนเสิร์ตโชว์เดี่ยวกีตาร์!! ยืนยันความสนุกในออฟฟิศทุกรูปแบบ

"การผ่อนคลายทำให้ประสิทธิผลงานที่ดีกว่าความเคร่งเครียด ทำให้พนักงานกล้าพูด กล้าแสดงความคิดเห็น พูดไปแล้วไม่ต้องกลัวนายดุ หรือวันนี้ผมมาทำงานใส่กางเกงยีน ลูกน้องก็ใส่ยีนเดินในออฟฟิศได้เหมือนกัน ผมตั้งใจสร้างวัฒนธรรมองค์กรแบบนี้ขึ้นมาโดยที่ไม่จำเป็นต้องเป็นระเบียบแบบแผนเป๊ะๆ คนอาจมองว่า นี่คือการสะท้อนแบรนด์ดีแทคที่กันเอง และสนุกสนาน พูดจริงทำจริง ซึ่งก็ถูกต้องนะครับและเรื่องเหล่านี้ทำได้ไม่ยากเลยออฟฟิศอื่นๆ ก็สนุกได้เหมือนกันนะครับ" ผู้บริหารฝรั่ง ว่า
"ผมวิ่งทุกเช้า เมื่อออกวิ่งเลือดในร่างกายเราก็ได้สูบฉีดไหลเวียน จึงเป็นการเริ่มต้นวันใหม่อย่างสดใส จิตใจผ่องแผ้ว แต่ละสัปดาห์ผมต้องวิ่งให้ได้ 4-5 วัน แล้วผมก็ชอบดึงเพื่อนๆ ออกไป วิ่งด้วยกัน อย่างเช่น 'คุณธนา' (ธนา เธียรอัจฉริยะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร) ที่วิ่งได้ไม่เกินนาทีครึ่งก็หอบแล้ว (หัวเราะร่วน) แต่เขาก็พยายามจนวิ่งได้เกิน 3 นาที แล้ววันหนึ่งคุณธนาก็เสนอไอเดียแคมเปญที่จะส่งผู้บริหารดีแทค 100 คน ลงสนามวิ่งแข่งมินิมาราธอนระยะทาง 10 กิโลเมตร 'เป็นการสร้างความเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้' ซึ่งสิ่งนี้ก็จะเป็นการสื่อความหมายของการพยายามพัฒนาองค์กรได้อีกด้วย" ซีอีโอดีแทค กล่าว

งานนี้ "โค้ชซิคเว่" ตั้งเป้าหมายไว้อย่างมุ่งมั่นว่าเขาต้องวิ่งให้ได้ในระยะทาง 10 กม./1 ชั่วโมงครึ่ง "เมื่อคุณวิ่ง กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ในร่างกายมันก็จะอุทธรณ์ บ่น เหนื่อยแล้วนะ เลิกเถอะ ไม่ไหวแล้วนะแต่ถ้าเราสามารถควบคุมจิตใจที่โอดครวญให้มันเงียบเสียงบ่นลงได้ นั่นแสดงว่าเราก็สามารถเอาชนะตัวเองวิ่งให้ถึงเป้าหมายได้ ซึ่งไม่ต่างจากการทำธุรกิจเลยนะครับ เราอาจไม่สู้ระหว่างทางแต่เทคนิกของผมวิ่งต่อไปๆๆ เรื่อยๆ โดยเรามีเป้าหมายไว้ในใจว่าต้องไปให้เหนือกว่าที่ตัวเราคาดหวัง แล้วเราต้องทำได้ การวิ่งจึงเป็นบทเรียนชีวิต และเป็นการท้าทายกับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ สำหรับผมแล้วคำว่า เป็นไปไม่ได้ (Impossible) เป็นแค่ความคิดเห็น ไม่ใช่ข้อเท็จจริง" ซิคเว่ เปรียบเทียบ
แล้ววันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ก็จะได้พิสูจน์กันแล้วว่ากลยุทธ์ใหม่ๆ สนุกๆ ของ "ซีอีโอฝรั่ง" จะพาดีแทคให้เป็นฝั่งฝันได้อีกครั้งหรือไม่

แต่ถ้า
"time out" ที่อยากทำจริงๆ ซีอีโอ ดีแทค ตอบทันทีว่า วิ่ง นอนหลับพักผ่อน
หรือการใช้เวลาว่างโดยการไปดูกีฬากับลูกชายทั้ง 3 คน
และทุกคนก็เป็นสปอร์ตแมนที่เล่นกีฬาหลายอย่าง ทั้งฟุตบอล เบสบอล
หรือว่ายน้ำ
