
นายธนวรรธน์กล่าวอีกว่า ปีนี้ประชาชนจะฉลองเทศกาลวาเลนไทน์เพียง 52.1% ไม่ฉลอง 47.9% ส่วนใหญ่ จะฉลองกับคนรัก เพื่อน พี่น้อง และพ่อแม่ สินค้าที่จะซื้อมากที่สุดคือดอกไม้ รองลงมาคือการ์ด ของขวัญ ช็อกโกแลต และตุ๊กตา ส่วนกิจกรรมที่จะทำมากที่สุดคือ จะไปทานข้าวนอกบ้าน นอกนั้นจะไปเดินห้าง ไปดูหนัง ไปบ้านแฟน ฯลฯ แต่สิ่งที่ประชาชนกังวลในช่วงเทศกาลนี้คือ พ่อค้าแม่ค้าจะขึ้นราคาดอกไม้ รองลงมาคือราคา ของขวัญแพงเกินจริง การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรของวัยรุ่น การล่วงละเมิดทางเพศเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เรื่องการมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่น ผลการสำรวจชี้ว่า หากเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้มงวดมากขึ้นจะทำให้วัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์น้อยลง
ผอ.ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจกล่าวอีกว่า เมื่อสอบถามถึงความสำคัญของวันวาเลนไทน์ ประชาชน ให้ความสำคัญในอันดับท้ายๆ โดยเห็นว่าวันปีใหม่ คริสต์มาส สำคัญที่สุด นอกจากนี้ยังได้สำรวจการใช้จ่ายในวันมาฆบูชาที่จะถึงนี้ พบว่าจะมีการใช้จ่ายรวมทั้งประเทศ 3,642.34 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะจ่ายเพื่อทำบุญ โดยสิ่งที่จะขอพรในวันมาฆบูชานี้ ส่วนใหญ่ขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระเกษมสำราญ ขอให้เศรษฐกิจดีขึ้น ขอให้ประเทศมีความสมานฉันท์ และขอให้การเมืองมีเสถียรภาพ
สำหรับมาตรการเฝ้าระวังในวันวาเลนไทน์นั้น พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ ผกก.ศดส.บช.น.กล่าวว่า ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ประสานกับตำรวจท้องที่ ออกตรวจตราจุดล่อแหลม สวนสาธารณะ สถานบันเทิง โดยเฉพาะโรงแรมม่านรูด ซึ่งในแต่ละปีมักจะมีเด็กแอบเข้าไปใช้บริการจำนวนมาก จึงขอเตือนให้เจ้าของกิจการโรงแรม ช่วยตรวจสอบก่อนให้ลูกค้าเข้าไปใช้บริการ หากปล่อยปละละเลย อาจจะถูกดำเนินคดี และขอให้ผู้ปกครองช่วยดูแลบุตรหลาน เพื่อป้องกันการถูกล่อลวง หากผู้ใดพบเห็นเยาวชนมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที
ส่วนบรรยากาศการซื้อขายดอกกุหลาบที่หนุ่มสาวถือเป็นตัวแทนของความรัก