เมื่อวันพุธที่ 23 ก.ค. สองมหาเศรษฐีติดอันดับโลกทั้งไมเคิล บลูมเบิร์ก
นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก กับนายบิลล์ เกตส์ ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์
ร่วมกันบริจาคเงินรวมกัน 375 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 12,375 ล้านบาท)
ทั้งนี้ บลูมเบิร์กจะอัดฉีดโครงการที่เขาริเริ่มตั้งแต่ปี 2548
ซึ่งใช้เงิน 125 ล้านเหรียญสหรัฐฯแล้วอีก 250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เสริมกับเงินในกองทุนเดอะ บิลล์ แอนด์ เมลินดา เกตส์ อีก 125
ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายใน 4 ปีข้างหน้า เพื่อรณรงค์การไม่สูบบุหรี่ทั่วโลก
โดยเฉพาะประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างอินเดียและจีน
เพราะถือว่าตัวเลขของผู้ที่สูบบุหรี่สูงจนน่าเป็นห่วงในอนาคตที่อาจจะกลาย
เป็น “พฤติกรรมระบาด” ได้ โดยสถิติขององค์การอนามัยโลก (WHO)
พบว่าผู้ที่มีรายได้ต่ำถึงปานกลางจะเสียชีวิตจากพิษภัยของบุหรี่กว่า 80%
ภายในปี 2573 หรืออีก 22 ปีข้างหน้า
นายบิลล์ เกตส์ กล่าวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกตั้งแต่ลาออกจากตำแหน่งผู้บริหาร ไมโครซอฟท์เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า เจตนาทั้งตัวเขาและนายกฯนิวยอร์กคือจะร่วมกับองค์กรต้านบุหรี่ของรัฐบาล ยุทธศาสตร์สำคัญคือการเพิ่มภาษีบุหรี่, การปรับภาพลักษณ์สังคมของการสูบบุหรี่, คุ้มครองผู้ที่ไม่ได้สูบบุหรี่แต่กลับต้องสูดดมกลิ่นควัน และสุดท้ายคือช่วยผู้สูบบุหรี่ให้เลิกนิสัยทำลายสุขภาพนี้เสีย
ตัวอย่างของความสำเร็จเกิดขึ้นในหลายประเทศ อาทิ อียิปต์ที่เพิ่มภาษีบุหรี่สูงมาก ฟิลิปปินส์ห้ามโฆษณาบุหรี่ เช่นเดียวกับบราซิลและประเทศอื่นที่ใส่ภาพโรคร้ายที่ตามมาลงบนหน้าซอง บุหรี่ให้เห็นถึงพิษภัย และอังกฤษ, ฝรั่งเศส, อิตาลี, ไอร์แลนด์, ยูกันดา และนิวซีแลนด์ก็ห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะด้วย.