ภาวะโลกร้อนมีผลกระทบต่อจิตใจชาวบ้านแถบชายฝั่งทะเล หลังจากมีกระแสน้ำท่วม กทม.และปริมณฑล เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากพระสันทาน ธัมมสันทโน เจ้าอาวาสวัดสาขลา ถนนสุขสวัสดิ์-นาเกลือ ต.นาเกลือ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ว่า ได้มีกลุ่มชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่รอบวัด ที่ศรัทธาหลวงพ่อโต วัดสาขลา มาปรึกษาขอจัดงานทำบุญและให้ช่วยสวดมนต์ขอพรจากหลวงพ่อโต
ที่อยู่ในอุโบสถวัดสาขลา ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาและเป็นที่ยึดเหนี่ยวด้านจิตใจของชาวบ้านแถบนี้
เพื่อเป็นสิริมงคล และช่วยปกปักษ์รักษาคุ้มครอง หลังจากมีกระแสคำเตือนว่าน้ำจะท่วม กทม.และปริมณฑล จะเกิดคลื่นทะเลซัดบ้านเรือนในแถบนี้จมหาย ในช่วงเดือน ส.ค.-ต.ค. จนชาวบ้านต่างหวาดผวา เกิดวิตกกังวลใจขึ้น จึงอนุญาตให้จัดงานขึ้นในวันที่ 2 ส.ค.นี้ ในพิธีไม่มีอะไรมาก เลี้ยงพระทั้งวัด 26 รูป พร้อมกับสวดเจริญพระพุทธมนต์ในพระอุโบสถ

นายอำภัย อำพันทอง อายุ 51 ปี อดีตนายก อบต.นาเกลือ อ.พระสมุทรเจดีย์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ผอ.ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ทำนายเตือนว่า ช่วงเดือน ส.ค.-ต.ค.นี้ ระวังจะเกิดภัยพิบัติที่เกิดจากแผ่นดินไหว และภัยจากพายุขนาดใหญ่พัดถล่มประเทศไทยทางด้านอ่าวไทย และเกิดปรากฏการณ์สตรอม เสิร์ช หรือน้ำทะเลยกตัวสูง ทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วม กทม.และปริมณฑล ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ ต.นาเกลือ มีทั้งหมด 4 หมู่บ้าน 2,000 ครัวเรือน ปลูกบ้านเรือนอยู่ห่างทะเลเพียง 5 กิโลเมตร ยึดอาชีพทำวังกุ้งและการประมง ต่างตื่นกลัวต่อกระแสคำเตือนดังกล่าว แต่ได้เฝ้าระวังสังเกตการณ์ดูความเปลี่ยนแปลงจากธรรมชาติ ร่วมกันทำบุญ ขอให้วัดสาขลาซึ่งมีหลวงพ่อโตเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านให้ช่วยคุ้มครอง เพราะชาวบ้านต่างหวาดกลัวและมีความเชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริง จากการสังเกตในรอบปีที่ผ่านมา พื้นที่แถบนี้ถูกทะเลซัดกลืนจมหายไปพันไร่ และเมื่อปีที่แล้วน้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้านเรือน โรงเรียนและวัดเกือบ 2 เมตร

ด้านนายประเสริฐ พับบรรจง อายุ 74 ปี ไวยาวัจกรวัดสาขลา เปิดเผยว่า เป็นคนในพื้นที่ หลังจากมีกระแสข่าวทำให้ชาวบ้านตื่นตัว ช่วยกันดูความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ เนื่องจากในแถบนี้เป็นที่ราบลุ่มติดทะเล ไม่มีแนวป้องกัน  จึงปรึกษากันว่าควรจะทำบุญขอพรจากหลวงพ่อโตที่มีอายุยาวนานกว่า 200 ปี เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้าน ให้ช่วยคุ้มครองชาวบ้านทุกครัวเรือน จึงได้ปรึกษากับเจ้าอาวาสขอนำของเก่าที่ขุดพบเมื่อปีกลายหลังจากน้ำท่วมวัด
มาให้ชาวบ้านได้กราบไหว้บูชาเพื่อช่วยคลายความวิตก

นายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานอำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้ยังไม่รุนแรง ขอให้ประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนก เนื่องจากพายุไต้ฝุ่น “ฟองวอง” ได้เริ่มอ่อนกำลังและเคลื่อนตัวขึ้นไปทางทิศเหนือของทะเลจีนใต้ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยมากนัก เป็นแค่สถานการณ์มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงตามฤดูกาล

สำหรับสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาในระยะนี้
มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง แต่ยังทำให้ประเทศ ไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนอง โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง
ส่วนในช่วงวันที่ 4-6 ส.ค. ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง
ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เช่นจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ สกลนคร อุดรธานีและนครพนม ระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนัก ส่วนชาวเรือในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน
ขอให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงโดยเฉพาะในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
 
 
ที่มา-
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

บทความที่เกี่ยวข้อง