ประชุมคกก.บูรณะซ่อมแซมวัด
 
 
การประชุมติดตามตรวจสอบบูรณะซ่อมแซมวัดที่ประสบอุทกภัย
 
         ประธานคณะกรรมการติดตามตรวจสอบ ฯ ให้ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดช่วยเหลือเจ้าอาวาสในการตรวจสอบบริษัทที่เข้ามาบูรณะซ่อมแซมเสนาเสนาะ โบราณสถานว่ามีความน่าเชื่อถือหรือไม่
 
         ประธานคณะกรรมการติดตามตรวจสอบบูรณะซ่อมแซมวัดที่ประสบอุทกภัย เป็นประธานในการประชุม ภายหลังการสำรวจวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ในจังหวัด ฉะเชิงเทรา นครนายก และปราจีนบุรี ณ ห้องประชุมพานหิน ศาลาว่าการจังหวัดปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2555 โดยมี ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปราจีนบุรี จันทบุรี ผู้แทนสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด นครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด และเจ้าหน้าที่กองพุทธศาสนสถาน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ  เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้
 
         ประธานคณะกรรมการติดตามตรวจสอบบูรณะซ่อมแซมวัดที่ประสบอุทกภัย กล่าวว่า คณะกรรมการฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบครั้งนี้เป็นครั้งที่ 12 และได้ทำการตรวจสอบการบูรณะซ่อมแซมวัด 50 จังหวัด  และ 38 จังหวัดใช้การประชุมคณะสงฆ์ โดยเริ่มทำการตรวจสอบครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2555 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นจังหวัดต้นน้ำ  รองลงมาก็จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็นพื้นที่ภาคกลางซึ่งน้ำท่วมอย่าสาหัสสากรรจ์เพราะน้ำท่วมถึง 3 เมตร จากนั้นก็ได้มีการประชุมคณะสงฆ์ในจังหวัดพิษณุโลก ลพบุรี อยุธยา ปทุมธานี งบประมาณในการประชุมสงฆ์นั้น ทางสำนักงบประมาณตรวจเงินแผ่นดินได้แจ้งว่าทางคณะกรรมการฯ ไม่สามารถนำงบประมาณการบูรณะซ่อมแซมวัดมาใช้ได้ จึงได้ของบประมาณจากกรมการท่องเที่ยวเพื่อนำมาใช้เป็นงบประมาณในการจัดประชุมคณะสงฆ์  การปะชุมสงฆ์นั้นจังหวัดที่มีคณะสงฆ์มาประชุมมากที่สุดคือจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีพระสงฆ์เข้ารวมประชุมประมาณ 600 กว่ารูป
 
          นอกจากนี้อยากจะฝากให้ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดทุกท่านช่วยตรวจสอบดูแลโบราณสถานที่ตั้งอยู่ในวัดด้วย โดยให้ทำงานแบบบูรณาการกับกรมศิลปากร เพราะที่ผ่านมาได้มีบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่ได้รับสัมปทานในการบูรณซ่อมแซมโบราณสถานซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดไม่มีหนังสือขออนุญาตเข้าพื้นที่แสดงต่อเจ้าอาวาส ซึ่งทำให้เจ้าอาวาสเกิดความไม่สบายใจ และได้มีบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งได้รับว่าจ้างดีดพื้นอุโบสถวัดสีกุก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  ซึ่งเป็นโบราณสถาน จนพังทลายลงมา ต่อมาบริษัทดังกล่าวก็ได้ไปรับจ้างวัดบางซอ จังหวัดสุพรรณบุรีดีดพื้นอุโบสถในราคา 2 ล้าน 3 แสนบาท  แต่ในขณะเดียวกัน ที่วัดธรรมโพธิ์ศรี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งใช้งบประมาณในการดีดพื้นอุโบสถเพียง 8 แสนกว่าบาท จึงอยากจะฝากให้ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดช่วยเจ้าอาวาสในการตรวจสอบบริษัทที่มารับเหมาในการดีดพื้นอุโบสถ และ การบูรณะซ่อมแซมเสนาสนะภายในวัดว่าบริษัทนั้นมีความน่าเชื้อถือหรือไม่ และอยากจะให้ช่วยตรวจสอบด้วยว่าบริษัทที่เข้ามาบูรณะซ่อมแซมโบราณสถานภายในวัดว่ามีหนังสือขออนุญาตเข้าพื้นที่ด้วย.
ปิดการแสดงความคิดเห็น

บทความที่เกี่ยวข้อง