ฮือฮา! ค้นพบพีระมิด 17 แห่งใต้พื้นทรายที่อียิปต์
เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวบีบีซี (BBC) รายงานว่า นักโบราณคดีชาวสหรัฐฯ ค้นพบพีระมิด 17 แห่งที่หายสาบสูญไป ฝังอยู่ใต้ทรายในอียิปต์ พร้อมทั้งพบสุสานโบราณกว่า 1,000 แห่งและโบราณสถานกว่า 3,000 ที่ หลังร่องรอยอารยธรรมดังกล่าวได้ปรากฎขึ้นบนภาพอินฟราเรดที่ถ่ายจากกล้องดาวเทียมสำรวจ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดที่ถูกนำมาใช้ในงานโบราณคดี
โดย ดร.ซาร่าห์ ปาร์คัก นักโบราณคดีชาวสหรัฐฯ หัวหน้าทีมสำรวจ ได้เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจมากที่พบโบราณสถานเหล่านี้ เพราะพวกเธอได้ทำการวิจัยเรื่องนี้มาหลายปี และการขุดค้นซากพีระมิดนี้ ก็เป็นความฝันของนักโบราณคดีแทบทุกคนเลยทีเดียว ขณะที่ชาวอียิปต์และนักโบราณคดีทั่วโลกก็ฮือฮากับการค้นพบดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง สำหรับการค้นพบในครั้งนี้ ทางทีมสำรวจได้วิเคราะห์ภาพถ่ายจากดาวเทียมที่โคจรเหนือโลกราว 700 กิโลเมตร โดยดาวเทียมเหล่านี้ได้ติดกล้องอินฟาเรดที่สามารถจับภาพของวัตถุต่าง ๆ บนพื้นผิวโลก ซึ่งการสำรวจซากโบราณสถานและพีระมิดนั้น นักโบราณคดีได้ใช้วิธีสังเกตลักษณะของพื้นที่ และด้วยความที่คนอียิปต์สมัยโบราณมักจะสร้างบ้านหรือสิ่งก่อสร้างต่างด้วยอิฐดินเหนียว ซึ่งมีความหนาแน่นกว่าดินที่อยู่รอบๆ จึงมีลักษณะพิเศษที่ทำให้กล้องดาวเทียมสังเกตได้ไม่ยาก ทั้งยังสามารถประเมินทั้งขนาดและมาตราส่วนของสิ่งก่อสร้างที่มนุษย์โบราณอาศัยอยู่ได้
นอกจากนี้ ดร.ซาร่าห์ ยังเชื่อว่า ยังมีโบราณวัตถุอื่น ๆ ที่รอการค้นพบอยู่อีกมากมาย เพราะสิ่งก่อสร้างที่ค้นพบนี้เป็นการวิเคราะห์ภาพบนพื้นผิวโลกเท่านั้น ยังไม่ได้เจาะภาพลงไปลึกในระดับพื้นดินลึกด้วยซ้ำ อีกทั้งยังเชื่อว่า มีสิ่งปลูกสร้างหลายพันแห่งถูกโคลนทับถมจมอยู่ใต้แม่น้ำไนล์ และเพื่อความปลอดภัย ทางการอียิปต์จะมีการวางแผนใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อคุ้มครองโบราณวัตถุต่าง ๆ ของประเทศไว้ ซึ่งภาพถ่ายจากดาวเทียมสามารถแสดงรายละเอียดของการขโมยโบราณวัตถุในสุสานต่าง ๆ และทำให้ทางการอียิปต์เองสามารถแจ้งหน่วยงานตำรวจโลก ให้คอยตรวจสอบโบราณวัตถุที่อาจถูกนำมาขายได้
ยิ่งไปกว่านั้น ดร.ซาร่าห์ ยังหวังว่าเทคโนโลยีภาพถ่ายอินฟราเรดที่ถ่ายจากกล้องดาวเทียมนี้จะช่วยเชื่อมโยงคนหนุ่มสาวให้รู้จักวิทยาศาสตร์มากขึ้น ซึ่งเป็นข้อสำคัญที่จะช่วยนักโบราณคดีทั่วโลกได้ โดยการค้นพบครั้งนี้ถือเป็นมิติใหม่ทางวิทยาศาสตร์ของการค้นพบโบราณสถานทางอวกาศเลยทีเดียว
