มหิดลแถลงข่าวแผนป้องกันอุทกภัย
พื้นที่ปลายน้ำฝั่งตะวันตก กทม.
มหาวิทยาลัยมหิดล จัดแถลงข่าว
ความพร้อมของชุมชนในพื้นที่ศาลายา หากน้ำท่วมอีกครั้ง
มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐ องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น และชุมชนในพื้นที่บริเวณปลายน้ำฝั่งตะวันตกของกรุงเทพมหานคร ร่วมกันแถลงข่าวถึงความพร้อมของชุมชนในพื้นที่ศาลายา หากน้ำท่วมอีกครั้ง เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ.2555 ณ ห้องประชุมประชาสังคมอุดมพัฒน์ สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา จังหวัดนครปฐม โดยมี อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล เป็นประธานในการแถลงข่าวในครั้งนี้
สำหรับแผนป้องกันอุทกภัยพื้นที่ปลายน้ำฝั่งตะวันตก ของกรุงเทพมหานครมีโดยสังเขปดังนี้
1.แผนเตรียมพื้นที่สำหรับ Flood Way กรมชลประทาน กรมทางหลวงชนบท กรมเจ้าท่า ร่วมกันวางแผนบริหารการจัดการน้ำ โดยกรมชลประทานจะพร่องน้ำในเขื่อนให้มีปริมาณน้อยที่สุด โดยไม่กอ่ให้เกิดภัยแล้ง กรมทางหลวงชนบท กรมเจ้าท่าและองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ร่วมกันกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ
2.แผนกำหนดเส้นทางโลจิสติกมหาวิทยาลัยมหิดลร่วมกับกองทัพ กรมเจ้าท่า และกรมทางหลวงกำหนดเส้นทางการขนส่งทางรถ ทางเรือ ทางรถไฟ โดยเอาสถานการณ์น้ำท่วมปี 2554 เป็นแนวตั้ง กำหนดเส้นทางการลำเลียงการขนส่ง การจราจร เตรียมยานพาหะนะสำรองที่จำเป็น เช่น รถGMC รถกระบะ รถบรรทุก เรือสำรอง น้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล ร่วมทั้งเครื่อง GPS
3.การปฐมพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดลและโรงพยาบาลในอำเภอพุทธมณฑลจะเป็นแกนหลักร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ 4 แห่ง ซึ่งจะมีแพทย์จากโรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี และศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ของมหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วยบุคลากรทางการแพทย์ โดยจะมีทีมแพทย์ออกเยี่ยมตรวจประชาชนทุกวัน
4.การสื่อสารทางมหาวิทยาลัยมหิดลจะร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาสังคม โดวจะวางแผนการสื่อสาร ด้วยสื่อเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย เช่น SMS การกระจายเสียงเคลื่อนที่ ทางรถ ทางเรือ และ Social Network ด้วย และ
5. ศูนย์อาสาสมัคร จะมีหน้าที่คอยดูแลเรื่องอาหารน้ำดื่ม ตลอดจนเครื่องอุปโภค และบริโภค
ส่วนทางด้านประธานคณะกรรมการติดตามตรวนสอบบูรณซ่อมแซมวัดที่ประสบอุทกภัยได้เสนอว่า อยากจะให้ทำประกันภัยกับวิริยะประกันภัย ประกันภัยพิบัติ หรือ ประกันภัยน้ำท่วมบ้านของรัฐบาล จะได้รับความคุ้มครองน้ำท่วม ลมพายุ แผ่นดินไหว โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะเป็นผู้พิจารณาว่า ภัยระดับใดจะถือว่าเป็นภัยพิบัติ และต้องมีผู้เอาประกันขอรับความเสียหายตั้งแต่ 2 รายขึ้นไป โดยมีช่วงเวลาเคลมประกันภัยภายใน 60 วัน โดยมีเงื่อนไขเพิ่มเติมคือ กรณีภัยพิบัติน้ำท่วม เมื่อน้ำท่วมเข้าบ้าน