WHO ระบุโรคถุงลมโป่งพองตายปีละ 3 ล้าน
เหตุจากบุหรี่
องค์การอนามัยระบุโรคถุงลมโป่งพอง เป็นสาเหตุการตายของประชากรทั่วโลก เป็นลำดับที่ 5 ในปี ค.ศ.2001 ซึ่งมีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่
ศาสตราจารย์กิตติคุณนายแพทย์ชัยเวช นุชประยูร รองประธานมูลนิธิโรคหืดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โรคถุงลมโป่งพองเป็นสาเหตุการตายของประชากรทั่วโลก เป็นลำดับที่ 6 ในปี ค.ศ.1990 และเป็นลำดับที่ 5 ในปี ค.ศ.2001 โดยมีสาเหตุสำคัญคือ ควันบุหรี่ และควันจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง องค์การอนามัยโลกประมาณการว่า ทั่วโลกมีผู้ป่วยเสียชีวิตด้วยโรคดังกล่าวประมาณปีละ 3 ล้านคน ดังนั้นจึงกำหนดให้มี วันถุงลมโป่งพองโลก (World COPD Day) ขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยกำหนดให้วันพุธสัปดาห์ที่ 2 หรือ 3 ของเดือนพฤศจิกายน เพื่อกระตุ้นเตือนให้บุคลากรทางการแพทย์และการสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องได้ตระหนักว่า โรคนี้เป็นปัญหาทางสาธารณสุขของประเทศที่สำคัญโรคหนึ่งอันเนื่องมาจากการสูบบุหรี่ และเพื่อต้องการลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคนี้
สำหรับประเทศไทย โดยชมรมถุงลมโป่งพองได้ร่วมกับมูลนิธิโรคหืดแห่งประเทศไทย กำหนดจัดงานวันถุงลมโป่งพองโลกขึ้น ในวันที่ 14 พฤศจิกายน ภายในงานมีการจัดนิทรรศการให้บริการตรวจสมรรถภาพการทำงานของปอด วัดปริมาณน้ำตาลในกระแสเลือด วัดความดันของโลหิต ซึ่งผู้ป่วยด้วยโรคนี้ ต้องทุกข์ทรมานจากอาการไอเรื้อรัง เหนื่อย และหายใจลำบาก เนื่องจากความเสื่อมของถุงลมและปอด ผู้ป่วยควรได้รับการดูแลรักษาเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคควรได้รับการตรวจสมรรถภาพปอด เพื่อให้พบโรคในระยะแรกๆ โรคถุงลมโป่งพองเป็นโรคที่มีภาวะของการอุดกั้นอย่างเรื้อรังของหลอดลมทั่ว ปอดทั้งสองข้าง โดยมีพยาธิสภาพเกิดขึ้นที่หลอดลมขนาดเล็กและที่ถุงลม เนื่องจากการสูบบุหรี่อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาแรมปี