๔๐ ปี วัดพระธรรมกาย กับความหมาย
“การสร้างบารมี”
มุ่งสืบสานมโนปณิธานหลวงปู่วัดปากน้ำ
 

 
 
      วัดพระธรรมกาย เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. ๒๕๑๓ เพื่อสืบสานมโนปณิธานอันยิ่งใหญ่ของพระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญ ที่ท่านได้ปฏิบัติธรรมโดยเอาชีวิตเป็นเดิมพันจนสามารถเข้าถึง “พระธรรมกาย” อันเป็นกายตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในคืนวันเพ็ญเดือน ๑๐ ปี พ.ศ. ๒๔๖๐ จากนั้นเป็นต้นมา ท่านได้มุ่งมั่นทำงานพระพุทธศาสนาและเผยแผ่วิชชาธรรมกายไปอย่างกว้างขวางจนมีลูกศิษย์ทั้งในและต่างประเทศ และก่อนมรณภาพในปี พ.ศ. ๒๕๐๒ ท่านได้ฝากลูกศิษย์ให้ช่วยกันเผยแผ่วิชชาธรรมกายไปสู่ใจชาวโลกต่อไป

 
     คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ผู้ให้กำเนิดวัดพระธรรมกาย ศิษย์เอกที่พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ยกย่องว่า “เป็นหนึ่งไม่มีสอง” คุณยายท่านได้ยึดมั่นในคำสั่งและมุ่งสืบสานมโนปณิธานของหลวงปู่วัดปากน้ำ โดยรวบรวมหมู่คณะศิษยานุศิษย์ ช่วยกันบุกเบิกทุ่งนาฟ้าโล่งบนพื้นที่ ๑๙๖ ไร่ ณ ตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ได้รับบริจาคจากคุณหญิงประหยัด แพทยพงศาวิสุทธาธิบดี และได้เริ่มขุดดินก้อนแรก สถาปนา “ศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรม”  ในวันมาฆบูชา พ.ศ. ๒๕๑๓ ด้วยเงินทุนเริ่มต้นเพียง ๓,๒๐๐ บาท ต่อมาได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ใช้ชื่อว่า “วัดพระธรรมกาย” เพื่อสอดคล้องกับการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและวิชชาธรรมกายไปทั่วโลก โดยมีพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย เป็นประธานสงฆ์ ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา ๔๐ ปีแล้ว
 
 

 

๒๗ สิงหา ๔๑ ปี วันธรรมชัย
 

พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) ศึกษาคำสอนของพระพุทธศาสนาและสนใจในการปฏิบัติธรรมตั้งแต่เยาว์วัย ได้มีโอกาสมาปฏิบัติธรรมกับคุณยายอาจารย์ฯที่วัดปากน้ำอย่างสม่ำเสมอ จนซาบซึ้งและรักในการทำสมาธิภาวนา เมื่อจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จึงได้ตันสินใจบวชอุทิศชีวิตถวายเป็นพุทธบูชา เมื่อวันที่ ๒๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๑๒ ณ อุโบสถวัดปากน้ำภาษีเจริญ โดยมีพระเทพวรเวที (ปัจจุบันคือ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษเจริญ) เป็นพระอุปัชฌาย์ ในวันบวชของท่านจึงถือเป็นวันแห่งชัยชนะยิ่งใหญ่สำหรับศิษยานุศิษย์ เพราะเป็นการตัดสินใจที่สำคัญที่สละทางโลก เพื่อมาศึกษาธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างจริงจัง จึงได้สถาปนาวันนี้ว่า “วันธรรมชัย”
 


 
 
 คุณยายอาจารย์ฯ “เป็นหนึ่งไม่มีสอง” 
 
   วัดพระธรรมกาย สร้างมาได้ ๔๐ ปีแล้ว โดยการนำของพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายและประธานมูลนิธิธรรมกาย เพื่อสืบสานมโนปณิธานของพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญที่ให้เผยแผ่พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกายไปทั่วโลก โดยมีแนวคิดในการสร้างวัดคือ “สร้างวัดให้เป็นวัด สร้างพระให้เป็นพระ สร้างคนให้เป็นคนดี” เพื่อชวนชาวโลกมาสร้างบุญสร้างบารมี จึงมีคำขวัญที่ตั้งไว้เป็นเป้าหมายคือ “เราเกิดมาสร้างบารมี” โดยบารมีในที่นี้คือ บารมี ๑๐ ทัศตามอย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอรหันตเจ้าทั้งหลาย เพื่อการหมดกิเลสในที่สุด
 
 
สร้างวัดให้เป็นวัด


 

    การสร้างวัดในส่วนของอาคารสถานที่ ใช้หลักที่ว่า “ประโยชน์สูง ประหยัดสุด” ดูแลรักษาง่าย สร้างเท่าที่จำเป็นต้องใช้ ในส่วนของกิจกรรม ทุกพิธีกรรมที่ทางวัดจัดขึ้นต้องมีการนั่งสมาธิก่อนเสมอ ทั้งการถวายทาน พิธีสร้างเสนาสนะ หรือการฟังธรรมต่างๆ เพื่อให้ทุกคนสั่งสมความบริสุทธิ์ของใจตลอดต่อเนื่อง
 
 
สร้างพระให้เป็นพระ


 

สำหรับพระภิกษุสามเณร เรื่องการสร้างพระให้เป็นพระ ก่อนบวชต้องได้รับการฝึกอบรมก่อนเสมอ ในเรื่องวินัย เคารพ อดทน ซึ่งเป็นหลักคุณธรรมพื้นฐานของ ศีล สมาธิ ปัญญา ผ่านการอบรมเรื่องศีลาจารวัตรแล้วจึงจะได้รับการพิจารณาให้บวชเป็นพระภิกษุได้ และเมื่อบวชแล้วก็ปลูกฝังการบวชตลอดชีวิต เพื่อให้ฝึกหัดขัดเกลาตัวเองได้เต็มที่และเป็นกำลังเผยแผ่พระพุทธศาสนา เป็นที่พึ่งให้กับตนเองและชาวโลกได้

สร้างคนให้เป็นคนดี


 

    สำหรับสาธุชนที่มาวัดต้องไม่นำเรื่องร้อนใจเข้าวัด คือ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า ฯลฯ และใส่ชุดขาวมาวัด โดยชี้แนะให้หมั่นสั่งสมบุญให้เต็มที่ทั้งทาน ศีล และภาวนา เช่น ให้กำลังใจในการรักษาศีล ๕ เป็นปกติทุกวัน จากนั้นชักชวนมาถือศีล ๘ ในวันพระหรือมาอยู่ธุดงค์ที่วัดในวันหยุดศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ส่วนกุลบุตรชายที่มีกุศลศรัทธา ก็เชิญชวนมาบวชเพื่อรักษาศีล ๑๐ ของสามเณร และศีล ๒๒๗ ข้อของพระภิกษุ เป็นต้น

สร้างบารมี “ทาน ศีล ภาวนา”


 

    บางคนเห็นแต่ว่า วัดพระธรรมกาย ชวนทำทานอย่างเดียว แต่ถ้าพิจารณาให้ลึกซึ้งจะเห็นชัดว่า เรื่องศีล ทางวัดได้ชวนคนรักษาศีลอย่างจริงจังมาก สอนตั้งแต่ศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ จนถึงศีล ๒๒๗ ข้อ จนปัจจุบัน พ.ศ. ๒๕๕๓ ที่วัดพระธรรมกาย มีพระภิกษุสามเณรจำพรรษากว่า ๒,๐๐๐ รูป และยิ่งเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาจากโครงการต่างๆ ที่ร่วมกับคณะสงฆ์ทั้งแผ่นดินและหน่วยงานราชการต่างๆ ทั้งโครงการอุปสมบทหมู่ ๗,๐๐๐ รูป ๗,๐๐๐ ตำบล, โครงการอุปสมบทหมู่ ๑๐๐,๐๐๐ รูป ทุกหมู่บ้านทั่วไทย, โครงการอุปสมบทหมู่เข้าพรรษา ๑๐๐,๐๐๐ รูป ทั่วไทย โครงการบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน ๑๐๐,๐๐๐ คน และ ๕๐๐,๐๐๐ คน ทั่วประเทศและทุกทวีปทั่วโลก โดยแต่ละโครงการต้องให้ผู้เข้าอบรมมีเวลานั่งสมาธิอย่างต่อเนื่อง

 
เป้าหมายคือ บรรลุมรรคผลนิพพาน

 
    เหตุผลสำคัญที่วัดพระธรรมกาย มีพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา และสาธุชน มาปฏิบัติธรรมอย่างสม่ำเสมอและเป็นจำนวนมาก เพราะสอนเรื่องสมาธิเป็นหลัก เมื่อผู้ปฏิบัติได้รับความสงบแห่งจิตใจ ย่อมรักในการปฏิบัติธรรม รักในการฟังธรรม รักและมีกำลังใจในการสร้างบุญข้ออื่นๆ ตามมาเป็นลำดับๆ
 
    เป็นความจริงที่ว่า เป้าหมายของทุกคน คือ ทำความบริสุทธิ์ให้กับตนเองเพื่อให้หมดกิเลสเข้าพระนิพพาน จะได้ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก แต่ระหว่างที่ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะสงสาร จำเป็นต้องมีเสบียงในการเดินทาง ซึ่งในปรโลกหรือโลกหน้า มีเพียงบุญกับบาปเท่านั้น ผู้สั่งสมบุญย่อมมีสุคติเป็นที่ไป ผู้สั่งสมบาปย่อมมีทุคติเป็นที่ไป ...ดังนั้น เมื่อยังไม่หมดกิเลส ต้องสร้างบุญให้เต็มที่ เพราะ “การสั่งสมบุญเป็นเหตุนำมาซึ่งความสุขทั้งในโลกนี้และโลกหน้า” โดยมีเป้าหมายคือ บรรลุมรรคผลนิพพาน ซึ่งเป็นบรมสุข สมดังพุทธพจน์ที่ว่า “นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ” แปลความว่า นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง ดังนี้ 
 
 

พระสนิทวงศ์ วุฑฺฒิวํโส
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ วัดพระธรรมกาย

 

ล้อมกรอบ
 
พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวํโส เป็นชาว จ.ยะลา โดยกำเนิด จบมัธยมปลาย (วิทย์-คณิต) ร.ร.สาธิต ม.สงขลานครินทร์ จ.ปัตตานี, จบศิลปศาสตร์บัณฑิต ม.ธรรมศาสตร์, อดีตผู้สื่อข่าวนิตยสารผู้จัดการ ปัจจุบันเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ วัดพระธรรมกาย
 

 

ปิดการแสดงความคิดเห็น

บทความที่เกี่ยวข้อง