Mobile Versionทำธุรกิจอะไรดี ต้องอ่านที่นี่
ธุรกิจยอดฮิต
ธุรกิจยอดฮิตติดเทรนด์โลก
แสดงธรรมโดยพระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒทำธุรกิจอะไรดี ต้องอ่านที่นี่ทำธุรกิจอะไรดี ต้องอ่านที่นี่
วันนี้เรามาคุยกันเรื่องพุทธวิธีทำงานให้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ถามพระพุทธเจ้ามีการกล่าวไว้ว่า จะทำอย่างไงจะหยิบจะจับอะไรให้สำเร็จแบบพรวดพลาดเป็นอัศจรรย์เลยเนี่ย รวยก็รวยเป็นอัศจรรย์เลยเนี่ยมีไหมตอบว่ามี คือหลักธรรมเรื่องจักร 4 มี 4 ข้อ ถ้าหากเอาความหมาย
ข้อที่ 1 คือสิ่งแวดล้อมดี
ข้อที่ 2 คือทีมดี
ข้อที่ 3 คือตั้งเป้าหมายไว้ถูกต้อง
ข้อที่ 4 คือมีบุญมาก่อน
ถ้าว่าศัพท์บาลีนะ สิ่งแวดล้อมดีคือ ปฏิรูปเทส ทีมดีคือ สัปปุริสูปัสสยะ คบคนดี เข้าหาคนดี ข้อที่ 3 ตั้งเป้าหมายถูกต้องหรือตั้งตนชอบ คือ อัตตสัมมาปณิธิ แล้วข้อที่ 4 มีบุญมาก่อน ก็คือ ปุพเพกตปุญญตา ฟังเผินๆ เหมือนกับว่า จะเกี่ยวกับการทำงานให้สำเร็จอย่างไร แต่ความจริงเนี่ย ทำได้อย่างนี้ล่ะก็ 4 ข้อเท่านั้นเองนะ เราหยิบจับอะไรสำเร็จทุกอย่างเลย ลองดูรายละเอียดกัน
ทำธุรกิจอะไรดี ต้องอ่านที่นี่
ข้อแรก สิ่งแวดล้อมดี คือเราทำธุรกิจอะไรต้องเข้าใจสิ่งแวดล้อม สิ่งแวดล้อมที่นี้ไม่ได้หมายถึงสถานที่อย่างเดียวนะ ยังหมายถึงสิ่งแวดล้อมทางเทคโนโลยี สิ่งแวดล้อมทางด้านกฎหมาย สิ่งแวดล้อมทางด้านความเป็นอยู่ของผู้คน คือรอบตัวเราอะไรมีเปลี่ยนไปบ้างเนี่ย เราต้องรู้เท่าทันสิ่งแวดล้อมนั้น ถ้าทำธุรกิจได้ลงตัวสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ทุกอย่างจะรุ่งโรจน์เลย ถ้าสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนเรารู้ไม่เท่าทันรู้นะ แม้เคยใหญ่มาก่อนก็มีสิทธิ์จะล้ม แต่ถ้าเล็กๆ แล้วตรงกับสิ่งแวดล้อมปั๊บจะโตพรวดพลาด
เหมือนอย่างไอบีเอ็มเนี่ย เคยเป็นยักษ์ใหญ่มาก่อน อันดับ 1 ของโลกเลย พอตามสิ่งแวดล้อม ความเปลี่ยนแปลงผู้คนไม่ทันว่าจริงๆ คนต้องการอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ไว้ประจำตัวได้ มันช่วยในการทำงาน มองกระแสนี้ไม่ออก ทั้งที่ตัวเองจับธุรกิจคอมพิวเตอร์โดยตรง จากยักษ์ใหญ่ เกือบล้มละลาย แต่ว่าคนที่เริ่มต้นจากเล็กๆอย่าง Microsoft อย่าง apple พอจับถูกกระแส โตพรวดพลาด กลายเป็นเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของโลกทำธุรกิจอะไรดี ต้องอ่านที่นี่
เทคโนโลยีเปลี่ยนทีเดียว แต่ก่อนเราเคยเห็นร้านฟิล์มสีโกดัก อัคฟา ฟูจิ ไหม เต็มบ้านเต็มเมือง ตอนนี้มีไหม หาแทบไม่เจอเลย เพราะว่ากล้องเขาใช้เป็นกล้องดิจิตอลแทน ฟิล์มสีขายไม่ออก ร้านฟิล์มสีเนี่ยก็เรียกว่า เลิกกิจการไปทำอย่างอื่นแทน เทคโนโลยีปั๊บทุกอย่างเปลี่ยน ใครจะไปเชื่อว่า เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์จะเป็นคู่แข่งกับฟิล์มสีมันเป็นเหมือนคนละสายกันเลยเนี่ย แต่ว่ามันเกิดปรากฏการณ์ ทำให้ธุรกิจอันหนึ่งเจริญขึ้นมาอีกอันหนึ่งเลิกกิจการไปเลยอย่างไม่น่าเชื่อ
กฎหมายแค่เซ็น FTA ทีเดียว ส่งสินค้าเข้า สินค้าออก สะดวก พืชผักผลไม้จากจีนกับไทย FPA กันแล้วไม่มีภาษี แปลงกุหลาบทางเหนือของไทยเนี่ย เลิกกิจการเป็นแถว เพราะกุหลายไทยสวย ก้านยาว ดอกหนึ่ง 10 - 20 บาทเจอกุหลาบจีนความสวยสู้ไม่ได้ แต่ราคา 3 บาท คนเขาก็ไปเลือกซื้อ 3 บาทเกือบหมด แปลงกล้วยไม้ไทย แปลงกุหลาบไทย อยู่ไม่ได้เลิกกิจการไปเลย เป็นแถวๆ เราเห็นไหม เราต้องรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม แต่คนทำธุรกิจผลไม้ถ้ารู้เท่าทันนะ โอ่โหสามารถส่งออกนำเข้า ขยายกิจการกันใหญ่โตเพราะว่าภาษีศูนย์ นี่คือโอกาส เราต้องมองทิศทางการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมได้ออก จึงจะปรับตัวทำธุรกิจได้ถูกต้อง
อย่าว่าแต่บุคคลหรือว่าบริษัทองค์กรนะ ประเทศทั้งประเทศ มองทิศทางสิ่งแวดล้อมไม่ออกเนี่ย ผลคือ ประเทศล่มสลายไปเลย เหมือนสมัยก่อน จีนกับยุโรป ติดต่อกันทางเส้นทางสายไหมประเทศเอเชียกลางรุ่งเรืองมาก พระถังซัมจั๋งตอนจาริกไปอินเดียบันทึกเอาไว้ ไปพักอยู่ที่เมืองนี้ปีหนึ่งสองปี เพื่อปรับเรียนภาษาทางอินเดีย พ่อค้าไปมาหาสู่เมืองเจริญคึกคักมาก เป็นฮับทางการค้าเลย กองคาราวาน กองเกวียนการค้าผ่านไปมาเป็นประจำ แต่พอมีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีการเดินเรือ ค้นพบเข็มทิศการเดินเรือสะดวก บวกกับทางทะเลทรายโจรทะเลทรายเยอะไม่ปลอดภัย คนก็มาส่งสินค้ายุโรปเอเชียทางเรือแทน ประเทศเอเชียกลางเหล่านี้เมืองต่างๆ รกร้างเป็นแถวเลยนะ เคยคึกคักพอสินค้าไม่ผ่าน ไม่มีค่าภาษีอยู่ไม่ได้ คนอพยพหนีไปที่อื่น ล่มสลายไปเลย
Cape townปลายแหลม คุดโฮป ของทวีปแอฟริกาสุดทวีปของแอฟริกานี้แต่ก่อนจะเดินเรือยุโรปกับเอเชียก็ต้องผ่าน แหลมคุดโฮป
พอเทคโนโลยีการเดินเรือก้าวหน้า ค้นพบเข็มทิศ ขนส่งทางทะเลสะดวกกว่าถูกว่า ปลอดภัยกว่า คนก็มาแห่ขนส่งทางทะเล อาณาจักรเหล่านี้ที่เคยรุ่งเรืองก็ล่มสลายเมืองร้างเป็นแถว เพราะคาราวานสินค้าไม่ผ่าน คนไม่รู้จะทำมาหากินอย่างไร ผู้ปกครองไม่มีค่าภาษีคนอพยพหนีไปที่อื่น สุดท้ายเมืองรกร้างว่างเปล่ากันเป็นแถวเลย ที่เคยเขียนบรรยายว่ารุ่งเรืองมาก ในบันทึกไซอิ๋ว พระถังซัมจั๋งเนี่ย กลายเป็นเมืองร้างซะแล้วแต่ที่เจริญมาแทนที่คือ Cape town ที่ปลายแหลม คุดโฮป ของทวีปแอฟริกา สุดทวีปของแอฟริกานี้นะเพราะว่าแต่ก่อนจะเดินเรือยุโรปกับเอเชียก็ต้องผ่าน แหลมคุดโฮป อ้อมตรงนั้น เรือไปๆ มาๆ เมืองเป็นเมืองเจริญผู้คนอพยพมาอยู่กันเยอะแยะมากมาย ที่หนึ่งล่ม ที่หนึ่งเจริญ เพราะสิ่งแวดล้อม ทางเทคโนโลยีมันเปลี่ยนไปเห็นไหม
แต่พอต่อมามีฝรั่งขุดคลองสุเอซ เชื่อมระหว่างมิเตอร์เรเนียนกับทะเลแดง แล้วก็มาทางเอเชียได้ ประหยัดระยะทางไปเยอะเลยเนี่ย มันใกล้กันมาเยอะ สินค้าจากยุโรปกับเอเชียผ่านทางคลองสุเอซแทน แถบนี้ก็เจริญขึ้นมา แต่ว่า cape town ก็เริ่มซบเซา แต่ไม่ถึงขนาดเป็นเมืองร้าง เพราะการขนสินค้าจากอเมริกามาเอเชีย หรือจากอัฟริกาตะวันตกมาเอเชียเนี่ย ยังต้องผ่าน cape town อยู่ แต่จากยุโรปไม่ต้องผ่านแล้ว ผ่านคลองสุเอซถูกกว่า ปริมาณสินค้ามันลดลงไปเยอะแต่ไม่ถึงกับหมด เมืองยังพออยู่ได้ แต่ว่าซบเซา ไม่รุ่งเรืองเหมือนเก่า เราเห็นไหมเอ่ย
สภาวะเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมทุกอย่างส่งผลกระทบทั้งสิ้น เราต้องรู้เท่าทันสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงของสิ่งเหล่านี้ หรือจะเอาธุรกิจหรอ แค่เทคโนโลยีเปลี่ยน Internet ขึ้นมา Google จับเทรนนี้ถูกสร้างบริษัท Google 5 ปี กลายเป็นบริษัทใหญ่ เข้าตลาดหลักทรัพย์ มีมูลค่าตลาดหลักทรัพย์ตั้งแสนล้านเหรียญเนี่ย พอ Internet พัฒนาเป็นบอร์ดแบน ความเร็วสูงดูภาพ VDO ทาง Internet ได้ คนหัวใสตั้งเวปไซด์ YouTube ขึ้นมา ผ่านไปแค่ปีเดียว ขายต่อได้เงินมาพันหกร้อยล้านเหรียญ จับเทรนถูกทำดียอมเหนื่อยปีหนึ่งได้กำไรขายต่อไปห้าหมื่นล้านบาท นี่คือสิ่งที่เรียกว่าเทคโนโลยี กับผลของธุรกิจ
ทำธุรกิจอะไรดี ต้องอ่านที่นี่
อันที่ 2 ทีมดี คือเมื่อเราเองจะทำงานแล้ว มันต้องมีทีม ถ้าศัพท์บาลีบอกว่า สัปปุริสูปัสสยะ คือเข้าไปหาคนดี คนจะนึกว่าไปหาผู้หลักผู้ใหญ่คนที่มีคุณธรรม ในเชิงธุรกิจถ้าจับคอนเซฟนี้ได้ คำว่าทีมเนี่ย เรื่องบุคคล ทีมเนี่ยนะมันมีตั้งแต่คนที่เป็นผู้ใหญ่กว่าเรา คนเสมอกัน คือพาสเนอร์ทางธุรกิจการค้า suppier บริษัทคู่ค้าเป็นต้น หรือว่าลูกน้องเรา ทั้ง 3 ส่วนต้องทำให้ดี หาผู้หลักผู้ใหญ่ มีความอ่อนน้อมไปหาท่าน ให้มีแบล็ค มีบริษัทใหญ่เป็นแบล็ค เรารับช่วงงานต่างๆ มาได้ ซึ่งจะเป็นอย่างนั้นเราต้องทำตัวเราเองให้ดีนะ ให้รู้สึกว่าผู้ใหญ่เมตตาแล้วเชื่อมือ ไว้ใจได้ เขาก็จะป้อนงานให้เรา ให้การสนับสนุนเรา คู่ค้ากันเนี่ย ก็จริงใจซื่อสัตย์ซึ่งกันและกัน เราจริงกับเขา แล้วก็เลือกว่าใครจริงกับเราบ้าง ส่งสินค้าคุณภาพดี ตรงเวลา รับผิดชอบ คนไหนไม่เข้าท่าก็คัดออก คนไหนเข้าท่าก็คบกันให้ยาวๆทีมดี คือเมื่อเราเองจะทำงานแล้ว มันต้องมีทีม ถ้าศัพท์บาลีบอกว่า สัปปุริสูปัสสยะ
Connection เครือข่ายนี่คือ เป็นสิ่งที่ประเมินมูลค่าได้นับไม่ถ้วนเลย แล้วทีมลูกน้องเราใครเก่ง รักษาไว้ให้เขาอยู่เป็นสุข ดึงคนเก่งและก็มีฝีมือเข้ามา คนไหนไม่เข้าท่าก็เอาระบบระเบียบวินัยวางให้ดี มันจะสกรีนออกไปโดยอัตโนมัติ ถ้าอย่างนี้งานจะขยาย จะขยายได้อย่างมีคุณภาพ โอกาสมาถึง จังหวะที่ดีมาถึง ไม่ใช่ว่าเราจะทำได้นะ ถ้าเตรียมตัวไม่พร้อมเนี่ย โอกาสมาแล้ว ลูกค้าสั่งสินค้าเยอะเลย คนทั่วไปจะติดปัญหา จะเอาทุนที่ไหน หาทุนมาขยายงานไม่ทัน สร้างทีมมารองรับงานไม่ทัน ก็จะปล่อยโอกาสให้ผ่านเลยไป เพราะโอกาสไม่ได้อยู่กับเราตลอดเวลา ก็จะมีคู่แข่งเข้ามาแข่งด้วย เขาจะคว้าโอกาสนั้นไป ถ้าเราเตรียมทีมไว้พร้อม งานมาจะหาทุนหรอ มีคน support เพราะเชื่อใจเรา ผู้ใหญ่ support ทีมงานเหรอ ลูกน้องทีมเราโอเคเลย คู่ค้าเหรอ suppier ทุกคนเนี่ย ที่เขาไว้วางใจได้ เรามีอยู่แล้ว เราจะฉวยโอกาสที่มาถึงได้อย่างเต็มที่ โตพรวดพลาดๆ ได้ เพราะเรามีทีมดี
ทำธุรกิจอะไรดี ต้องอ่านที่นี่
ข้อที่ 3 ก็คือ ตั้งเป้าหมายไว้ถูกต้อง คือทิศทางที่เราจะไปจะไปทางไหน จะเข้าใจตรงนี้ ต้องเข้าใจข้อที่ 4 ด้วย งั้นขอพูดข้อที่ 4 ด้วยอธิบายควบข้อที่ 3 เลยนะ ข้อที่ 4 คือเรามีบุญมาก่อน คือมีบุญที่เราสั่งสมไว้เป็นตัวขับเคลื่อนด้วย แล้วนัยยะในการทำงานคำว่ามีบุญวาสนามาก่อนคือ สิ่งที่เราเองหรือสังคมของเราเอง ทำสั่งสมไว้มาตลอดระยะเวลากลายเป็นเครดิตของตัวเรา กลายเป็นต้นทุนทางสังคม ถ้าเราวางทิศทางของธุรกิจนะถูกต้อง คือสอดคล้องกับสภาวะสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี กฎหมาย ความนิยมของผู้คนเนี่ย เราเข้าใจความเปลี่ยนแปลงของสังคม ของสิ่งแวดล้อม แล้วเข้าใจว่าตัวเราเองมีความชำนาญด้านไหน มีทักษะอะไรที่เราเก่งที่เราชำนาญจริงๆ บริษัทเราเก่งอย่างไง ทีมงานเราเองเก่งอย่างไง แล้วสังคมเนี่ย ที่เราอยู่มีต้นทุนทางสังคมอะไรที่ดี เราเอาสิ่งนี้มาประกอบเข้า แล้ววางเป้าหมายไว้ถูกต้องนะเราจะโตพรวดเลย
อย่างเช่นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมามีธุรกิจหนึ่งในประเทศไทยที่เจริญเติบโตเร็วมาก คือธุรกิจรักษาพยาบาล ชาวต่างประเทศ เริ่มโตจริงๆ จังๆ เนี่ยประมาณปี 2544 ถามว่าเพราะอะไร มีเหตุใหญ่ 2 เหตุ
1. คือในประเทศไทยฟองสบู่แตกปี 2540 ลดค่าเงินบาทแล้วนะ คนจนเป็นแถวเลยเนี่ย คนไม่ค่อยมีตังค์ โรงบาลเอกชนหาคนมาใช้บริการน้อยลงไปเยอะ ทำท่าจะอยู่ไม่ได้ จำเป็นต้องหาลูกค้ากลุ่มใหม่
2. คือ อเมริกาเจอปัญหา ก่อการร้ายเครื่องบินไปชนตึกเวิร์ดเทรด ไปชนเพ็นดากอน การออกวีซ่ายากมาก จะเข้าอเมริกาตรวจ X-Ray กันละเอียดยิบเลย โดยเฉพาะมาจากอาหรับแล้วล่ะก็ ยากสุดๆ ผลคือลูกค้าอาหรับที่มีสตังค์เคยไปรักษาพยาบาลที่อเมริกาเริ่มหาที่ใหม่ โรงพยาบาลเอกชนของเมืองไทยเห็นจังหวะนี้เนี่ย เลยเริ่มรับลูกค้าต่างประเทศเน้นจากกลุ่มอาหรับ ปรากฏว่าเวิร์ค เพราะว่าคนไทยมีบุญมาก่อนคือ มีอัธยาศัยในการต้อนรับแขกดี เป็นคน Open ต่างชาติมาแล้วสบายใจ การต้อนรับคนไทยดีมาก หมอไทยเก่ง ไม่แพ้ใครที่ไหนในโลกเลย แต่ค่าใช้จ่าย รักษาพยาบาลเมืองไทยถูก ผ่าตัดอเมริกาใช้ล้าน แต่ที่เมืองไทย แสนเดียว ฝีมือหมอดีอีก ต้อนรับบริการดี ไม่ดูถูกเขา เขามาแล้วสบายใจ ปากต่อปากบอกต่อกันไปแห่มากันใหญ่ แค่บำรุงราษฎร์ที่เดียวที่เป็นจุดเริ่มต้นนะ ปีนึงเนี่ยดึงลูกค้าต่างประเทศเข้ามา ได้เงินจากตรงนี้เนี่ยเป็นหมื่นล้าน โรงบาลอื่นก็ขยับขยายกันเป็นแถว ผลคือประเทศไทยกลายเป็นทัพการรักษาพยาบาลของลูกค้าต่างชาติเลย คราวนี้ไม่ใช่เฉพาะอาหรับ ญี่ปุ่นก็มา จีนก็มา ฝรั่งเองยังมาเลย เพราะมาแล้วฝีมือดี แล้วราคาถูกอ่ะ มันก็มีแรงดึงดูด เพราะสอดคล้องกับกระแสของโลกที่ต้องการเรื่องรักษาสุขภาพมาก ให้ความสำคัญเรื่องนี้ แล้วของเราเองฝีมือดี ราคาถูก คนมีอัธยาศัย ต้อนรับแขก พอลงตัวอย่างนี้ โตพรวดเลย
ธรรม 4 ประการ ที่เมื่อใครปฏิบัติตามนี้แล้วก็จะเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วประดุจจักรนั้นเอง
ทำธุรกิจอะไรดี ต้องอ่านที่นี่
นี่คือตัวอย่างของการวางเป้าหมายไว้ถูกต้อง เราเองจะวางเป้าหมายธุรกิจไว้อย่างไง อย่าไปวางตามกระแส เห็นเขาทำอะไรแล้วรวยก็อยากจะรวยตามเขา ต้องถามตัวเองว่าเรามีความชำนาญเรื่องอะไร ตัวเราเนี่ยเราเก่งอะไรความเก่งเรากับเขาไม่เหมือนกัน เขาทำรวย เราทำอาจจะเจ๊งก็ได้ บริษัทเราเด่นเรื่องอะไรยุคนี้เขาชอบว่าใครจับอะไรจับให้เก่งจริงๆ เนี่ยให้ชำนาญจริงๆ อย่างอื่นใช้การถ้าอย่างนี้ล่ะก็ เราสามารถพัฒนาทักษะเฉพาะด้านได้อย่างดีเยี่ยมเลย แล้วก็มองทิศทางความเป็นไปของโลกว่าที่เราชำนาญเนี่ย มันสอดคล้องกระแสของสิ่งแวดล้อมที่กำลังต้องการไหม บุคลากรทีมงานของเราสังคมของเราเองมีต้นทุนวัฒนธรรมเรื่องนั้นเป็นอย่างไร รัฐบาลเข้าใจเรื่องนี้ไหม กฎระเบียบเอื้อให้หรือเปล่า พอทั้งหมดลงตัวแล้ววางเป้าหมายปั้ง ลงไปถูกต้อง มันก็จะโตอย่างพรวดพลาด เพราะฉะนั้นทั้ง 4 ประเด็นนี้
1. เข้าใจสิ่งแวดล้อม
2. ทีมดี
3. ตั้งเป้าหมายถูกต้อง
4. มีบุญมาก่อน ทั้งบุญละเอียดภายใน แล้วก็บุญคือการกระทำที่เราเองสั่งสมมาจนเป็นทักษะความรู้ ความสามารถต้นทุนส่วนตัว ต้นทุนขององค์กร บริษัทของเรา ต้นทุนของสังคมประเทศชาติ วัฒนธรรมถ้าได้ 4 อย่างนี้แล้วล่ะก็ จะสำเร็จอย่างรวดเร็ว พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ถึงเรียกว่า จักร 4 เรารู้จัก จักรไหมเอ่ยที่หมุนไปใช่ไหม
เพราะฉะนั้นจักร 4 คือว่าธรรม 4 ประการ ที่เมื่อใครปฏิบัติตามนี้แล้วก็จะเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วประดุจจักรนั้นเอง ก็ขอให้ท่านผู้ชมทันโลกทันธรรมทุกท่านประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ด้วยการปฏิบัติตามหลักธรรม จักร 4 กัน ทุกท่านเลยนะบทความที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจยอดฮิตติดเทรนด์โลก
http://goo.gl/9qIMm
พิมพ์บทความนี้
