" เอกวาดอร์ "
ดินแดนบนเส้นศูนย์สูตรกับเส้นทางสู่ศูนย์กลางกาย
เรื่อง : ทีมงาน Peace Revolutionจากวารสารอยู่ในบุญฉบับเดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๕๙
เอกวาดอร์เป็นประเทศเล็ก ๆ ในทวีปอเมริกาใต้ เป็นหนึ่งใน ๑๓ ประเทศในโลกที่มีเส้นศูนย์สูตรพาดผ่าน คำว่า “เอกวาดอร์” มาจากภาษาสเปน “Ecuador” ที่แปลตรงตัวว่า “เส้นศูนย์สูตร” หากท่านผู้อ่านอยากจะลองหาประเทศนี้ในแผนที่โลก ก็ต้องมองไปที่มุมบนซ้ายของทวีปอเมริกาใต้ จะเห็นเป็นประเทศเล็ก ๆ ติดมหาสมุทรแปซิฟิก หมู่เกาะกาลาปากอสที่ชาร์ลส์ ดาร์วิน นักวิทยาศาสตร์เจ้าของทฤษฎีวิวัฒนาการ เคยเดินทางมาศึกษาเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเอกวาดอร์เช่นกัน เอกวาดอร์ในอดีตเป็นถิ่นที่อยู่ของชาวอินคาก่อนการครอบครองของสเปน ทำให้ประชากรเอกวาดอร์มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ หากลองดูระยะทางแล้วจะเห็นว่า เอกวาดอร์อยู่คนละซีกโลกกับประเทศไทยเลยทีเดียว แต่ถึงแม้ว่าระยะทางจะห่างไกลสักแค่ไหน ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการนำแสงสว่างแห่งสันติสุขภายในไปสู่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน...
ในเดือนนี้ ทีมงานพีซเรฟโวลูชันจะขอนำเสนอเรื่องราวการจัดกิจกรรม PIPO ครั้งแรก ณ ประเทศเอกวาดอร์ ซึ่งเป็นการเดินสายสอนสมาธิ(Meditation)โดยพระอาจารย์และทีมงานพีซเรฟโวลูชันเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพื่อนำความรู้เรื่องสันติสุขภายในไปแนะนำให้พี่น้องชาวเอกวาดอร์ได้รู้จักและสัมผัส โดยเดินทางไปในเมือง ๕ เมือง คือ เมืองกัวยาคิว,วิลกาบัมบา, โลฮา, เควนกา และเมืองหลวงกีโตแล้วจัดนั่งสมาธิทั้งหมด ๑๓ รอบ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม ๗๐๒ คน แต่ในที่นี้ผู้เขียนขอยกตัวอย่างกิจกรรมใน ๓ สถานที่มานำเสนอให้ท่านผู้อ่านได้สัมผัสเรื่องราวการเดินทางสู่เส้นทางสายกลางภายในของชาวเอกวาดอร์
เมืองวิลกาบัมบา (Vilcabamba) “สวรรค์ของผู้ย้ายถิ่นชาวอเมริกัน”
วิลกาบัมบาเป็นเมืองที่รู้จักโดยทั่วไปว่ามีพลเมืองสูงอายุเฉลี่ยมากที่สุดในโลก โดยมีตำนานว่าผู้สูงอายุสามารถอยู่ได้ถึง ๑๒๐-๑๓๐ ปีทั้งนี้น่าจะเป็นเพราะมลภาวะที่น้อย อากาศและน้ำก็บริสุทธิ์ สำหรับกิจกรรมการสอนสมาธิในเมืองนี้จัดขึ้นที่โฮสเทเรีย อิซคายลูมา (Hosteria Izhcayluma) ซึ่งเป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ห่างจากวิลกาบัมบาเพียงแค่ ๑๐ นาที มีพื้นที่กว้างขวางและมีห้องพักจุคนได้ ๘๐ คน
อิซคายูมาทำการประชาสัมพันธ์ให้แก่คนในท้องถิ่น และ Expat (ผู้ย้ายถิ่นไปอาศัยอยู่ในเอกวาดอร์) ทำให้มีคนมาร่วมปฏิบัติธรรมถึง ๖๐ คน โดยเฉพาะ Expat กว่าครึ่งเคยนั่งสมาธิกันมาก่อนแล้ว ทำให้เมื่อมาถึงก็นั่งหลบั ตาโดยไมฟ่ งั คำอธิบายวิธีการปฏิบัติธรรมเบื้องต้นกันก่อน พระอาจารย์จึงแนะนำวิธีทำสมาธิแบบสั้น ๆ แล้วขอร้องว่าให้อยู่นั่งกันจนจบ แล้วก็ลุยนั่งกันเลย และเนื่องจากสถานที่ค่อนข้างสัปปายะ ทำให้บรรยากาศการนั่งค่อย ๆ กลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับธรรมชาติถึงจุดหนึ่งเสียงขยับขาไปมาก็ค่อย ๆ หายไปเหลือเพียงเสียงใบไม้ไหว เสียงลมพัด และเสียง “สัมมาอะระหัง” เท่านั้น ก่อนจบรอบมีคนเดินออกไป ๒-๓ คน แต่คนที่เหลือยังคงอยู่กับความนิ่ง
เวลาผ่านไป ๔๐ นาที เมื่อพระอาจารย์บอกให้ลืมตา หลาย ๆ คนยังลืมตาไม่ขึ้น เมื่อถามประสบการณ์มีหลายคนบอกว่าเห็นพระอาทิตย์สว่าง โดยมีดวงหนึ่งสว่างอยู่บนหัว (ช่วงที่พระอาจารย์ให้นึกถึงดวงอาทิตย์ที่กลางท้อง แดดออกพอดี) อีกดวงหนึ่งสว่างที่กลางท้อง โดยสว่างกันเกินครึ่งห้องเลยทีเดียวหลายคนบอกว่า ฉันรู้สึกเหมือนตัวโคลง ๆบ้างก็บอกว่าเกิดอาการเหมือนตกจากที่สูงแต่ก็ไม่ได้ตกใจ เพราะมีความสุขเกิดขึ้นด้วยหลายคนบอกว่าคำภาวนา “สัมมาอะระหัง”ทำให้เขามีความสุขมาก เมื่อภาวนาก็กลายเป็นยาที่ชะล้างความคิดออกไปจากใจ สุภาพสตรีคนหนึ่งบอกว่าเสียงของพระอาจารย์ทำให้ใจเขานิ่งจนถึงจุดที่ลึก ลึกจนความคิดรบกวนไม่ได้ และทำให้ตัวเบาเหมือนลอยได้
โรงละครซูเคร (Sucre Theater)
รอบนี้ถือเป็นไฮไลต์ของการเดินทางทั้งหมด เพราะเป็นรอบที่จัดในโรงละครหลักของเมือง ซึ่งมีความจุกว่า ๓๐๐ ที่นั่ง โดยมีซานดิอาโก เด็กหนุ่มชาวเอกวาดอร์ ซึ่งเคยผ่านการอบรมเป็นพีซเอเจนต์เป็นแกนหลักลุยช่วยประสานงาน เดินสายประชาสัมพันธ์กับวิทยุท้องถิ่นหลายสถานี และส่งข่าวไปลงหนังสือพิมพ์ด้วย นอกจากนี้ระหว่างทางเดินจากที่จอดรถไปยังโรงละครยังติดโปสเตอร์ที่มีรูปของพระอาจารย์อยู่แทบจะทั่วทุกมุมถนน
โรงละครที่ใช้นั่งสมาธิมี ๒ ชั้น ชั้นล่างจุได้ ๒๐๐ คน ชั้นบนอีก ๑๐๐ คน เมื่อสำรวจตรวจตราอุปกรณ์เครื่องเสียงแล้ว พระอาจารย์ก็หลับตารอ และเมื่อท่านลืมตาขึ้นมาก็รู้สึกแปลกใจที่ทุกที่นั่งในชั้นล่างจำนวน ๒๐๐ เก้าอี้เต็มหมด พระอาจารย์เริ่มจากการแนะนำตัวเบา ๆ ให้คุ้นเคยก่อนว่า บุรุษที่ห่มจีวรสีส้มดุจเปลวไฟที่อยู่ตรงหน้าคือใคร เพื่อละลายกำแพงความเชื่อที่อาจจะกั้นระหว่างตัวท่านและหมู่มหาชนที่อยู่ตรงหน้า
ตลอด ๔๐ นาทีในการนั่งสมาธิ สภาพโรงละครเหมือนถูกหยุดเวลาไว้ พระอาจารย์อยากจะทราบว่า ในความสงัดที่เกิดขึ้นนั้นพวกเขานั่งสมาธิกันจริง ๆ หรือเปล่า จึงลืมตาขึ้นมาดู ปรากฏว่า ความรู้สึกภายในกับภาพที่เห็นภายนอกนั้นสอดคล้องไปด้วยกัน และเมื่อทุกคนลืมตาขึ้นก็เหมือนผึ้งแตกรัง เสียงอื้ออึงทำให้พระอาจารย์ต้องถามซ้ำหลายรอบว่านั่งกันได้ดีไหม สบายไหม ประมาณ ๙๐ เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียวที่ตอบว่าสบาย ตัวเบา และสามารถไปถึงจุดที่ความคิดสงบลงได้ นอกจากนี้ กว่า ๔๐ เปอร์เซ็นต์บอกว่าสามารถนึกถึงพระจันทร์ได้อย่างชัดเจน
ทางผู้จัด คือ ซานดิอาโกและเพื่อน ๆรู้สึกประหลาดใจกับความสำเร็จที่เกิดขึ้นหลาย ๆ คนส่งอีเมล์มาขอบคุณซานดิอาโกอย่างต่อเนื่อง เพื่อนคนหนึ่งซึ่งสมัครเป็นสมาชิกเว็บไซต์พีซเรฟโวลูชันบอกอย่างตื่นเต้นว่า ปกติผู้คนที่นี่ไม่ค่อยสนใจเรื่องทางจิตวิญญาณเท่าไรนัก วันนี้ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ผู้คนชาวเควนกาจะให้ความสนใจในการฝึกฝนจิตของตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการทำสมาธิสืบไป
มหาวิทยาลัยซานฟรานซิสโก (Universidad San Francisco de Quito)
มหาวิทยาลัยซานฟรานซิสโกตั้งอยู่ในเมืองหลวงที่ชื่อกีโต ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ทีมงานได้รู้จักกับศาสตราจารย์เรโนลด์ นอยบอล์อาจารย์คณะวิชาปรัชญาตะวันออก ที่สมัยวัยรุ่นเคยไปบวชเป็นพระเถรวาทในประเทศไทยอยู่ ๓ ปี ทำให้สามารถพูดภาษาไทยได้
ก่อนหน้านี้ ทางมหาวิทยาลัยได้ประกาศข่าวกิจกรรม PIPO ในจดหมายข่าว ทำให้วันนี้มีผู้ร่วมนั่งสมาธิถึง ๑๐๐ คน ซึ่ง ๘๐ เปอร์เซ็นต์เป็นนักศึกษา และส่วนใหญ่ก็เคยนั่งสมาธิมาก่อน นักศึกษาคนหนึ่งกล่าวว่าการที่วันนี้ได้มานั่งสมาธิกับพระเป็นสิ่งที่ดีปกติเขาเคยนั่งอยู่แล้ว แต่รู้สึกไม่มั่นใจกับประสบการณ์ เนื่องจากขาดผู้ชี้แนะ และยังกล่าวอีกด้วยว่า มนุษย์ทุกคนควรจะมีสันติสุขภายในดังที่พระอาจารย์สอนว่า “การมีสันติสุขภายในจะทำให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ขึ้น ทำให้มองโลกในทางที่ดีขึ้น ซึ่งถือเป็นความรับผิดชอบพื้นฐานของการเป็นมนุษย์” เขาบอกด้วยว่ารู้สึกมีความสุขมากกับแสงสว่างที่เกิดขึ้นภายใน
รอบนี้คนส่วนใหญ่ในห้องน่าจะนั่งสมาธิได้อย่างมีความสุข เพราะนั่งไปเกือบ ๕๐ นาทีถือเป็นรอบที่นั่งนานที่สุด แม้จะมีคนลุกออกไปบ้าง แต่ส่วนใหญ่ยังนั่งนิ่งไม่ขยับ นอกจากประสบการณ์ตัวโปร่ง โล่ง เบา สบาย เหมือนลอยได้แล้ว รอบนี้ยังมีคนตกศูนย์หลายสิบคนพวกเขาถามขึ้นมาเองว่ารู้สึกเหมือนพื้นหายไปและเหมือนตกจากที่สูง สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร นอกจากนี้ยังมีคนที่รู้สึกว่าตกลงไปได้เรื่อย ๆ อีกด้วย
ศาสตราจารย์เรโนลด์เองก็ดูจะปลื้มกับรอบนี้อยู่ไม่น้อย ก่อนกลับจึงได้สนทนากันถึงความเป็นไปได้ที่จะทำความร่วมมือเกี่ยวกับการสอนพระพุทธศาสนาที่นี่อีกด้วย
สรุปแล้วการจัดกิจกรรม PIPO ในครั้งนี้ถือว่าได้ผลเกินความคาดหมาย เพราะถึงแม้ว่าเรามีกำลังคนที่ช่วยเตรียมการและประสานงานเพียงไม่กี่คน แต่ก็มีผู้มาร่วมนั่งสมาธิจำนวนมาก และส่วนใหญ่มีผลการปฏิบัติธรรมที่ดีมีความสุขจากภายใน ซึ่งนับเป็นการยืนยันว่าเส้นทางสู่ศูนย์กลางกายนี้ เป็นเส้นทางแห่งการเข้าถึงความสุขที่แท้จริง และไม่ว่าจะเป็นคนเชื้อชาติศาสนาใด ก็เข้าถึงความสุขภายในได้เหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวเอกวาดอร์ซึ่งได้รับกำลังใจจากพระอาจารย์ว่า พวกเขานี่แหละเหมาะสมที่สุดที่จะเกิดตามเส้นทางสายกลาง เพราะขนาดตอนที่เกิดมา พวกเขายังเลือกเกิดในประเทศที่ตั้งอยู่บนศูนย์กลางของโลก (เส้นศูนย์สูตร) เลย
เอกวาดอร์...ดินแดนบนเส้นศูนย์สูตรกับเส้นทางสู่ศูนย์กลางกาย
อกวาดอร์เป็นประเทศเล็ก ๆ ในทวีปอเมริกาใต้ เป็นหนึ่งใน ๑๓ ประเทศในโลกที่มีเส้นศูนย์สูตรพาดผ่าน คำว่า “เอกวาดอร์” มาจากภาษาสเปน “Ecuador” ที่แปลตรงตัวว่า “เส้นศูนย์สูตร” หากท่านผู้อ่านอยากจะลองหาประเทศนี้ในแผนที่โลก ก็ต้องมองไปที่มุมบนซ้ายของทวีปอเมริกาใต้ จะเห็นเป็นประเทศเล็ก ๆ ติดมหาสมุทรแปซิฟิก... https://dmc.tv/a21127
บทความธรรมะ Dhamma Articles > Review รายการ[ 23 ก.พ. 2559 ] - [ ผู้อ่าน : 18290 ]
บทความอื่นๆ ในหมวด
วันลอยกระทง 2566 ประเพณีและประวัติวันลอยกระทง วิธีทำกระทงง่ายๆวันตรุษจีน 2566 ประวัติวันตรุษจีน การ์ดและคำอวยพรตรุษจีน
วันครูแห่งชาติ 2567 ประวัติความเป็นมาของวันครู กิจกรรมวันครู
วันพ่อแห่งชาติ 2566 ประวัติความเป็นมาความสำคัญ กลอนวันพ่อ การ์ดวันพ่อ
วันปิยมหาราช ประวัติและความสำคัญของวันปิยมหาราช
วันแม่แห่งชาติ 2566 กลอนวันแม่ ประวัติความเป็นมาและความสำคัญของวันแม่แห่งชาติ
กลอนวันแม่ กลอนวันแม่สั้นๆ ซึ้งๆ จากใจลูกน้อย
วันสื่อสารแห่งชาติ 2566 ประวัติความเป็นมาและความสำคัญของการสื่อสาร
วันภาษาไทยแห่งชาติ 2566 ประวัติ ความสำคัญของวันภาษาไทยแห่งชาติ
วันสิ่งแวดล้อมโลก World Environment Day
วันงดสูบบุหรี่โลก 31 พฤษภาคม 2566 World No Tobacco Day
วันครอบครัว 14 เมษายน ประวัติความเป็นมาและความสำคัญ
วันสตรีสากล ประวัติความเป็นมาความสำคัญของวันสตรีสากล