มีอะไรที่ยิ่งใหญ่รอเราอยู่

แต่ที่ดิฉันรู้ ณ วันนี้ ก็คือ ดิฉันได้เกิดเป็นมนุษย์ และพบพระพุทธศาสนา ได้เรียนรู้สมาธิเพื่อการเข้าถึงพระธรรมกาย ซึ่งประเสริฐที่สุดแล้วค่ะ และดิฉันก็มั่นใจว่า พระธรรมกายภายใน ท่านกำลังรอให้ดิฉันเข้าไปพบท่านอยู่ค่ะ https://dmc.tv/a2680

บทความธรรมะ Dhamma Articles > ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ > โอเชียเนีย > ออสเตรเลีย
[ 12 พ.ย. 2550 ] - [ ผู้อ่าน : 18268 ]

ผลการปฏิบัติธรรม

บาร์บาร่า  สก็อต (ประเทศออสเตรเลีย)
 

    ดิฉันชื่อ บาร์บาร่า สก็อต มีชื่อทางธรรมว่า สุศีละ อายุ 63ปี ชาวออสเตรเลียค่ะ ตั้งแต่ครั้งยังเป็นเด็ก ดิฉันมักจะไปนั่งใต้ต้นไม้ แล้วตั้งคำถามว่า ดิฉันเกิดมาทำไม คนเราตายแล้วไปไหน ชีวิตหลังความตายเป็นอย่างไร มักจะคิดเสมอๆว่า มีอะไรที่ยิ่งใหญ่รอเราอยู่

 
    คราวหนึ่ง ดิฉันได้ออกไปเดินเล่นอยู่ริมชายหาด เมื่อไม่รู้จะทำอะไร จึงนั่งหลับตาเฉยๆ ฟังเสียงคลื่นกระทบชายฝั่ง เสียงสายลมพัดพลิ้วไปมา การได้นั่งเฉยๆในครั้งนั้น ทำให้จิตใจหยุดนิ่ง ร่างกายผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก ทำให้รู้สึกว่า การนั่งเฉยๆนี่...ใช่เลย เป็นการพักผ่อนใจที่ถูกวิธีที่สุด และนั่นเป็นแรงบันดาลใจให้เริ่มหัดนั่งสมาธิ(Meditation)ค่ะ ดิฉันจึงเริ่มเดินทาง เพื่อค้นหาวิธีการฝึกสมาธิหลายวิธี ทั้งแบบเต๋า ทิเบต โยคะ หรือแบบลมหายใจ รวมแล้วกว่า 30ปี
 
    จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ.2550 ดิฉันได้พบ พระอาจารย์มนต์ชัย จาก ศูนย์ปฏิบัติธรรมบริสเบน เข้าร่วมประชุมเรื่องการสอนพระพุทธศาสนาในโรงเรียน จากที่พบกันในครั้งนั้น ท่านก็ชวนดิฉันให้มาเยี่ยมชมที่ศูนย์ปฏิบัติธรรม จึงทำให้ดิฉันได้นั่งสมาธิเพื่อเข้าถึงพระธรรมกายเป็นครั้งแรก ดิฉันคิดว่าเป็นวิธีที่น่าสนใจมาก เพราะดิฉันสามารถหาจุดพักใจได้อย่างง่ายๆ เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทำใจให้สงบค่ะ
 
    จากนั้น ดิฉันก็ได้รู้จักกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ และ DMC พอทราบว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่อมีอายุ 63ปี ดิฉันถึงกับตกตะลึงว่า “หลวงพ่อทำไมถึงหล่อและดูอ่อนเยาว์เช่นนี้” การที่ได้ฟังพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ถือเป็นกำไรชีวิตอย่างยิ่ง ท่านได้เทศน์ในสิ่งที่ดิฉันไม่เคยรู้ สอนในสิ่งที่ไม่เคยเรียน และย้ำเตือนในสิ่งที่ไม่เคยตระหนัก โดยเฉพาะเรื่องของกฎแห่งกรรม ทำให้ดิฉันได้เรียนรู้คำสั่งสอนดั้งเดิมของพระสัมมาพระพุทธเจ้า
 
    ดิฉันสวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็น และนั่งสมาธิเป็นประจำทุกวัน เมื่อได้สวดสรรเสริญพระมงคลเทพมุนีครั้งแรก ดิฉันตื้นตันมากจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เหมือนได้พบบุคคลที่แสวงหามานาน ดิฉันเชื่อว่า สิ่งที่ดิฉันค้นหานั้นเป็นธรรมะที่อยู่ภายในตัวของดิฉันนั่นเอง และได้เดินทางเป็นระยะเวลานาน ข้ามภพข้ามชาติ เพื่อที่จะใช้สมาธิ ศึกษาในสิ่งที่เป็นเป้าหมายอันสูงสุด และดิฉันมั่นใจว่า ด้วยวิธีการนั่งสมาธิที่กำลังทำอยู่นี้ ดิฉันมาถูกทางแล้วค่ะ ตอนนี้ดิฉันได้พบกับความมหัศจรรย์ที่อยู่ภายในแล้วค่ะ
 
    ปกติแล้ว ดิฉันเป็นคนคิดมาก และชอบตั้งคำถาม แต่พอเวลานั่งสมาธิ ดิฉันก็ตั้งสติว่า ตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ มันเป็นเวลานั่งสมาธิ ไม่ใช่เวลาคิด ดิฉันจึงนำใจไปไว้ที่ศูนย์กลางกาย และถ้าหายใจลึกๆ จะสามารถรู้ได้ว่า ตำแหน่งศูนย์กลางกายนั้นอยู่ที่ใด ที่นี่เป็นที่สำหรับใจของดิฉัน ไม่ใช่ที่สำหรับความคิดเรื่อยเปื่อย
 
    ดิฉันเคยลองมาหลายวิธี บางครั้งดิฉันก็พยายามมากเกินไป ยิ่งพยายามมากเท่าไหร่ความฟุ้งซ่านรำคาญใจก็มากขึ้นเท่านั้น และในที่สุด ดิฉันก็ได้พบว่า ความผ่อนคลาย และการเปิดใจยอมรับที่จะนำใจไปไว้ที่ศูนย์กลางกาย และภาวนา สัมมา อะระหัง อย่างไม่มีเงื่อนไขนี่แหละคือ กุญแจสำคัญ
 
 
    เมื่อใจของดิฉันค่อยๆสงบลง ดิฉันรู้สึกว่า ตัวหมุนคว้างจนมึนงง พอตัวหยุดหมุน ดิฉันก็เห็นองค์พระแก้วใสองค์เล็กๆ ผุดขึ้นในกลางกาย องค์พระที่ดิฉันเห็น ท่านอยู่ในท่านั่งสมาธิ ลักษณะคล้ายกับองค์พระที่เห็นในจอ DMC ดิฉันมีความสุขมากๆ จากการที่เห็นองค์พระแก้วใสผุดขึ้นมาในกลางกายค่ะ
 
    ก่อนที่ดิฉันจะเปลี่ยนเป็นพุทธศาสนิกชน ดิฉันคิดเสมอค่ะว่า มีอะไรที่ยิ่งใหญ่ที่รอเราอยู่นั้นคงจะเป็น God กระมัง แต่หลังจากที่เป็นชาวพุทธแล้ว ดิฉันแน่ใจเลยค่ะว่า สิ่งที่รอเราอยู่นั้น คือ พระสัมมาพระพุทธเจ้าอย่างแน่นอน มันยากที่จะอธิบายค่ะ ในการนั่งสมาธิของดิฉันโดยเฉพาะช่วงนี้ ยิ่งนั่ง ยิ่งรู้สึกเหมือนกลับบ้านเก่า
 
    การนั่งสมาธิเป็น Journey to Lord Buddha (การเดินทางไปหาพระสัมมาพระพุทธเจ้า) และการเดินทางนี้ยังคงมีต่อไป ตราบกระทั่งได้พบและเข้าใจในทุกๆสิ่ง ที่พระสัมมาพระพุทธเจ้าได้สั่งสอนเอาไว้ ซึ่งต้องค้นเข้าไปสู่ภายในเรื่อยๆ
 
    เมื่อตอนที่ดิฉันเป็นชาวคริสต์ตัวน้อยๆ นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ และเฝ้ารอพบผู้ยิ่งใหญ่ เพื่อถามคำถามกับท่านว่า ดิฉันเกิดมาทำไมและผู้ยิ่งใหญ่อยู่ที่ไหน ตอนนี้ดิฉันคิดว่า ตนเองได้รับคำตอบนั้นแล้วค่ะ ดิฉันเชื่อตลอดว่าชีวิตหลังความตายมีอยู่จริง และเมื่อได้นั่งสมาธิ ก็ยิ่งรู้ชัดว่า  มีชีวิตหลังความตายแน่ๆ  
 
    ดิฉันเคยอ่านหนังสือเรื่องหนึ่ง เขียนว่า พระภิกษุสามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ คนอื่นอาจเห็นเป็นเรื่องตลก แต่ดิฉันกลับเชื่อว่า มันน่าจะมีทางที่มนุษย์สามารถเอาชนะขีดจำกัดของร่างกายได้ ตอนนั้นดิฉันยังมีอายุน้อย จึงคิดว่าน่าจะเหาะได้แน่ๆ แต่พออายุมากขึ้นก็คิดว่า แม้ชาตินี้จะยังเหาะไม่ได้ ชาติต่อๆไปก็แล้วกัน และเป้าหมายสูงสุดของชาวพุทธคือ “การรู้แจ้ง” ถ้ายังไปไม่ถึงในชาตินี้ ก็ต้องสั่งสมบารมีให้มากขึ้น ซึ่งก็ไม่รู้ว่าชาติไหน
 
    แต่ที่ดิฉันรู้ ณ วันนี้ ก็คือ ดิฉันได้เกิดเป็นมนุษย์ และพบพระพุทธศาสนา ได้เรียนรู้สมาธิเพื่อการเข้าถึงพระธรรมกาย ซึ่งประเสริฐที่สุดแล้วค่ะ และดิฉันก็มั่นใจว่า พระธรรมกายภายใน ท่านกำลังรอให้ดิฉันเข้าไปพบท่านอยู่ค่ะ
 
 
    ในใจลึกๆ ดิฉันอยากบวชมานานมาก ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ยากที่จะอธิบาย ดิฉันไม่สามารถยับยั้งใจตัวเองไม่ให้บวชไม่ได้ คราวหนึ่งดิฉันป่วยมาก มีพระมาเยี่ยมแล้วก็สวดมนต์ให้ ดิฉันคิดกับตัวเองว่า “โอ...ถ้าเราตายไปตอนนี้ เราก็คงจะไม่ได้บวช ชีวิตนี้คงสูญเปล่า ดิฉันจะ Happy กว่า ถ้าได้เกิดใหม่ในทางธรรม” นั่นเป็นจุดหักเหของชีวิต เป็นการตัดสินใจครั้งสุดท้าย ด้วยความแน่วแน่ว่าจะบวชค่ะ ตอนดิฉันจะบวช พระที่บวชให้ก็ถามหลายครั้งว่า “เธอแน่ใจเหรอ" ดิฉันก็บอกว่า “ชัวร์ค่ะ”  จึงได้บวชเป็นแม่ชีเมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2550 และมีชื่อทางธรรมว่า “สุศีละ” โดยมีจุดมุ่งหมายในการบวช คือ ศึกษาธรรมะทั้งภายนอกและภายใน
 
    ดิฉันกราบขอบพระคุณ พระเดชพระคุณหลวงพ่อมากค่ะ ที่ทำให้พบวิธีทำสมาธิที่ง่ายๆ แต่ยิ่งใหญ่ บัดนี้ดิฉันได้ตระหนักแล้วถึงงานที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อกำลังทำเพื่อชาวโลกทั้งปวง ดิฉันรักในสิ่งที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อทำเป็นอย่างยิ่ง พระเดชพระคุณหลวงพ่อเป็นต้นบุญต้นแบบในการใช้ชีวิต ที่มีความหมายและเป็นประโยชน์อันยิ่งใหญ่ต่อผู้อื่น
 
    สำหรับคนอายุในวัยของดิฉัน หลายๆคนมักมองไปถึงเรื่องของการเกษียณอายุ แต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อกลับยิ่งไม่หยุดพัก ดิฉันคิดอยู่เสมอว่า มนุษย์ทุกคนไม่ควรหยุดพัก และควรใช้เวลาทุกนาทีของชีวิตให้มีคุณค่า สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การรักษาใจให้แข็งแกร่งอยู่เสมอ และทำในสิ่งที่ตัวเองจะต้องทำ ดิฉันประทับใจ และปลื้มกับสิ่งที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้มอบให้กับชาวโลก ทั้งในอดีต ณ ปัจจุบันนี้ และต่อไปในอนาคต ซึ่งเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เกินประมาณค่ะ ดิฉันปรารถนาอยากให้สันติสุขเกิดขึ้น อยากให้ทุกคนในโลกรักสามัคคีและรวมกันเป็นหนึ่งเดียว

http://goo.gl/LtskQ


พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      องค์พระภายในทั้งใสทั้งสว่าง
      ดวงแก้วกลมใสในตัวเรา
      เมื่อใจหยุดนิ่ง...สิ่งอัศจรรย์ก็บังเกิด
      เริ่มจากมืด...เริ่มจากฟุ้ง
      ความสุข...ที่แท้จริงแล้วอยู่ในตัวเรานี่เอง
      สมาธิ...ที่ได้รับ คือ ความสุข
      ดวงใสๆที่กลางกาย
      รางวัลของความตั้งใจ
      สมาธิ...คุณทำได้...ถ้าได้ทำ
      ความสุขภายในไม่ได้ไกลเกินเอื้อม
      ผมมาบวชได้เพราะเกมส์ออนไลน์
      จุดเปลี่ยนชีวิตนักแม่นปืนสู่ชีวิตสมณะ
      สมาธิบนโลกออนไลน์




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related