ผลปฏิบัติธรรม
ของ
กัลฯเพียร์ มิคเคลเซ่น (เดนมาร์ก)

เมื่อเดือนมิถุนายน 48 ผมก็ได้ติดตั้งจานดาวธรรมที่บ้าน เพราะคู่บุญบอกให้ติด เราได้ดูรายการต่างๆด้วยกัน ผมชอบมาก และชอบที่สุด คือ ผมชอบรอยยิ้มของหลวงพ่อ ผมคิดว่า คนเราก็น่าจะมีความสุขเหมือนหลวงพ่อได้นะ หลวงพ่อมีบารมี มีเสน่ห์ มีอิทธิพลทางด้านจิตใจทำให้คนมีความสุขครับ
แต่ก่อนผมจะมีนิสัยหงุดหงิดง่าย ใจร้อน เวลาที่โกรธแม้ผมจะไม่เคยทำร้ายใคร แต่จะทำลายข้าวของ ผมจะขว้างปาถ้วยชาม มีอยู่ครั้งหนึ่งผมซื้อวิทยุมาหลังจากนั้น 2-3 อาทิตย์มันก็เสีย ผมก็เลยขว้างมันออกไปทางหน้าต่าง และผมเป็นคนที่สูบบุหรี่จัดมาก ที่ทำงานห้ามสูบบุหรี่ ดังนั้นพอกลับไปถึงบ้าน ผมก็จะสูบล้างแค้นวันละ 15-20 มวนติดๆ กันเลย ผมคิดว่า มันคือการผ่อนคลาย ถึงแม้ว่าผมจะเคยถูกรถชนจากคนเมาแล้วขับ ตอนอายุ 5 ขวบ และต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลถึง 6 เดือน แต่เมื่อต้องเข้าสังคมผมก็ยังคงดื่มเหล้าอยู่บ้าง
จนกระทั่งผมได้เริ่มหัดนั่งสมาธิทีละน้อยๆ ตอนเริ่มแรกนั้น ผมนั่งได้แค่ 15 นาที วันละ 2 ครั้ง แล้วก็ค่อยๆเพิ่มเวลาขึ้นเป็นครึ่งชั่วโมง แล้วก็ 45 นาที มาเป็น 1ชั่วโมง เดี๋ยวนี้ผมสามารถนั่งได้ 1 ชั่วโมงโดยไม่ต้องขยับเลย แม้แต่นิดเดียว
ผลการปฏิบัติธรรม
เมื่อผมเริ่มนั่งสมาธิ ผมจะผ่อนคลายร่างกายและปล่อยวางความคิด ผมจะไม่ได้นึกอะไรเลย เพราะการนึกถึงสิ่งต่างๆ ทำให้ผมรู้สึกตึงเกินไป ผมชอบที่จะไม่คิดอะไรมากกว่า และภาวนา “สัมมา อะระหัง” แล้วก็เฝ้าสังเกตการณ์สิ่งที่เกิดขึ้นในกลางท้อง มีอะไรให้ดู ผมก็ดูไปเรื่อยๆ เป็นนักสังเกตการณ์ภายใน แล้วสักครู่ ผมก็เห็นดวงแก้วใสๆ ดวงแก้วที่ผมเห็นนั้นดูไม่เหมือนกับดวงแก้วที่พระอาจารย์เคยโชว์ให้ดูที่วัด เพราะดวงแก้วที่ผมเห็นมีแสงนวลๆคล้ายกับแสงของหลอดไฟออกมาด้วย ดวงนั้นมีขนาดเล็กประมาณครึ่งหนึ่งของลูกปิงปอง บางครั้งผมก็เห็นองค์พระที่โปร่งใส บางครั้งท่านก็เล็กกว่าตัวผม บางทีก็ใหญ่กว่าตัวผม ท่านสว่างกว่าพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ และมีรัศมีสีทองบางๆอยู่รอบๆ ผมรู้สึกผ่อนคลายอย่างสุดๆและมีความสุขมากๆ มันมีความสุขยิ่งกว่าเราได้แต่งงานกับหญิงที่เรารัก หลังจากพยายามจีบอยู่ตั้งนาน หรือเหมือนกับเราได้กลับมาคืนดีกับคนที่เรารักอีกครั้ง
สันติสุขภายในที่ผมได้รับ ทำให้ผมมีแรงบันดาลใจที่จะหักดิบ เลิกบุหรี่ ทั้งที่เคยสูบมาตลอด 30 ปี และเมื่อผมได้นั่งสมาธิมากขึ้น มากขึ้น ทำให้ผมยิ่งเห็นว่า สิ่งเหล่านั้นเป็นตัวถ่วงความเจริญก้าวหน้าในชีวิต ผมได้จัดงานเทเหล้า เผาบุหรี่ที่บ้าน ในเดือนตุลาคมปี 48 ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเรื่องผิดปกติของคนเดนมาร์ก แต่ผมว่า “นี่แหละ เป็นความถูกปกติของลูกพระธัมฯ” ผมภูมิใจกับการกระทำนี้มาก และภรรยาของผมเธอก็มีความสุขมาก เธอก้มลงกราบผมที่พื้น ทั้งๆเธอไม่เคยทำมาก่อน และผมเองได้พิมพ์ข้อความติดป้าย ห้ามดื่มเหล้า ห้ามสูบบุหรี่ ที่บ้านอีกด้วยครับ ประกาศอย่างชัดเจนต่อทุกคนที่เข้ามาในบ้าน เหล้า-บุหรี่ ไม่ใช่การผ่อนคลาย แต่เป็นการตายผ่อนส่ง เราได้ใช้เงินที่หามาด้วยความยากลำบาก ซื้อสิ่งที่จะมาทำร้ายตัวเราเอง เงินที่สูญเสียไปนั้นแม้จะหาใหม่ได้ แต่ปอดที่หายไปนั้น คงไม่มีอะไรมาทดแทน
ตอนที่ผมเลิกสูบใหม่ๆก็ยังหลงเหลือความอยากอยู่บ้าง เมื่อใดที่ความอยากสูบเข้ามาผมก็ตรึกภาวนาว่า “สัมมา อะระหัง” หลังจากนั้นเมื่อใจสงบ ความอยากก็จะผ่านไปเหมือนแขกที่ไม่ได้รับเชิญ ตอนนี้ผมหักดิบเลิกสูบ เลิกดื่มเหล้าได้อย่างสมบูรณ์แล้ว นับแต่เลิกสูบและเลิกดื่มเหล้า ผมก็มีเรี่ยวแรงมากขึ้น สามารถที่จะเดินขึ้นบันไดไปห้องทำงานบนชั้น 5 ได้โดยไม่ต้องนั่งหอบกลางทาง บางครั้งถ้าผมหงุดหงิดและเครียดในที่ทำงาน ผมจะเข้าห้องน้ำแล้วทำสมาธิสัก 5 นาที หลังจากนั้นสิ่งต่างๆจะเริ่มดีขึ้น หรืออย่างน้อยผมก็รู้สึกดีขึ้น

ความทุกข์ทั้งหลายนั้น มาจากความคิดเรา เราต้องเรียนรู้ที่จะหยุดคิด และหยุดใจ การปฏิบัติธรรม ทำให้ผมได้รู้ว่า ความสุขที่แท้จริงต้องมาจากภายใน คนจนทั้งหลายก็สามารถที่จะมีความสุขได้ คุณไม่จำเป็นต้องมีรถ 10 คัน บ้านหลังใหญ่เพื่อที่จะมีความสุข รถใหม่ถ้าขับไปน้ำมันหมดกลางทางก็หมดสุขแล้ว
เมื่อหลวงพ่อเมตตาให้มีวัดที่ประเทศเดนมาร์ก ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ช่วยบุกเบิกพัฒนา วัดพุทธโคเปนเฮเกน และผมภูมิใจที่ได้ไปช่วยติดตั้งจานดาวธรรม เพื่อขยายความจริงในการดำเนินชีวิต ให้กับชาวไทยและชาวเดนมาร์กอีกหลายครอบครัวครับ ผมรู้สึกไม่เหนื่อย หรือยากลำบากเลย
ผมกราบขอบพระคุณในความเมตตาของหลวงพ่อ ผมอยากให้หลวงพ่ออายุยืนยาว ถ้าไม่มีหลวงพ่อก็ไม่รู้ว่าจะไปตกนรกขุมไหน โชคดีที่มีหลวงพ่อคอยให้แสงสว่าง ผมขอติดตามหลวงพ่อ สร้างบารมีไปกับหมู่คณะกลับดุสิตบุรีด้วยครับ