บรรลุเป้า เข้าถึงธรรม

ผลการปฏิบัติธรรม

กัลยาณมิตร สุพัตรา ภูริปัญโญ (ประเทศไทย)

 

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง

 

 

     “ด้วยบุญที่ได้ชิตังเม ปิดโมดูล (Module) และทุกๆบุญที่ลูกทุ่มเททำทันทีไม่ทอดธุระ ตามแต่พระธัมฯกำหนด เป็นลูกที่ว่านอนสอนง่าย และว่านั่งสั่งได้ อีกทั้งเป็นลูกพระธัมฯสายพันธุ์ใหม่ใจโมดูล ขอบุญนี้ดลบันดาลให้ลูกได้เข้าถึงธรรม ได้เห็นองค์พระภายในพรรษานี้ด้วยเทอญ” คำอธิษฐานจิตด้วยใจมุ่งมั่น ดังขึ้นต่อหน้ารูปของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ในคืนวันที่ปฏิทินใจลูกบันทึกไว้แล้วว่า เป็นวันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน พ.ศ.2550

 

    หลังจากที่ลูกได้ชิตังเม ปิดโมดูล ได้รับพรจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ให้ได้เข้าถึงธรรมภายในพรรษานี้ จากวันนั้นจวบจนวันนี้ อณูใจของลูกเหมือนถูกเปิดเข้าสู่โลกใหม่ ที่ท่วมทะลักไปด้วยกระแสแห่งความสุข ปัจจุบันนี้ลูกทำสปาที่ใจ แต่กลับใสที่หน้าจนกลายเป็นเด็กสาวจากดาวใส ลูกจึงอดไม่ได้ที่จะส่งผลสำเร็จแห่งการปฏิบัติธรรม มากราบรายงานพระเดชพระคุณหลวงพ่อ สุดรักปักใจด้วยความเคารพค่ะ

 

    ลูกชื่อ สุพัตรา ภูริปัญโญ อายุ 52ปี เคยเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฯประกันภัย ชั้นนำ ที่ต้องรับผิดชอบดูแลตัวแทนประกันภัยร่วม 5,000ชีวิต รายได้กว่าสองพันล้านบาท ปัจจุบันลาออกมาเป็นที่ปรึกษาอาวุโสที่ทำงานน้อยลง แต่รายได้ไม่ลดลง เพื่อมีเวลาปฏิบัติธรรมมากขึ้นเป็นสองเท่า ด้วยอานุภาพบุญที่ได้ทำเต็มกำลังมาทุกๆบุญมิได้ขาด

 

    ลูกรู้จักวัดพระธรรมกาย มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2524 โดยผู้ร่วมงานชักชวนลูกมาวัด แรกๆลูกปฏิเสธ เพราะรู้สึกไม่มีเวลาและไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องเข้าวัด คิดว่าความสำเร็จจะเกิดขึ้น เพราะหนึ่งสมองสองมือ แต่กัลยาณมิตรท่านนั้นยังคงชักชวนลูก โดยเธอเปลี่ยนแปลงตัวเองในทางที่ดีขึ้นหลังจากเข้าวัด ลูกอยากพิสูจน์จึงลองเข้าวัด แล้วสมัครเป็นอาสาสมัครเหรัญญิก เพื่อตรวจสอบการเงินของทางวัด แต่ยิ่งตรวจสอบกลับยิ่งประทับใจ เพราะยิ่งเห็นถึงภาระค่าใช้จ่ายของทางวัด ที่ใช้จ่ายอย่างประหยัดด้วยความจำเป็นทั้งสิ้น

 

    ยิ่งได้ฟังอาสาสมัครรุ่นพี่ ถ่ายทอดคำสอนของ คุณยายอาจารย์ ที่ว่า “เงินที่เขานำมาถวายวัด เขาจบอธิษฐานมาอย่างดี แม้แต่เศษสตางค์ก็ให้หายไม่ได้ ดังนั้นเราต้องดูแลเงินของเขาให้ดี” ลูกฟังแล้วก็ยิ่งศรัทธา เริ่มชักชวนสามีกับลูกชาย 2คนมาวัด ลูกทำทานอย่างเต็มกำลังไม่เคยตกบุญแม้แต่บุญเดียว ครอบครัวของเราหลังจากเข้าวัด ก็ตักบาตรทุกวัน มาจนบัดนี้ 25ปีแล้ว ไม่เคยขาดเลยแม้แต่วันเดียว

 

    ก่อนเข้าวัด ลูกเป็นคนอารมณ์ร้อน วี้ดบึ้มง่าย แต่ครั้นพอเข้าวัดแล้ว ราวกับบุญได้ไปปรับจูนอารมณ์ของลูกให้เย็นขึ้นอย่างอัตโนมัติ โดยไม่ต้องเป็นคลื่นร้อนซ่อนอารมณ์ เมื่อใจเย็นยิ่ง ใจก็ยิ่งเย็น จนลูกน้องสังเกตเห็น เช่น เมื่อก่อนเวลาลูกน้องจะเข้าพบลูก ก็จะถามเลขาหน้าห้องว่า “วันนี้น้ำขึ้นหรือน้ำลง”   ถ้าเลขาบอกว่า “น้ำขึ้น” แสดงว่าอารมณ์ไม่ดีอย่าเพิ่งเข้าไป ถ้าน้ำลงแสดงว่าอารมณ์ดีเข้าไปพบได้ แต่ปัจจุบันลูกน้องเข้าพบได้ตลอด แล้วร่วมด้วยช่วยกัน สนับสนุนให้ลูกทำผลงานของบริษัทฯให้รุดหน้า หน้าที่การงานของลูกก็ยิ่งเจริญรุดหน้า

 

    ทั้งๆที่ลูกเป็นมนุษย์เงินเดือน แต่ยิ่งสร้างบุญก็ยิ่งได้ทรัพย์มาอย่างง่ายๆ ทำให้สามารถสั่งสมบุญใหม่ไม่สิ้นสุด สามารถเป็นประธานรองได้ตลอดมาจนทุกวันนี้ แต่แม้ลูกจะสั่งสมบุญมากมายเพียงใด ลูกกลับรู้สึกว่า ชีวิตเรายังสร้างบุญไม่คุ้มค่ากับที่ได้เกิดมาเลย ทั้งนี้เพราะถึงลูกจะทำทาน รักษาศีลอย่างดีเยี่ยม แต่ผลการปฏิบัติธรรมของลูกยังมืดตื้อมืดมิดมืดสนิทตลอดมา

 

ปีนี้ ลูกจึงเพิ่มเวลานั่งมากขึ้น จนได้ความโปร่งโล่งสบาย และเห็นความสว่างแต่ก็ไม่ก้าวหน้าไปกว่านั้น กระทั่งวันที่ 23 กันยายน วันที่ลูกได้ชิตังเมปิดโมดูล ลูกปลื้มมากโดยเฉพาะคำอวยพรของพระเดชพระคุณหลวงพ่อให้ลูกได้เข้าถึงธรรม ครั้นลูกกลับมาบ้านอธิษฐานจิตขอพรจากพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ จึงตั้งใจเพิ่มชั่วโมงนั่งธรรมะ จากวันละ 1ชั่วโมง เป็น 2ชั่วโมง พร้อมตัดใจลางาน ในวันที่ 8-9 ตุลาคม เพื่อเตรียมใจใสๆ รับบุญวันบุญใหญ่ วันเกิดรูปกายเนื้อของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ วันที่ 10 ตุลาคม โดยคิดว่า “มีแต่เรื่องชาวบ้านเต็มหัว เรื่องของตัวยังใช้ไม่ได้ ที่ผ่านมามีแต่เรื่องทำให้คนอื่น ถึงเวลาแล้วที่ต้องทำให้ตัวเองบ้าง”

 

จากนั้น ก็นึกคำพูดพระเดชพระคุณหลวงพ่อว่า “ความขยันเท่านั้น ที่จะทำให้เราเข้าถึงพระธรรมกายได้ ไม่เคยมีคนขี้เกียจที่สามารถเข้าถึงพระธรรมกายได้ในโลก จะสว่างช้าหรือเร็วไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่ลงมือทำ และทำสม่ำเสมอ” เมื่อสร้างแรงบันดาลใจเรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปคือ การปรับใจให้สบายก่อนนั่งธรรมะ ลูกใช้วิธีดูภาพการสั่งสมบุญ ทบทวนบัญชีบุญที่จดทุกวัน อ่านประสบการณ์นั่งธรรมะของตัวเอง เพื่อให้ใจชุ่มชื่น อารมณ์ดี อารมณ์สบาย ปลื้มในทุกๆบุญ ใจจะฟู ละเอียด ใส จากนั้นก็ลงมือนั่งนิ่งๆ เฉยๆ มีอะไรให้ดูก็ดูไปไม่คาดหวังว่าจะต้องเห็นอะไร

 

    กระทั่งวันที่ 9 ตุลาคม ท่ามกลางความสว่าง ลูกทำใจสบายๆ ชุ่มชื่น นิ่งๆนุ่มๆ ดูความสว่างไปเรื่อยๆ เมื่อ Clickใจให้ Connect กับพระภายในตัว ก็เห็นองค์พระขนาดเท่าเข็มผุดขึ้นที่กลางท้อง แล้วขยาย ใหญ่ขึ้นๆเท่าตัวลูก จนใหญ่กว่าตัวลูก องค์พระท่านใสมาก แล้วก็เห็นองค์พระองค์ใหม่ผุดขึ้นกลางองค์พระองค์เดิม ผุดขึ้นเรื่อยๆจากช้าเป็นเร็วขึ้น เห็นพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ซ้อนอยู่กลางองค์พระใส แต่พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ท่านหนุ่มและงามมาก ไม่เหมือนพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯในรูปที่ลูกบูชา ซึ่งเป็นภาพถ่ายในวัยชรา ลูกเห็นพระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ และองค์พระ ซ้อนเป็น 3 in 1 ภาพของพระเดชพระคุณหลวงพ่อในสมาธิ(Meditation)หล่อใสปิ๊งๆเลยค่ะ

 

    จากนั้น ลูกกราบขอเข้ากลางของกลาง ซ้อนองค์พระ พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ โดยมีศูนย์กลางกายตรงกัน ลูกปล่อยใจเข้ากลาง องค์พระผุดเป็นสายเร็วแรงสว่างเป็นท่อสว่างมาก ความรู้สึกจากเสียวๆเป็นสุข มากขึ้นๆ ปล่อยใจลงไป ลงไปสุดๆตลอดสาย สว่างขึ้น ยิ่งสว่างขึ้น กว้างขึ้น สุขจริงๆ สุดสายเป็นองค์พระ เห็นดวงธรรม และองค์พระสลับกัน ยิ่งสว่าง ยิ่งกว้างใหญ่ ยิ่งสุขมาก สุขจนน้ำตาไหลซึมออกมา สุขแบบไม่สามารถบรรยายได้

 

    องค์พระท่านมีชีวิตจิตใจ ท่านยิ้มให้ลูกด้วย ท่านมีขนตา เพราะลูกเห็นท่านกระพริบตาด้วย ปัจจุบันลูกมีความสุข มีชีวิตชีวา มีความชุ่มชื่น อยากยิ้มให้ทุกคน ขณะเขียนนี้ลูกยังมองเห็นท่านยิ้มให้ลูกอยู่เลยค่ะ ลูกรู้สึกว่าท่านอยู่กับลูกเสมอ ไม่ว่านั่ง นอน ยืน เดิน ลูกมีความสุขมาก จนอยากตะโกนบอกทุกคนว่า “สุขมากๆจริงๆ มานั่งสมาธิกันเถอะค่ะ ท่านจะพบกับความสุขที่ไม่สามารถบรรยายได้” ลูกดีใจมากที่เห็นพระตลอดเวลา แม้ขณะปฏิบัติงานก็สามารถปฏิบัติธรรมได้

 

    ภายใต้ขอบฟ้าที่กว้างใหญ่ ลูกอยากจะให้ชาวโลกรู้สักนิดบ้างว่า มีสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้น ณ จุดหนึ่งในตัว อันเป็นสิ่งที่สำคัญ และได้เพิ่มพูนความสุขในชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง ลูกจึงอยากให้ทุกคน ช่วยกันทำโมดูลให้สำเร็จ เพื่อให้ผู้ที่มาปฏิบัติธรรมได้พบบุคคลมหัศจรรย์ และที่สุดแห่งความสุข เพราะสถานที่นี้จะเป็นตลาดนัดบุญ มีการจัดมหกรรมบุญ (Merit Expo) บ่อยๆ เพื่อเติมบุญหนุนชีวิตเราให้ดียิ่งขึ้น ชีวิตของลูกเป็นเครื่องยืนยันความแตกต่าง ระหว่างคนที่ประสพความสำเร็จกับคนที่ไม่สำเร็จ คือ รู้แล้วไม่ทำ กับรู้แล้วทำ และทำให้สุดๆ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเราว่าจะออกแบบชีวิตเราเช่นไรค่ะ

 

กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง

 

ลูก สุพัตรา  ภูริปัญโญ

http://goo.gl/HVh9L