ผลการปฏิบัติธรรม
กัลยาณมิตรวราลักษณ์ วาณิชย์กุล (ประเทศไทย)กราบนมัสการคุณครูไม่ใหญ่ที่เคารพรักอย่างสูงลูกมีอาชีพที่เป็นสุดยอดความใฝ่ฝันของเด็กสาวจากทั่วประเทศ แม้จะมีคำว่า “นาง” นำหน้าตั้งแต่อายุเพียง 16-17ปี แต่ลูกก็ช๊อบ...ชอบ เพราะอาชีพของลูก คือ นางแบบ ขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ลูกชื่อ วราลักษณ์ วาณิชย์กุล หรือ ลูกจอย ค่ะ แม้ใครๆจะเรียกลูกว่า Top model ของเมืองไทย ย่ำแคทวอล์คมาแล้วทั้งในและต่างประเทศ แต่ลูกก็ไม่เคยเห็นแคทวอล์คที่ไหน ยาวเท่าแคทวอล์ค กฐินโมดุลปี พ.ศ.2550 ที่วัดพระธรรมกายเลยค่ะนางแบบนายแบบผู้ใจบุญ ต่างเดินบนพรมแดงด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ต่างกับเวทีเดินแบบทั่วไป ที่บ้างก็เดินด้วยหน้าตาเฉยเมย ดูเหมือนไร้อารมณ์หรือว่าไปโกรธใครมา แต่นั่นก็คือ การออกแบบสไตล์การเดินให้เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองค่ะลูกเข้าวงการตั้งแต่ยังเรียนอยู่ ม.5 โรงเรียนสตรีวิทยา2 เริ่มจากเดินเล่นอยู่แถวชาญอิสระ ก็มีช่างแต่งหน้าชวนไปเดินแบบให้กับห้องเสื้อพิจิตรา ซึ่งถือว่าหรูและดังมาก ช่วงนั้นนางแบบที่ดังๆจะเป็นลูกครึ่งหน้าฝรั่ง ทำให้ลูกซึ่งหน้าตาแปลกฉีกแนวกว่าคนอื่น ดูโดดเด่น จนขึ้นสู่ระดับ Top ได้แบบชิลด์ๆ ลูกได้รับฉายาว่า “ลูกกวาง” เพราะตัวยาวๆสูงๆดูเก้งก้าง แต่ก็น่าเอ็นดูเหมือนลูกกวางนะคะแม้ลูกจะเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย แต่ลูกก็เอนท์ติดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพราะแบ่งเวลาเป็น และรู้ว่าอะไรคือเป้าหมายหลัก ลูกคิดเสมอว่า การเรียนต้องมาก่อน เดินแบบเป็นแค่งานอดิเรก แม้รายได้จะสูงเพียงใด ลูกก็ไม่หลงประเด็นเมื่อจบปริญญาตรีก็ไปเรียนต่อที่อเมริกาจนจบปริญญาโท จึงกลับมาทำงานที่เมืองไทย ช่วงนี้เองที่ลูกได้รู้จักกับ คุณเอริค เลอวีน เจ้าของแคลิฟอร์เนียฟิตเนส ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่ทั้งเก่งทั้งดี อารมณ์ดีเสมอ ยิ่งได้ทราบว่า คุณเอริคเข้าวัดและฝึกสมาธิ(Meditation)ก็ยิ่งทึ่ง เพราะเคยมองว่าคนไปวัดต้องมีบุคลิกเรียบร้อย เจี๋ยมเจี้ยม รักสันโดษ ซึ่งตรงข้ามกับคุณเอริค ยิ่งรู้ว่าไป วัดพระธรรมกาย ก็ยิ่งแปลกใจ เพราะตอนเด็กๆลูกก็เคยไปวัดนี้ ทั้งคุณยายและคุณแม่ก็เคยไปวัดนี้เช่นกัน ภาพในวัยเด็กหวนคืนมาสู่หน่วยความจำของลูก ทั้งภาพโบสถ์ที่สวยสง่า ภาพคุณยายอาจารย์ที่มีรอยยิ้มใจดีคุณเอริคได้สอนให้ลูกนั่งสมาธิ โดยลูกจะวางใจสบายๆ ไม่สนว่าถูกตำแหน่งฐานที่เจ็ด หรือไม่ แค่พอใจสบายก็รู้สึกเหมือนตกลงไปในปล่องอย่างแรง แต่ลูกก็ไม่กลัว บางครั้งเหมือนตัวลูกลอยบนอวกาศ คล้ายๆนั่งเครื่องเล่นท่องอวกาศเลยค่ะ ที่ลูกทำได้ง่ายๆ เพราะคุณเอริคสอนให้นั่งด้วยความรู้สึกสนุกๆสบายๆ ซึ่งตรงกับนิสัยของลูกที่ไม่ชอบถูกบังคับ ลูกคิดว่า “อะไรที่มันสนุก เราจะอยากทำ”จากนั้น ลูกและครอบครัวก็เริ่มมาวัดเป็นประจำ และได้ติด DMC ลูกยังจำได้ถึงความประทับใจที่ได้พบพระเดชพระคุณหลวงพ่อครั้งแรก รู้สึกว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อมีเมตตาน่าเลื่อมใส ดูผ่องใสและหน้าใสมากๆ อันนี้ยืนยันได้จากก๊วนเพื่อนนางแบบของลูก ที่เคยไปกราบพระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วยกัน ทุกคนตกใจมากเมื่อทราบว่าอายุ 60กว่าแล้ว (ก็หน้าตายังหนุ่มอยู่เลยค่ะ)ทุกครั้งที่ได้พบกัน พระเดชพระคุณหลวงพ่อจะย้ำเสมอว่า “ลูกจอยต้องนั่งสมาธินะลูกนะ” ช่วงไหนที่งานยุ่งมากจนไม่ค่อยได้นั่ง ลูกจะกลัวมากเวลาเจอพระเดชพระคุณหลวงพ่อ บางทีก็หลบๆ แต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อก็ถามดักคอทุกที จนลูกต้องนั่งทุกวันและเริ่มมานั่งสมาธิที่วัดในช่วงสุดสัปดาห์ ได้ถือศีลแปด ได้นั่งสมาธิวันละ 4รอบ ลูกมีความสุขมาก รู้สึกสนุกกับการนั่ง จนคุณเอริคยังทักว่าหน้าใสปิ๊งเลยความสนุก เป็นเหตุผลให้ลูกไปปฏิบัติธรรมที่พนาวัฒน์ ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2551 และเป็นเพราะวอร์มนั่งมาอย่างดี จนวางใจเป็น ทำให้ลูกนั่งดีตั้งแต่วันแรก รู้สึกได้ถึงอารมณ์สงบ ใจนิ่งๆ ความคิดที่เคยลอยเข้ามาเหมือนปุยเมฆก็ไม่มี ใจเหมือนท้องฟ้าเปิดที่ปลอดโปร่ง สดใส เมื่อใจนิ่งต่อเนื่องได้นานขึ้น มีความสว่างตลอดเวลา ที่กลางความสว่างก็มีแสงสว่างใหญ่ๆผุดขึ้นมาตลอด คล้ายฟองบั๊บเบิ้ลใหญ่ๆ เบาๆ นุ่มๆ ลูกรู้สึกว่าตัวเองจากที่ผอมอยู่แล้วก็ตัวเบามากขึ้นไปอีกยิ่งวันที่ พระอาจารย์อารักษ์ มาสอนเทคนิคการวางใจ ลูกยิ่งชอบค่ะ วันนั้นลูกรู้สึกว่าตัวหายไปเหลือแต่แสงสว่าง เห็นดวงสว่างผุดขึ้นมาไม่รู้จบ จนกระทั่งเห็นองค์พระใสๆ ลูกตื่นเต้นมากแต่ก็พยายามบังคับตัวเองไว้ได้พระเดชพระคุณหลวงพ่อคะ ลูกได้ค้นพบสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดในชีวิตแล้วค่ะ จากเดิมลูกเคยเป็นมิสโปรเจค ชอบคิดชอบวางแผน ชอบตั้งเป้าสูงๆ เช่นทำธุรกิจสปาก็อยากทำให้ดีระดับมาตรฐานโลก มีสมาชิกระดับพันคน แต่ทุกครั้งที่ไปถึงเป้าหมาย ลูกกลับรู้สึกว่า เหมือนมันยังไม่ใช่ มันน่าจะทำได้ดีกว่านี้อีก ความต้องการมันไม่เคยจบ ซึ่งตรงข้ามกับการทำสมาธิ ที่ลูกพบความสุขแบบเต็มที่เต็มอิ่ม ไม่มีที่ว่างอะไรเหลืออีก รู้สึกว่าแค่หยุดใจก็มีความสุขแล้วค่ะระหว่างนอกรอบ ความสว่างจะอยู่ตลอดเวลา มีความสุขมากๆ มันพูดไม่ออก เหมือนความปีติมันเต็มแน่นในใจจนน้ำตาจะไหลค่ะ เมื่อลงจากพนาวัฒน์ ลูกยังคงนั่งสมาธิต่อเนื่องทุกวัน ในระหว่างวัน ความสว่างจะยังอยู่ตลอดแต่องค์พระท่านอยู่บ้าง ไม่อยู่บ้าง จะเห็นชัดระหว่างที่นั่งสมาธิเท่านั้น เพราะงานของลูกต้องบริหารคนเยอะ เรื่องก็เลยเยอะตามค่ะ…แต่ลูกก็พยายามสู้ต่อไป โดยก่อนนั่งทุกครั้งลูกจะอาราธนาครูบาอาจารย์ให้ท่านคุมบุญให้ ผลการนั่งของลูกต่อเนื่องได้เลย ไม่ต้องเริ่มใหม่ จากนั้นลูกจะกำหนดนิมิตเป็นดวงแก้ว และองค์พระสลับกันเหมือนภาพ Top view ที่สลับกันไปมา จนรู้สึกว่าตัวเราเป็นองค์พระ องค์พระเป็นตัวเรา แล้วตัวลูกก็ดิ่งลงไปตรงกลางจนตัวเองกลายเป็นศูนย์กลางของความสว่างที่เพิ่มขึ้นๆบางครั้งก็เห็นภาพขาวดำขององค์พระ เห็นภาพธรรมชาติบ้าง ลูกก็ดูไปเรื่อยๆ มีอะไรให้ดูก็ดูไป จนเห็นดวงใสๆผุดขึ้นมาเป็นสาย จากนั้นก็กลายเป็นองค์พระผุดต่อขึ้นมา ขนาดประมาณ 30เซนติเมตร สีขาวๆ สว่างมากที่สุดเท่าที่ลูกเคยเห็น ท่านนั่งหันหน้าทางเดียวกันกับลูก ผุดขึ้นจากกลางท้องแต่ไม่เห็นรายละเอียดของท่าน จนครั้งที่ไปร่วมพิธีถวายองค์พระที่ศรีลังกา ระหว่างนั่งสมาธิลูกได้เห็นท่านชัดๆเป็นครั้งแรก ท่านงามมากๆ ลูกปีติน้ำตาไหลไม่หยุด จนคนนั่งข้างๆมองว่า ลูกเป็นอะไรไปจากชีวิตนางแบบสาวสุดเปรี้ยว หันมาเข้าวัดปฏิบัติธรรม ทำให้ทั้งครอบครัวและเพื่อนนางแบบ แสนจะประหลาดใจ ทุกคนจะรู้สึกว่า ไปวัดแล้วสนุกมีความสุขขนาดนี้เลยหรือ จนลูกต้องขับรถไปรับเพื่อนมาวัดวันอาทิตย์ ก่อนไปรับก็ต้องบอกก่อนว่า “ห้ามหัวเราะนะ” เพราะพวกเธอไม่เคยเห็นลูกในชุดอุบาสิกา ที่ขับรถพอร์ชสีขาว ด้วยความเร็ว 220กม./ชม. จนถูกเรียกว่า “อุบาสิกาซิ่ง” แต่พวกเธอต่างก็ประทับใจ มีความสุขในการนั่งสมาธิ บางคนมีประสบการณ์ภายใน จนเริ่มมาวัดกันเองแล้วค่ะลูกตั้งใจจะเป็นนางแบบต้นแบบที่ดี เพื่อช่วยพระเดชพระคุณหลวงพ่อขยายความสุขไปสู่คนอื่นๆ ขอกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เมตตาสอนให้ลูกได้พบกับความสุขภายใน ที่เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดในชีวิต และหาไม่ได้จากที่ใดๆ ลูกขอให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อสุขภาพร่างกายแข็งแรง Fit and Firm ไปตลอดกาลนะคะกราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูงสุดกัลยาณมิตรวราลักษณ์ วาณิชย์กุล
http://goo.gl/BALNE