หนูน้อยเจฟฟรี่ อายุ 1 ปี 1 เดือน ผู้รอดตายจากการตกตึก 4 ชั้น
ด้วยผลบุญจากการสร้างพระธรรมกายประจำตัว

ดิฉันชื่อ ชาลอน ทัคเกอร์ อายุ 41 ปี เป็นทนายความชาวอเมริกัน จากกรุงวอชิงตัน ดี.ซี สหรัฐอเมริกา สามีของลูกชื่อ จอห์น คลาคกี้ เรามีลูกชายสุดที่รักอยู่ 1 คนค่ะ คือ ด.ช.เจฟฟรี่ คลาคกี้ อายุ 1 ขวบเศษ และลูกชายคนนี้เองที่เป็นต้นบุญให้ดิฉันได้เข้าวัด และเขียนจดหมายมาเล่าอานุภาพบุญในครั้งนี้ค่ะ ดิฉันไม่เคยคิดเลยว่า จะได้ประสบกับอานุภาพบุญที่แสนเหลือเชื่อด้วยตัวเอง เหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมา สามารถให้คำจำกัดความได้ว่า “ช็อค เครียด ลุ้น มหัศจรรย์” ดิฉันได้รู้จัก วัดภาวนาดี.ซี. จาก กัลยาณมิตร สุริสา พุ่มทิม ซึ่งเป็นพี่เลี้ยงของเจฟฟรี่ในวันธรรมดาที่ตัวลูกและสามีไปทำงาน ตั้งแต่เจฟฟรี่อายุ 2 เดือนกว่า

ช่วงค่ำวันนั้น เจฟฟรี่ อยู่ในสภาพ นอนบนเตียงคนป่วย มีสายยาง และเครื่องช่วยหายใจ ติดอยู่ระโยงระยาง แพทย์ผู้ดูแลบอกกับดิฉันว่า “ตอนนี้อาการยังไม่น่าไว้ใจ กรามได้รับการกระทบกระเทือน ขาหัก ต้องเข้าเฝือก สมองและปอดมีเลือดออกมาด้วย และทำท่าว่าจะขยายออกมา จำเป็นจะต้องทำการผ่าตัดเพื่อเอาเลือดในสมองออกก่อน ไม่เช่นนั้นจะต้องเป็นอัมพาตไปทั้งตัว” ดิฉันโทรบอกการวินิจฉัยของหมอให้กัลยาณมิตา สุริสา ทราบ เธอก็รีบโทรศัพท์ไปแจ้งวัดภาวนา ดี.ซี.ว่าจะสร้างพระธรรมกายประจำตัว 1 องค์ จารึกชื่อของเจฟฟรี่ นับแต่วินาทีที่ได้โทรศัพท์ไปแจ้งความว่า จะสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวให้เจฟฟรี่ กัลยาณมิตรสุริสา ก็ให้ดิฉันนึกถึงบุญ เวลาตี 3 ของวันจันทร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ.2550 แพทย์ผู้ดูแลเจฟฟรี่ บอก
ดิฉันว่า “จากการ X-ray สมองก่อนผ่าตัด พบว่า บริเวณที่เลือดไหลออกในสมองได้ลดขนาดลงมา จนหยุดไหลแล้ว รวมถึงเลือดที่ออกในปอด ก็หยุดไหลเช่นกัน คณะแพทย์รู้สึกแปลกใจมากว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งๆที่เมื่อช่วงเย็นเลือดยังไหลไม่หยุด” แพทย์ถึงกับอุทานว่า “Miracle (มหัศจรรย์)” ทั้งตัวลูก สามี รวมทั้งกองเชียร์ทั้งหลายต่างรู้สึกโล่งใจไปเปราะหนึ่ง ทุกคนมีความหวังมากขึ้น

วันที่สี่ ของการอยู่ใน ICUของเจฟฟรี่ อาการเขาดีขึ้นเป็นลำดับ สามารถหัวเราะได้ ยิ้มได้ แพทย์บอกว่า “จะอนุญาตให้ออกจาก ICU” แต่ดูเหมือนว่า ทุกอย่างจะไม่ง่ายอย่างที่คิด หนทางแห่งการรอดชีวิตของเจฟฟรี่ ไม่ราบรื่นอีกครั้ง เมื่อก่อนจะออกจาก ICU หัวใจเจฟฟรี่ก็เริ่มเต้นแรงผิดปกติ แพทย์จึงให้อยู่ที่ ICUต่อไปอีกอย่างไม่มีกำหนด ดิฉันก็มานั่งคิดว่าเกิดอะไรขึ้น อยู่ๆก็นึกขึ้นได้ว่า ยังไม่ได้ไปถวายปัจจัยสร้างองค์พระของเจฟฟรี่เลย เพราะเป็นช่วงที่ยุ่งมากๆ แค่ตั้งใจและโทรแจ้งกับทางวัดไปเท่านั้นว่าจะสร้างองค์พระ ดิฉันจึงนำปัจจัยไปถวายพระอาจารย์ที่วัดภาวนาดี.ซี.
วันรุ่งขึ้นหลังจากถวายปัจจัย แพทย์ก็แจ้งมาว่า “เจฟฟรี่ สามารถออกจาก ICUได้แล้ว” และมาพักฟื้นที่ห้องพิเศษ จนวันพฤหัสบดีที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2550 เจฟฟรี่ก็ออกจากโรงพยาบาลได้ รวมระยะเวลา 12 วัน ซึ่งถือว่าเป็นเวลาที่สั้นมาก สำหรับกรณีของเด็กอายุ 1 ขวบ 1 เดือน ตกตึก 4 ชั้น ขาหัก เลือดออกในสมอง, ปอดและ กรามแตก หากจะเอาเหตุผลทางการแพทย์มาอธิบายถึงว่า ทำไมเลือดในสมองและปอดของเจฟฟรี่จากที่ไหลไม่หยุด มาหยุดไหล จึงไม่ต้องทำการผ่าตัด แขนไม่หัก แค่เข้าเฝือกที่ขา 1 เดือนแค่นั้น ก็คงจะตอบยาก แม้แพทย์และพยาบาล ก็ยังตอบไม่ได้ ว่าเกิดอะไรขึ้น กับความมหัศจรรย์ของการฟื้นอาการของเจฟฟรี่อย่างรวดเร็ว จนแทบจะเรียกได้ว่า ไม่เป็นไรอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้น หลังการถอดเฝือก เจฟฟรี่สามารถวิ่งเล่นได้ ตามปกติ เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ มีเหตุผลประการเดียวที่ดิฉันนึกออกคือ “บุญ” ที่เกิดจากการสร้างพระธรรมกายประจำตัวค่ะ

รับชมวีดีโอ น้องเจฟฟี่