ความสุขเป็นอย่างนี้นี่เอง

ผลการปฏิบัติธรรม

กัลยาณมิตร มาลี คาโนสกี้ (เยอรมนี)

 

    ลูกชื่อ มาลี คาโนสกี้ เป็นนักเรียนโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา หน้าใหม่จาก เยอรมันค่ะ พึ่งเจอ DMC โดยบังเอิญ แต่เป็นความบังเอิญที่แสนวิเศษ เพราะเมื่อพบกับ DMC สิ่งดีๆก็เข้ามาในชีวิต ไม่คาดคิดว่า จะเป็นไปได้ โดนด่า...แต่ยิ้มได้ ร้องไห้...แบบสุขชะมัด ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งเคยสัมผัส เป็นความสุขทางลัด ที่อยากเล่าให้นักเรียนทั่วโลกฟัง

    ลูกต้องย้อนความ ถึงวันวานอันขมขื่นสักนิด ก่อนหน้านี้ ชีวิตคู่ระหว่างลูกกับสามีชาวเยอรมัน ไม่ค่อยจะลงรอยกันนัก ไม่รู้เรียกว่า รักประสาอะไร ออกจะเหมือนคู่รักหักเหลี่ยมโหดเสียเป็นส่วนใหญ่ ทะเลาะกันเป็นงานอดิเรก สามีของลูกเขาออกจะร้ายมาก เมื่อร้ายมาลูกก็ร้ายไป เขาชอบเล่นแต่คอมพิวเตอร์ บางทีเอ่ยปากถามด้วยความห่วงใยว่า "กินข้าวหรือยัง" เขาก็ต่อว่ากลับมาทันที แน่นอน มีรึลูกจะยอม ลูกก็สวนกลับไปบ้างสิคะ เหตุนี้ล่ะค่ะที่ลูกรู้สึกว่า อุณหภูมิในครอบครัวมันช่างร้อนเหลือเกิน ต่างคนต่างเครียด อยู่ด้วยกันไม่ได้ เลยออกเที่ยวแบบตัวใครตัวมัน

    จนกระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่สามีของลูกกำลังจูนทีวีหาช่องที่ถูกใจอยู่ จู่ๆ รายการของ DMC ก็ปรากฏที่ตรงหน้า ขณะนั้นกำลังถ่ายทอดพิธีบูชาเจดีย์พอดี ลูกได้เห็นองค์พระธรรมกายมากมายบนเจดีย์ เห็นแล้วลูกรู้สึกสะดุด เหมือนภาพนั้นถูกสแกนเข้าไปในใจ ไม่ว่าจะเดินไปไหนมาไหน ก็เห็นองค์พระที่เจดีย์อยู่ในท้องตลอดเวลา ลูกอยากสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวมาก นึกถึงทุกวันว่า "ถ้ายังมีบุญอยู่ขอให้ได้สร้างพระธรรมกายเถิด"

 

    วันหนึ่ง กำลังทำความสะอาด ขัดกระจกไป ก็นึกถึงการสร้างองค์พระที่เจดีย์ไป อยู่ดีๆก็เห็นองค์พระเต็มท้องเลยเจ้าค่ะ สีทองเรียงกันเหมือนในทีวี ตับไตไส้พุงไม่รู้หายไปไหนหมด ลูกหยุดกึก ถือผ้าค้างไว้เลย อัศจรรย์ใจมาก ต่อมาไม่นาน อยู่ดีๆสามีเอาเงินไปใช้หนี้เพื่อน 300ยูโร ทั้งๆที่เพื่อนคนนี้ก็จำไม่ได้แล้วว่าเป็นหนี้ตอนไหน เพื่อนคนนี้จึงโทรศัพท์ให้ลูกไปรับคืน ลูกก็เลยได้เงินก้อนนี้ไปสร้างพระได้พอดี (300ยูโร เท่ากับ 15,000บาท)

    แล้วลูกก็ตั้งใจดู DMC อย่างจริงจัง วันแรกที่เห็นพระเดชพระคุณหลวงพ่อทางหน้าจอ ลูกก้มลงกราบทันที คิดในใจว่า "ทำไมท่านใสขนาดนี้" ไม่เหมือนพระทั่วไป พอฟังธรรมะ นับแต่นั้นลูกก็ได้เรียนรู้วิธีการจัดการกับปัญหาชีวิตแบบใหม่

 

    ก่อนหน้านี้ ถ้าฝ่ายสามีของลูกฉุนเฉียว ปลดปล่อยผรุสวาทมา ลูกก็ปล่อยอาวุธลับกลับทันที แต่ตอนนี้ลูกเอาคำพูดของพระเดชพระคุณหลวงพ่อมาใช้ค่ะ ใจเย็นไม่ต้องพูดมาก พอถึงเวลาที่บทสนทนาเข้าขั้นวิกฤติ ใกล้ทะเลาะ ลูกจะยิ้มๆๆ แล้วก็ยิ้มอย่างเดียว คราวนี้จากที่สามีโกรธ...ก็กลายเป็นก๊ากแทน...เขาหัวเราะค่ะ แล้วถามลูกว่า "ฉันว่าเธออยู่นะ เธอยิ้มทำไม" ลูกไม่ตอบได้แต่ยิ้ม ยิ่งด่า ยิ่งว่า ยิ่งยิ้ม ตั้งแต่นั้นเขาจึงไม่ด่าว่าอีกเลย เพราะไม่รู้จะดุด่าไปทำไม

    ครอบครัวสงบ ลูกก็เลยได้ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ(Meditation)ตามที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อสอนทุกวัน ตอนนั่งสมาธิ ลูกก็ทำใจสบายๆวางใจเบาๆ ไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่7 ภาวนา "สัมมา อะระหัง" ไปเรื่อยๆ แล้วนึกถึงบุญไปเบาๆ อยู่ๆใจก็ปลื้มมาก ใจสบาย เบาๆ แล้วก็รู้สึกเหมือนกับตัวเองเริ่มหมุนอย่างช้าๆ ตอนแรกก็กลัว แต่ก็ทำใจนิ่งๆ เบาๆ ภาวนา "สัมมา อะระหัง" อยู่อย่างนั้นไม่ขาดเลย

 

    จู่ๆก็เห็นเหมือนเมฆสีขาวๆ ลอยอยู่กลางกาย แล้วก็เปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้นรู้สึกสบายใจ ตัวเบา โล่ง เหมือนอยู่ในโลกคนเดียว จู่ๆก็มีวงกลมเล็กๆเหมือนน้ำวน แต่มาเร็วมากค่ะ มาดูดเอาดวงใจของลูกไป ลูกก็ปล่อยใจไปเลย จากนั้นใจหลุดเข้าไปในดวงเล็กๆ ประมาณเม็ดงา แต่ใสชุ่มฉ่ำมาก ลูกก็วางใจตรงกลางแล้วภาวนา "สัมมา อะระหัง" ไปเรื่อยๆ แต่อีกใจกลัว และคิดว่า "จะตายมั้ยหนอ" สักพักดวงแก้วก็ค่อยๆขยายออก จนรู้สึกว่าตัวไม่มี มีแต่ใจที่กลมกลืนไปกับความสุข ลูกร้องไห้และพูดมาออกมาดังๆว่า "นี่หรือความสุข เป็นอย่างนี้เอง หามาตั้งนานพึ่งจะเจอ"

    พอออกจากสมาธิ นั่งงงไปหมดว่า เวลาผ่านไป 3ชั่วโมง ทำไมแป๊บเดียว มันเกิดอะไรขึ้นกับเรา ตัวเบามาก เดินเหมือนจะลอยได้ แต่ก่อนหลงคิดมาตลอด 42ปีว่า ความสุขอยู่ที่เงินทอง บ้าน รถ และการเป็นอยู่อย่างสุขสบาย แต่ตอนนี้เจอแล้ว ความสุขอยู่ที่นี่เอง เดินอ้อมหาซะไกล วิ่งหาซะจนเกือบแย่ ที่แท้ก็อยู่ในตัวของเรานี่เอง

    ปกติลูกต้องไปหาหมอเพราะเป็นไมเกรน แต่พอมาทำสมาธิ เดือนที่3 ถึง เดือนที่ 4 ที่ทำสมาธิ หมอชาวเยอรมันที่ตรวจบอกว่า "เกิดอะไรขึ้น ไปกินอะไรมา" ลูกตอบไปว่า "เปล่า ไม่ได้กินยาอะไร นั่งสมาธิอย่างเดียว" หมอเง็งไปเลยค่ะ สั่นหัวพร้อมกับหัวเราะ ตอนนี้ลูกหายปวดไมเกรน หายคันตามตัว หายปวดตามหน้าอก กระดูก แล้ว ลูกได้ยาวิเศษคือ นั่งสมาธิและทำบุญอย่างต่อเนื่อง เมื่อใจใส ใจสบาย ก็ไม่ต้องไปหาหมออีก

 

     ลูกไม่คิดเลยว่า การหยุดใจนิ่งๆ จะทำให้ชีวิตลูกดีขึ้นขนาดนี้ ยิ่งนั่งสมาธิ ยิ่งรู้ว่าปัญหาชีวิต ต้องแก้ที่จิตใจ จากที่เคยเป็นคนหยุดไม่ได้ เดินหน้าท้าชนตลอดเวลา แต่ตอนนี้การหยุดใจกลับแก้ไขได้ทุกอย่าง ชีวิตครอบครัวเปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือ พอลูกเปลี่ยนสามีก็เปลี่ยน

    ลูกเคยคิดในใจว่า ใครจะสั่งให้เราทำอะไรก็ได้ ยกเว้นกราบผู้ชาย (สามี) คนนี้ ไม่ใช่พ่อ ไม่ใช่แม่ ไม่ใช่ญาติพี่น้อง ไม่มีวันซะหรอก...คิดอย่างนี้อยู่ในใจ จนวันหนึ่ง ลูกได้ยินเสียง บอกว่า "ทำเถอะนะลูก" ไม่นานก็มีเสียงบอกว่า "ทำเถอะ นั่งลงเถอะ" คืนวันหนึ่งลูกจึงตัดสินใจกราบสามี พอทำแล้วเหมือนลูกหลุดจากอะไรสักอย่าง สบายใจขึ้นมาก

    แต่ก่อนลูกคบเพื่อนกินเหล้า เที่ยวดิสโก้ แต่ทุกวันนี้ แม้จะชวนยังไงลูกก็ไม่ไปจนเพื่อนโกรธ หาว่าลูกนั่งสมาธิจนบ้าไปแล้ว ลูกก็ตอบว่า "ถึงฉันไม่ได้ไปเที่ยวดิสโก้เทค แต่ฉันก็ท่องเที่ยวอยู่ที่กลางกายฐานที่7 ฉันฝึกสมาธิแล้วครอบครัวมีความสุข" แล้วลูกก็กลับมาถามสามีว่า "ทุกวันนี้เธอว่าฉันเป็นบ้าหรือเปล่า" สามีก็บอกว่า "เธอไม่ได้บ้าหรอก เธอทำอย่างนี้ดีที่หนึ่งเลย" ตอนนี้สามีรักลูกมาก แต่ก่อนไม่ให้เงิน และไม่ยอมให้รู้เลยว่าเขาได้เงินเดือนเท่าไร จากไหน แต่ตอนนี้เขาเปิดให้ดูตัวเลข ดูรายได้หมดเลย และก็ให้เงินมาตลอด

    ลูกกราบขอบพระคุณหลวงพระเดชพระคุณพ่อเป็นอย่างสูง ที่ทำให้ลูกได้มีวันนี้ ได้รู้จักกับ DMC

http://goo.gl/mnlwW