บรรพชาสามเณร วัดพุทธเอ้าสบวร์ก เยอรมัน

เมื่อพระอาจารย์ได้นำประวัติชีวิตของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ มาให้ดูกัน พอดูจบ ผมนิ่งอึ้งไปทันที ในหัวก็คิดแต่ว่า "โอ...มีด้วยหรือบุคคลที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ บุคคลที่ยอมแม้แต่จะสละชีวิตตัวเอง เพื่อให้ได้มาซึ่งคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า" แล้วในวินาทีนั้น ผมก็ตัดสินใจทันทีว่า จะต้องเป็นหลานแท้ของท่าน คือจะต้องเข้าถึงธรรมให้ได้ https://dmc.tv/a366

บทความธรรมะ Dhamma Articles > ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ > ยุโรป > เยอรมัน
[ 29 ส.ค. 2549 ] - [ ผู้อ่าน : 18266 ]

โครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนรุ่นที่ 4

วัดพุทธเอ้าสบวร์ก ระหว่างวันที่ 6-13 สิงหาคม พ.ศ.2549
  
    มีสามเณรทั้งหมด 7 รูป เป็นชาวไทย, เยอรมัน, ลูกครึ่งไทย-เยอรมัน และเวียดนาม  
 
    สามเณรอายุมากที่สุด คือ 48 ปี และอายุน้อยที่สุด คือ 12 ปี ญาติโยมต่างสนุกสนาน เบิกบานในบุญ ทำภัตตาหารมาถวายเพียบทุกวัน สามเณรรักการนั่งธรรมะมาก บางคนติดอก ติดใจ พอถึงวันสึกไม่อยากจะสึกกัน
 
    ถึงเวลาปฏิบัติธรรมไม่มีใครลุกไปไหน  ตอนนี้ยังบวชอยู่ 2 รูป คือ สามเณร มิคาเอล และสามเณร ดาเนียล ตัวแทนสามเณรได้เขียนผลการปฏิบัติธรรมมาฝากหลวงพ่อ ดังนี้ครับ
 
 
ผมชื่อ สามเณร คริสเตียน สมิท อายุ 22 ปี เป็นชาวเยอรมันแต่กำเนิดครับ ผมศึกษาและสนใจศาสนาพุทธมานานแล้วและอยากบวชสักครั้งในชีวิต แล้ววันหนึ่งความฝันของผมก็เป็นจริง เมื่อผมไปเจอพระภิกษุรูปหนึ่งที่ไร่สตอเบอรี่ ในเมือง เอ้าสบวร์ก ประเทศเยอรมัน ท่านก็ชวนผมมาบวชสามเณรธรรมทายาท ตอนนี้ผมเข้าใจในระดับหนึ่งแล้วว่า การบวชนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดจริงๆ ผมจึงมีความเพียรมากในการปฏิบัติธรรม
 
เวลาผมนั่งสมาธิ(Meditation) ผมจะนึกถึงดวงแก้ว แรกๆ ก็นึกได้ 5 นาทีบ้าง 10 นาทีบ้าง แล้วก็ฟุ้งอีก พอฟุ้งผมก็จะลืมตาขึ้นตามที่หลวงพ่อสอน จากนั้น ค่อยหลับตาใหม่ และเริ่มตรึกดวงแก้วอีกครั้ง ผมทำเช่นนี้เป็นประจำ
 
    จนกระทั่งวันหนึ่ง  ขณะนั่งธรรมะอยู่นั้น ผมรู้สึกว่า ผมกำลังนั่งอยู่คนเดียว ตัวเบาสบายมาก แล้วสักพักตัวก็หายไปเลยครับ เหมือนไม่มีตัวตนอยู่ในโลกนี้ ผมตกใจกลัวจึงลืมตาขึ้น แต่ความสบายก็ยังอยู่นะครับ  พระอาจารย์ท่านก็แนะนำว่า ให้นั่ง ทำใจว่างๆ นิ่งๆ เฉยๆ ต่อไปเรื่อยๆ ไม่ต้องกลัว ผมก็ปฏิบัติตาม แล้วตัวก็หายไปอีก ทุกอย่างว่างเปล่า เหมือนไม่มีอะไรอยู่ในโลกนี้เลยครับ
 
    นอกจากนี้ ความรู้สึกสบายก็เปลี่ยนเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ สักพัก ผมก็เห็นดวงแก้ว ชัด ใส สว่างที่กลางท้อง แต่ดวงแก้วไม่ใหญ่มากนะครับ แค่ประมาณแก้วตาของคนเราเท่านั้นเอง ผมไม่ทราบจะทำอย่างไรต่อ จึงมองดวงไปเรื่อยๆ ตอนมองอยู่นั้นผมมี ความสุขมากๆครับ สุดจะบรรยาย และมีความรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วมาก ทุกวันนี้พอผมเริ่มหลับตา ผมก็สามารถหยุดใจได้เร็วกว่าเมื่อก่อนมาก ผมจะนั่งธรรมะให้ยิ่งๆขึ้นไปครับ
 
    ผมชื่อ สามเณร มิคาเอล ทราน เป็นชาวเวียดนาม  เกิดและโตที่ประเทศออสเตรียครับ ขณะนี้ผมอายุ 22 ปี ศึกษาคณะแพทย์ อยู่ที่เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรียครับ
 
ก่อนหน้านี้ ผมเคยนับถือศาสนาอื่น แต่คุณพ่อซึ่งเป็นชาวพุทธก็จะเล่าคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ผมฟังบ่อยๆ และผมเคยสงสัยมาตลอดว่า ทำไมบางคนถึงเกิดมารวย บางคนเกิดมาจน บางคนแข็งแรง บางคนเจ็บไข้ได้ป่วย พอได้ฟังคำสอนในพระพุทธศาสนาโดยเฉพาะเรื่องกฎแห่งกรรม ทุกคำสอนล้วนมีเหตุผลทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้เองผมจึงตัดสินใจเปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธอย่างถาวร และยิ่งได้ฟังคำสอนของคุณครูไม่ใหญ่ ผมก็ยิ่งทึ่งมากขึ้น เพราะหลายๆอย่าง ที่ผมสงสัย  คุณครูไม่ใหญ่ก็มีคำตอบให้กับผมตลอด ผมจึงแน่ใจว่าเลือกเดินทางที่ถูกต้องแน่นอนครับ
 
ระหว่างโครงการอบรมสามเณรธรรมทายาท ในครั้งนี้ ผมและเพื่อนๆต้องนั่งสมาธิวันละ 4 ชั่วโมง แต่ละรอบไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง ช่วง 2-3 วันแรก ผมปวดขามากครับ หัวเข่าเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ และไม่มีสมาธิในการนั่งธรรมะเลย ผมเริ่มมีความคิดว่า "คนอย่างผมจะเข้าถึงธรรมได้จริงหรือ" เพราะผมเพิ่งมาเจอหมู่คณะ และเริ่มฝึกสมาธิได้ไม่นาน
 
    แต่ความคิดนี้ ก็ต้องมลายหายสูญในพริบตาครับ เมื่อพระอาจารย์ได้นำประวัติชีวิตของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ มาให้ดูกัน พอดูจบ ผมนิ่งอึ้งไปทันที ในหัวก็คิดแต่ว่า "โอ...มีด้วยหรือบุคคลที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ บุคคลที่ยอมแม้แต่จะสละชีวิตตัวเอง เพื่อให้ได้มาซึ่งคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า" แล้วในวินาทีนั้น ผมก็ตัดสินใจทันทีว่า จะต้องเป็นหลานแท้ของท่าน คือจะต้องเข้าถึงธรรมให้ได้
 
    เวลาผมนั่งสมาธิ ผมจะเอาใจจรดนิ่งที่ศูนย์กลางกาย อย่างเบาๆ สบายๆ โดยที่ไม่คิดถึงอะไรเลย มีอยู่วันหนึ่งขณะนั่งสมาธิทำใจเบาๆอยู่นั้น ผมก็เห็นแสงสว่างเล็กๆ ที่กลางท้อง แล้วก็รู้สึกเย็นสบาย แต่สักพักแสงนั้นก็หายไป แต่ความสุขไม่ได้หายไปด้วยนะครับ มันเป็นความสุขที่ไม่สามารถเล่าให้คนอื่นเข้าใจได้ สักพักแสงนั้นก็กลับมาอีก แล้วก็หายไป เป็นอย่างนี้อยู่ระยะหนึ่ง พระอาจารย์ก็ สัพเพฯ
 
    ผมรู้สึกว่าเวลา 1 ช.ม. ช่างผ่านไปเร็วราวกับ 5 นาทีและไม่อยากเลิกนั่งเลย   ทุกๆคืนผมจะนั่งนอกรอบเองอีกประมาณ 3 ถึง 4 ชม. ตั้งแต่ 4 ทุ่ม ถึงตี 1 และผมตั้งเป้าไว้ว่าจะนั่งสมาธิให้ได้ทั้งคืน  เมื่อใดที่ผมเกิดอาการท้อ  ผมก็จะเอาพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ เป็นต้นแบบ ผมรักพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ และหลวงพ่อมากที่สุดครับ

http://goo.gl/86802


พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      องค์พระภายในทั้งใสทั้งสว่าง
      ดวงแก้วกลมใสในตัวเรา
      เมื่อใจหยุดนิ่ง...สิ่งอัศจรรย์ก็บังเกิด
      เริ่มจากมืด...เริ่มจากฟุ้ง
      ความสุข...ที่แท้จริงแล้วอยู่ในตัวเรานี่เอง
      สมาธิ...ที่ได้รับ คือ ความสุข
      ดวงใสๆที่กลางกาย
      รางวัลของความตั้งใจ
      สมาธิ...คุณทำได้...ถ้าได้ทำ
      ความสุขภายในไม่ได้ไกลเกินเอื้อม
      ผมมาบวชได้เพราะเกมส์ออนไลน์
      จุดเปลี่ยนชีวิตนักแม่นปืนสู่ชีวิตสมณะ
      สมาธิบนโลกออนไลน์




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related