เรื่องของช่างตัดผม ที่คุณอาจไม่เคยรู้

ผลการปฏิบัติธรรม

กัลยาณมิตร คลาวเดีย จัสเช่ (กรีซ)

      ฉันชื่อ คลาวเดีย จัสเช่ อายุ 46ปี เป็นนักเรียนโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาจากกรีซ ฉันเป็นช่างตัดผม ที่ต้องเดินทางไปตัดผมตามบ้าน หรือบางครั้งก็ไปตัดบนเรือ จึงทำให้มีโอกาสในการเดินทางไปที่ต่างๆทั่วโลก

 

    งานของฉัน เป็นงานที่ต้องอยู่กับศีรษะของมนุษย์ แต่ละคนที่มาตัดผม เขาไม่ได้เพียงให้ฉันตัดภาระของเส้นผมบนศีรษะให้เท่านั้น แต่ฉันกลายเป็นที่ระบายความทุกข์ของเขาด้วย ฉันต้องฟังผู้คนเหล่านั้น เล่าปัญหาต่างๆให้ฟังตลอดเวลา วันนี้ฉันไปเจออย่างนั้นอย่างนี้ คนนี้เป็นอย่างนั้น คนนั้นเป็นอย่างนี้ บางเรื่องก็ Negative มากๆ

 

    ฉันฟังไปตัดผมไป บางทีก็ต้องพูดปลอบประโลมเขา พอตัดเสร็จ เขาก็จากไป ศีรษะของเขาเกลี้ยงเกลา พร้อมๆกับรู้สึกเบาหัว แต่ตัวฉันสิ กลับต้องมานั่งก็เก็บปัญหาเหล่านั้นไว้ จนหนักหัวไปหมด ฉันต้องมาคิดต่อว่า คนนี้ทำอย่างนั้น คนนั้นทำอย่างโน้น พอมากเข้าฉันก็ปวดหัว หัวของฉันเต็มไปด้วยปัญหา ฉันทำอย่างนี้มา 30ปีแล้ว ไม่ใช่แค่กับลูกค้าเท่านั้น ทั้งเพื่อนสนิทและเพื่อนบ้าน ต่างก็อยากมาเล่าปัญหาให้ฉันฟัง พอฉันพูดปลอบประโลม เขาก็ผ่อนคลาย แต่ตัวฉันกลับรู้สึกกดดันมากๆ

 

    ดังนั้น เวลาที่อยู่บ้าน ฉันพยายามทำบ้านให้เงียบที่สุด หรือไม่ก็ไปว่ายน้ำ เพื่อที่จะกำจัดปัญหาเหล่านี้ไปเสีย หรือไม่ก็ไปหาคนอื่นที่จะมาฟังปัญหาของฉันต่ออีก หาทางเอามันออกไปจากหัวของฉันให้ได้ ไม่เช่นนั้นฉันคงต้องเป็นยอดมนุษย์เจ้าปัญหาแน่ๆ

 

    จนกระทั่ง หนึ่งปีเศษที่ผ่านมา ฉันได้รู้จักกับ คุณใบอ่อน เธอบอกว่ามี Meditation Class ฉันก็สนใจขึ้นมาทันที เพราะอยากศึกษาเรื่อง Meditation มานานแล้ว ฉันรู้สึกว่า มีบางสิ่งบางอย่างอยู่ในตัวฉัน ตอนแรกๆ ฉันคิดว่ามันยากมากที่ใจจะ Shut down (สงบได้) เพราะว่า ใจฉันฟุ้งง่ายมาก แต่พอลงมือนั่งสมาธิ(Meditation)จริงๆ ฉันก็ปรับได้ดีขึ้น

 

    ฉันไม่ถนัดนั่งที่พื้น การนั่งสมาธิที่ดีสำหรับฉัน คือนั่งบนโซฟา บางทีก็นั่งบนเตียง แต่ฉันจะนั่งในท่าขัดสมาธินะคะ ไม่ได้นั่งห้อยขา วิธีการที่จะทำให้ใจ Clear ก็คือ การทำสมาธิกับจุดกลางกายของฉันเอง แล้วก็ตามด้วยคำภาวนา ฉันก็สามารถที่จะหยุดคิดสิ่งต่างๆได้ง่ายมาก

ผลปฏิบัติธรรม

    ฉันหลับตาเบาๆ และเมื่อใจผ่อนคลาย ฉันจะเห็นเป็นดวงดาวเล็กๆ อยู่ที่จุดกึ่งกลางกายของฉันทันที มันเหมือนเป็นแสงที่ สว่างขึ้นๆ แล้วฉันก็จะเห็น ดวงกลมใสๆ สะอาดๆ ไม่ใช่แค่ลูกเดียวนะ มีเยอะแยะเลย และจะมีลูกหนึ่งค่อยๆขยาย พุ่งสูงขึ้นมาหาฉัน แล้วลูกถัดมาก็ค่อยๆขยายแล้วก็พุ่งสูงขึ้นตามมาอีก แต่ละลูกเคลื่อนที่สูงขึ้นมาเรื่อยๆ จะใสขึ้น ใสขึ้นเรื่อยๆ มีแต่พุ่งขึ้นเท่านั้น ไม่มีพุ่งลง ดวงกลมๆเหล่านี้สวยงามมาก แต่ทุกๆครั้งที่ฉันพยายามเหนี่ยวรั้งไว้ ดวงกลมนั้นก็หายไป แต่เมื่อฉันกลับมามีสมาธิเพียงพอ ฉันก็สามารถเห็นดวงกลมๆ ได้อีก หลับตาเมื่อไหร่ก็เห็นทันที

    หลังจากฉันนั่งสมาธิเสร็จแล้ว ฉันรู้สึกเหมือนตื่นขึ้น ผ่อนคลาย สบาย มีความสุข รู้สึกดีมาก เพราะปกติจะมีความคิดอยู่เต็มหัวไปหมดเลย แต่ตอนนี้สามารถกำจัดความคิดเหล่านี้ได้ง่ายมาก ชีวิตประจำวันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ฉันสามารถคุยกับตัวฉันเองได้ ไม่ต้องการให้ใครมารับฟังฉันอีกแล้ว ฉันสามารถทำทุกอย่างได้ดีขึ้น ปัญหาจะ Negative ขนาดไหน ฉันก็จะสามารถพลิกปัญหา ให้กลายเป็น Positive ได้อย่างง่ายดาย

    ตอนนี้ ฉันสามารถช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นได้ ผู้คนในโลกนี้ต้องการแค่ใครบางคนที่จะรับฟังและเฝ้าปลอบประโลมเท่านั้นเอง ฉันเชื่อว่าคนป่วยทางกายในโลกนี้ หลายคนมาจากการป่วยทางจิตใจ ปัญหาทางจิตใจ ซึ่งต้องแก้โดยการกระทำทางจิตใจเท่านั้น ฉันเองก็เคยเจอปัญหาอย่างหนักหน่วงมาครั้งหนึ่ง คือฉัน อกหัก ตอนนั้นฉันรู้สึกโลกทั้งใบแทบจะถล่มทลาย มันเจ็บปวดมาก เหมือนฉันแบกปัญหาเหล่านั้นไว้บนไหล่ตลอดเวลา อยู่ในวังวนของตัวเอง (Circle of myself) ฉันคิดว่า ถ้าทุกๆคนออกจากวังวนของตัวเองได้ เขาคนนั้นก็จะออกจากปัญหาได้ และจะมีชีวิตสงบสุข การนั่งสมาธิช่วยให้ฉันมีความคิดตรงนี้

    ตอนนี้ฉันได้ดู DMC แล้ว ฉันชอบพระเดชพระคุณหลวงพ่อมาก พระเดชพระคุณหลวงพ่อเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ เป็น Great Master (ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่) มันยากนะที่ใครจะเป็น Great Master ตลอดเวลา แต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อทำได้ และช่วยเหลือทุกคนๆในโลกนี้ตลอดเวลา

    ฉันเชื่อลึกๆว่า บางทีถ้าฉันนั่งสมาธิได้ดี ฉันอาจจะสามารถช่วยเหลือคนได้แบบพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฉันอยากให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อมีชีวิตที่ยืนยาว เพราะพระเดชพระคุณหลวงพ่อจะทำให้โลกนี้มีความสงบสุข ได้อีกมากมาย ถ้าทุกคนในโลกนี้ นั่งสมาธิ พวกเขาจะมีแต่ความสุขเท่านั้น (Happiness only)

 

    ฉันอยากจะบอกทุกๆคนในโลกนี้ว่า ควรเลิกจุกจิกกันได้แล้ว ไม่ว่าเรื่องเล็ก หรือเรื่องใหญ่ ควรกลับไปอยู่ในพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับ Body (กาย) และ Soul (จิตวิญญาณ) ก็พอ ถ้ากลับไปอยู่ในตรงจุดนั้นได้ พวกเขาจะมีความสุข เพราะต้องการแค่อาหาร จิตใจที่สงบ เพื่อนที่ดี และ อิสรภาพ ไม่ใช่แค่ผู้คนในกรีซเท่านั้นที่ต้องการ แต่ทุกคนในโลกนี้ก็ต้องการเช่นกัน และทุกคนก็ทำได้
   

    เมื่อเขาได้มานั่งสมาธิ เขากำลังไขว่คว้าหาสันติภาพและอิสรภาพ (Peace and Freedom) ทุกๆคนสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ฉันอยากให้ทุกคน ไม่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับทุกๆเรื่อง แต่เป็นมิตรกับทุกๆสิ่ง สมาธิเป็นสิ่งสากล ไม่ว่าเชื้อชาติ หรือศาสนาใด

    ฉันคิดว่า เมื่อมนุษย์เกิดขึ้นมาครั้งแรก ไม่น่าจะมีศาสนา ศาสนาเป็นสิ่งที่ตั้งขึ้นมาเองในภายหลัง ผู้คนนี่ล่ะมาตั้งกฎใหม่ เป็นกฎของศาสนาทำให้ละเลยกฎดั้งเดิมที่มีมาตั้งแต่เริ่มต้น กฎใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมาเปลี่ยนแปลงมนุษย์ ทำให้เกิดศาสนาขึ้นมากมาย

 

    ฉันรู้สึกอย่างนั้น เพราะฉันอ่านไบเบิ้ล กับอัลกุรอ่าน จึงพบว่า มีจุดที่คล้ายกัน ฉันเชื่อว่าส่วนคล้ายกันเหล่านี้ เป็นส่วนดั้งเดิม คำสอนที่ดีๆ ทั้งหลายเป็นส่วนดั้งเดิม แต่ว่าผู้คนกลับไปสร้างกฎอะไรประหลาดๆ ขึ้นมาแล้วก็สร้างศาสนา แล้วก็แยกศาสนาออกเป็นนิกายอีก ในอดีตมันไม่น่าจะเป็นอย่างนี้ ถ้ามนุษย์นั่งสมาธิ พวกเขาจะรู้ว่า อะไรคือสิ่งที่เขาต้องการอย่างแท้จริง

มาฟังคุณคลาวเดีย จัสเช่ กันนะคะ

http://goo.gl/vG5HR