ผลการปฏิบัติธรรมพระรุ่นกองพันสถาปนา
พระวิทูรย์ อาภาสุโภ กองพันสถาปนา
กระผม...พระวิทูรย์ อาภาสุโภ เพิ่งเรียนจบปริญญาตรี จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง คณะเทคโนโลยีการเกษตรครับ ชีวิตในมหาวิทยาลัยของผมที่ผ่านมา ช่างแตกต่างจากเพื่อนจริงๆ เพราะผมได้มีโอกาสช่วยงานชมรมพุทธ และปีสุดท้ายนี่เอง ผมก็ได้ทำหน้าที่เป็นประธานชมรมพุทธครับ ซึ่งต้องรับบุญทั้งจัดกิจกรรมปล่อยปลา ตักบาตร ฟังธรรม นั่งสมาธิ(Meditation)และสวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็นครับ และก็มีผู้มาร่วมกิจกรรมมากมาย ตั้งแต่คณะผู้บริหาร อาจารย์ เจ้าหน้าที่ ตลอดจนนักศึกษาในสถาบันครับนอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมพิเศษจากชมรมพุทธศาสตร์สากล เช่นโครงการจัดสอบตอบปัญหาธรรมะทางก้าวหน้า , โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก เด็กดี V-Star ทำให้ผมต้องมาชมรมตั้งแต่เช้าและ กลับดึก 3-4 ทุ่มเกือบทุกวัน ซึ่งต้องยอมรับว่า การเรียนกับงานชมรมนั้นหนักเท่ากันเลยครับ บางครั้งถึงกับโดดเรียนบ้าง และมีเวลาในการเตรียมสอบน้อยกว่าเพื่อนๆ แต่การที่ผมได้สวดมนต์นั่งสมาธิเป็นประจำ ทำให้ใจตั้งมั่น นุ่มนวล เป็นระเบียบ จึงเข้าใจบทเรียนที่อาจารย์สอนได้ง่าย มีความจำดี เมื่อจบปีสุดท้าย ผมก็สามารถประคับประคองการเรียนได้ตลอดรอดฝั่ง สำเร็จการศึกษาโดยได้รับเกียรตินิยมอันดับ 1 ครับจากนั้น ผมก็ตั้งใจว่าจะทำงานเก็บเงินก่อน 1 ปี เพื่อเรียนต่อ แต่พอได้ทราบข่าวการบวช 1,000 รูป ผมเริ่มสับสนระหว่างความตั้งใจทำงานกับการบวช ผมคิดแล้วคิดอีก สุดท้ายผมก็ตัดสินใจบวชโดยที่ยังไม่บอกคนที่บ้านเลย เพราะพ่อแม่ของผมนับถือคริสต์ และกำลังรอคอยผมให้กลับไปเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงช่วยงานที่บ้านอย่างพร้อมหน้ากัน เมื่อใกล้วันบวช ผมจึงตัดสินใจบอกแม่ว่า ผมขอบวช 1 พรรษานะครับ โดยอ้างเหตุผลว่าเพื่อนๆ เขาเรียนจบก็บวชกันทั้งนั้น และ บวชครั้งนี้ก็เพื่อทดแทนบุญคุณของแม่กับพ่อด้วย แม่ฟังแล้วก็นิ่ง ไม่พูดอะไร แต่สุดท้ายก็ตกลงให้บวช โดยบอกกับผมว่า อย่าบอกพ่อนะ เดี๋ยวพ่อเสียใจ จนกระทั่ง 2 วันสุดท้าย ผมตัดสินใจบอกพ่อว่า ขอบวช 1 พรรษานะ พ่อก็นิ่ง แววตาพ่อตอนนั้นรู้เลยว่าพ่อผิดหวัง ท่านตอบด้วยเสียงแผ่วเบาว่า บวชก็บวช ผมดีใจและอัศจรรย์ใจมากครับ เพราะพ่อกับแม่ไม่ค่อยเข้าใจพระพุทธศาสนาเลย แต่กลับให้ผมบวชอย่างง่ายดายเมื่อถึงวันบวช ผมได้เข้ามาในโครงการและประทับใจในระบบระเบียบของโครงการมาก โดยเฉพาะพิธีบรรพชาอุปสมบท สามารถอวดสายตาของชาวโลกได้เลย และยังความเลื่อมใสศรัทธาให้สาธุชนผู้มาร่วมงานเป็นอัศจรรย์การได้มาจำพรรษาที่ศูนย์ฝึกอบรมธรรมทายาท เขาแก้วเสด็จนั้น นับเป็นรางวัลของชีวิตครับ เพราะสถานที่แห่งนี้ล้อมรอบด้วยขุนเขาที่เขียวขจี เย็นสบาย อาหารก็ถูกปาก อิ่มทุกมื้อ พระอาจารย์-พระพี่เลี้ยงก็ใจดี ดูแลแนะนำสั่งสอน ด้วยความเมตตามาตลอด ถ้าวันไหนที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโว เมตตาแสดงธรรม พระทุกรูปจะตั้งใจฟังด้วยความดีใจเป็นพิเศษ เพราะจะได้เข้าใจชีวิตและโลก มีหลักการดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง มีความสุข รู้เป้าหมายของการมาเกิดเป็นมนุษย์ครับและแล้วในเช้าวันหนึ่ง เสียงของพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโวก็ดังขึ้นว่า ตื่นเถอะนะลูกนะ ถึงเวลาต้องปรารภความเพียรแล้ว ผมก็ตื่นจากจำวัตร แต่เช้านี้แปลกมาก ผู้รู้สึกว่าใจมารวมนิ่งๆ นุ่มนวลอยู่กลางท้องทันทีที่ตื่นเลยครับ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตรึกถึงดวงแก้วได้อย่างง่ายๆ เมื่อได้เวลาปฏิบัติธรรมตอนเช้า ผมก็แค่ปรับร่างกายให้สบายๆ วางใจเบาๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 สักพักหนึ่ง ผมรู้สึกว่าใจหยุดนิ่งไม่วอกแวกไปไหน ตัวหายไปเหมือนไม่มีตัวตน ใจเกิดอาการนิ่งแน่น ปราศจากความคิด คล้ายกับหลับแต่ไม่หลับ ทันใดนั้นเอง ผมก็เห็นดวงแก้วแว๊บขึ้นที่กลางท้อง ดวงแก้วนี้กลมจริงๆ เลยครับ กลมแบบไม่มีที่ติ โตเท่าฟองไข่แดงของไก่และมองเห็นได้ทั้ง 3 มิติ ทำให้ใจของผมแช่มชื่นเบิกบานมาก เมื่อพระอาจารย์สัพเพ ผมก็คลายออกจากสมาธิ แต่ดวงแก้วนั้นยังติดตาติดใจผมอยู่และดึงใจของผมไปอยู่ที่ศูนย์กลางกายตลอดเวลา ทำให้ผมตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูกเลย แม้กระทั่งตอนสวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็น แค่หลับตานึกเบาๆ ก็เห็นดวงแก้วใส ชัดยิ่งกว่าลืมตาเห็น ผมมีความสุขและเบิกบานใจมาก เป็นความสุขที่บริสุทธิ์จริง ๆ ครับพระวิทูรย์ อาภาสุโภ ในท่า peace position
ตอนนี้ผมรักและมีความสุขในการปฏิบัติธรรมมากครับ ผมอยากให้ทุกคนมีโอกาสมาสัมผัสความสุขเช่นนี้จังเลย เพราะจะได้รู้ว่าความสุขที่แท้จริงนั้นไม่ได้อยู่ที่ไหนไกล แต่กลับอยู่ภายในตัวเรา สามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายๆ ด้วยการหยุดใจที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 อย่างเบาๆ สบาย ๆ แค่นี้เองครับสุดท้ายนี้ กระผมต้องกราบขอบพระคุณหลวงพ่อที่เปิดโอกาสให้ผมได้บวช ได้เข้าใจความเป็นจริงของชีวิต และขอให้หลวงพ่อ มีสุขภาพแข็งแรง อย่าเจ็บ อย่าป่วย อย่าไข้ เป็นผู้นำในการสร้างบารมีที่ยิ่งใหญ่ตลอดไปครับ
http://goo.gl/KkCIw