Mobile Versionกับดัก comfort zoneอยู่ตรงนี้แล้วปลอดภัย ไม่อยากเสี่ยง คอมฟอร์ทโซนคืออะไร เหมือนกบในกะลาหรือไม่
เรื่อง : พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ (สมชาย ฐานวุฑฺโฒ)จากรายการข้อคิดรอบตัว ออกอากาศทางช่อง DMC
คอมฟอร์ทโซนหรือเซฟตี้โซนคืออะไร?คือโซนสุขสบาย ตั้งแต่สุขสบายทางกายภาพ เช่น บ้านหรู อยู่สบาย มีคนทำทุกอย่างให้ หรืออาจเป็นบ้านที่เราดูแลความสะอาดเอง แต่ทุกอย่างลงตัว แล้วเราก็ชิน รู้สึกว่าสะดวกสบาย ก็เป็นคอมฟอร์ทโซนอย่างหนึ่งเหมือนกัน ส่วนคอมฟอร์ทโซนในด้านการงาน คืองานที่ทำมาหลายปีจนชิน จนอยู่ตัว แทบจะหลับตาทำได้เลย หรือคอมฟอร์ทโซนเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของตัวเรา เจอผู้คนที่คุ้นเคยจนชินไปหมด รู้สึกทุกอย่างลงตัวแล้วรู้สึกปลอดภัยเพราะเข้าใจหมด ซึ่งดูแล้วมันเหมือนน่าจะดี แต่ในชีวิตจริงไม่มีอะไรที่อยู่คงที่อย่างนั้น เมื่อใดที่เราอยู่ในคอมฟอร์ทโซน สิ่งที่ตามมาคือเรารู้สึกผ่อนคลาย เกิดอาการเฉื่อยชา จนไม่กล้าเสี่ยงอะไรเลยกลัวจะสูญเสียความสุขสบายนั้น คล้ายกับหนอนดักแด้ หากมันไม่ยอมออกจากดักแด้ก็เป็นผีเสื้อไม่ได้ แต่เมื่อมันกล้าที่จะออกจากคอมฟอร์ทโซนของมัน พยายามดิ้นให้หลุดจากเปลือกดักแด้ สู้อยู่นานกว่าจะหลุดออกมาได้แต่พอหลุดมาได้ มันก็โบยบินเป็นผีเสื้อ คนเราก็เหมือนกันจะพัฒนาก้าวหน้าได้ต้องออกจากคอมฟอร์ทโซนของตัวเอง ถ้าติดสุขอยู่ในคอมฟอร์ทโซนแล้วจะไม่ก้าวหน้า
Theodore Roosevelt ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาบอกว่า สิ่งที่คุณควรกลัวที่สุดคือ ความกลัว เพราะจะทำให้คุณย่ำเท้าอยู่กับที่ ถ้าใครหดตัวอยู่แต่คอมฟอร์ทโซน คิดว่าอย่างนี้พอใจแล้ว สบายแล้ว พอข้างนอกมีอะไรเปลี่ยนแปลงมากระทบ เลยแพ้สู้ไม่ได้ เกิดอะไรมากระทบบริษัทที่ตัวเองอยู่ เช่น หากบริษัทเจ๊งจะทำอย่างไร บางคนบอกบริษัทใหญ่ไม่เจ๊งหรอก โนเกีย โกดัก ฟูจิเป็นไง มีอะไรเปลี่ยนแปลงในโลกนี้มากมาย เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรที่ปลอดภัยจริง ถ้าเราหดตัวไม่กล้าเสี่ยงอะไรเลย จะทำให้เราอ่อนแอ เพราะฉะนั้นเราต้องกล้าที่จะก้าวออกไป สู้โลกสู้การเปลี่ยนแปลง กล้าผจญภัย แล้วความสำเร็จจะเป็นของเราในที่สุด
เราควรทำอย่างไร เพื่อออกจากคอมฟอร์ทโซน แล้วไม่กลับเข้าไปในคอมฟอร์ทโซนอีก?
ต้องหาความรู้ และสังเกต คนที่ติดในคอมฟอร์ทโซน จะเป็นคนที่ทำอะไรซ้ำๆ ชีวิตรูทีนจนกระทั่งตัวเองก็ยังเบื่อตัวเอง เพราะเมื่อทำอะไรที่รูทีน ไม่มีอะไรท้าทาย การหาความรู้เป็นแบบทำเพื่อให้เวลาผ่านไป ไม่มีวัตถุประสงค์หลัก แต่คนที่กล้าสู้ กล้าผจญการเปลี่ยนแปลงจะขวนขวายหาความรู้ รู้สึกมั่นใจในตนเอง เพราะปรับตัวหาความรู้หาอย่างมีวัตถุประสงค์ จะฝึกเรื่องอะไรจะฝึกจริง จะพัฒนาฝีมือตัวเองขึ้นมาเรื่อยๆ มีทักษะความรู้ ความสามารถที่ทันโลก เพราะฉะนั้น 1.หาความรู้ 2.บริหารเวลาให้เป็น รวมทั้งต้องมีเวลาสวดมนต์นั่งสมาธิ(Meditation)ด้วย มีเวลาที่ใจนิ่งๆ ประสิทธิภาพในการคิดการทำงานเราจะดีขึ้น คนที่กล้าออกจากคอมฟอร์ทโซนอย่างมีระบบ อย่างมีแผน โอกาสประสบความสำเร็จสูง
การที่เราไม่กล้าออกจากคอมฟอร์ทโซนของตัวเอง ถือว่าเป็นกบในกะลาหรือไม่?
มีความใกล้เคียงกัน เพราะกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย ต้องการอยู่ในคอมฟอร์ทโซนอย่างเดิมๆไม่กล้ารับความเปลี่ยนแปลง คิดว่าแบบเดิมดีแล้ว จึงเหมือนเป็นกบในกะลา แต่การกล้าจะออกจากคอมฟอร์ทโซน กล้าจะยอมรับความจริง กล้าจะไปผจญภัยไม่กลัวความยากลำบากก็จะเกิดความเจริญก้าวหน้า ถ้าคนๆ นั้นเป็นผู้นำประเทศ ประเทศก็ก้าวหน้า แต่ผู้นำประเทศที่ฉลาดแต่กลัวและอยู่ในคอมฟอร์ทโซนประเทศล้าหลัง เราเองต้องกล้าที่จะออกจากคอมฟอร์ทโซนแล้วไปสู้โลกสู้ความจริงเพื่อเราจะได้รู้ทันโลกแล้วก้าวนำนั้นโลกไปในที่สุด
หลักของพระพุทธศาสนาสอนให้เราออกจากคอมฟอร์ทโซนหรือไม่?
พระพุทธเจ้าพระองค์ให้พระภิกษุอยู่ง่ายกินง่าย การดำรงชีพ พื้นฐานที่สุดของพระภิกษุคือ อาหารบิณฑบาต ส่วนอดิเรกลาภจะมีโยมถวายภัตตาหารพิเศษก็รับได้ บิณฑบาตไปมีคนถวายอะไรก็ฉันอย่างงั้น วันไหนไม่มีวันนั้นก็อด เรื่องเครื่องนุ่งห่มคือผ้าบังสกุลจีวร ไปเอาผ้าที่ห่อศพ ผ้าคลุกฝุ่นมาเย็บต่อๆ กันเพื่อใช้กันความหนาว ความร้อน เหลือบ ยุง ริ้น ไร แมลง ส่วนอดิเรกลาภ คือโยมจะถวายจีวรเป็นผืน หากมีคนถวายก็รับได้ เสนาสนะพื้นฐาน คือโคนไม้ มีร่มไม้บังแดดให้ กลางคืนบังน้ำค้างให้ อยู่ได้แล้ว ถ้ามีใครสร้างกุฎิถวาย ก็ไม่มีปัญหาแต่หากไม่มีใครถวายต้องอยู่ให้ได้ หากไม่สบาย ยาคือน้ำปัสสาวะของตัวเอง กึ่งๆ เป็นแอนตี้ไดอะเบติกในตัว ถ้ามีคนถวายยาอื่นๆมา ก็รับได้ แต่หากไม่มีก็ใช้น้ำปัสสาวะเป็นยารักษาโรค พระองค์ตีกรอบอย่างนี้ เพราะฉะนั้นไม่ว่าภาวะสิ่งแวดล้อมข้างนอกจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร ย่ำแย่แค่ไหนก็ตาม คณะสงฆ์ก็ยังอยู่ได้ เพราะเป็นเหมือนใม้ใหญ่กินน้ำน้อย ถ้าสิ่งแวดล้อมเอื้อให้ก็ไปสบาย ถึงแม้ไม่เอื้อให้ก็ต้องอยู่ให้ได้ เพราะฉะนั้นจึงไม่มีคอมฟอร์ทโซน ในพระพุทธศาสนา ไม่ว่าจะเป็นพระราชา มหาเศรษฐี เสนาบดี หรือใครก็ตามก็อยู่ง่ายๆแบบนี้ โดยมีเป้าหมายคือปฏิบัติเพื่อมุ่งนิพพาน ในพุทธศาสนาจึงไม่มี คอมฟอร์ทโซน เพียงแต่ดูแลอัตภาพสังขารร่างกายนี้ให้พออยู่ได้ เพื่อใช้ในการปฎิบัติธรรมเท่านั้น ไปได้ทุกที่มีแค่บาตรและจีวร กล้าเสี่ยงตลอดเวลาไม่ได้มีความห่วงเลยว่า จะต้องอยู่ตรงไหนที่ไหน ถึงจะสุขสบาย อยู่เพื่อมุ่งการปฏิบัติให้หมดกิเลสเท่านั้น เพราะฉะนั้นพวกเราทุกคนขอให้สำรวจตัวเอง แล้วก้าวออกจากคอมฟอร์ทโซน พร้อมจะรับแรงลมแรงฝนที่มาปะทะ ที่จะทำให้เราเองแข็งแกร่งขึ้นยืนหยัดขึ้น ในทุกสภาวการณ์ แล้วเจริญก้าวหน้าต่อไป
การที่อยู่ในคอมฟอร์ทโซน โดยที่ไม่เปิดรับข้อมูลภายนอกเลยนั้น อาจจะทำให้เราขาดการพัฒนาการเปลี่ยนแปลงที่ก้าวหน้า และเมื่อตัดสินใจออกจากคอมฟอร์ทโซนแล้ว จะต้องศึกษาข้อมูล เพื่อจะได้ไม่ต้องถอยหลังกลับเข้าไปในคอมฟอร์ทโซนเหมือนเดิม
พิมพ์บทความนี้
