Mobile Versionปกบ้านครองเมือง ของประเทศไทย
ปกบ้านครองเมือง ของประเทศไทย
ประเทศไทย หรือราชอาณาจักรไทย เป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์และความเป็นมาอันยาวนาน เริ่มตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์หรือยุคแรกเริ่ม ที่มีชุมชนมนุษย์ถือกำเนิดขึ้นในแผ่นดินลุ่มแม่น้ำแห่งนี้ รวมตัวก่อตั้งเป็นอาณาจักร สุโขทัย อยุธยา ธนบุรี ก่อกำเนิดวัฒนธรรมประเพณีต่างๆสืบต่อและพัฒนาผ่านกาลเวลาเรื่อยมาจนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1 ) ปฐมบรมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ขึ้นโดยย้ายเมืองหลวงเดิมที่อยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยามาอยู่ทางฝั่งตะวันออกแทน และพระราชทานนามว่า “กรุงเทพมหานคร”
เมืองไทยมีการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาจนถึงรัชกาลที่ 7 จึงไดเปลี่ยนแปลงการปกครองแบบระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
จากสยามสู่ประเทศไทย
สยาม (Siam) เป็นชื่อเรียกแผ่นดินขวานทองของเราที่ชาวต่างชาติรู้จักอย่างแพร่หลายมาตั้งแต่สมัยโบราณ และได้เปลี่ยนมาเป็นประเทศไทย (Thailand) เมื่อ พ.ศ.2482 ในสมัยจอมพล
ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี
ประเทศไทยใช้ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีกฎหมายสูงสุดคือรัฐธรรมนูญ ซึ่งฉบับพุทธศักราช 2550 ที่ใช้ในปัจจุบันรัฐธรรมนูญฉบับที่ 18 แห่งราชอาณาจักรไทย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
พระประมุขแห่งราชอาณาจักรไทยในปัจจุบัน คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงเป็นกษัตริย์รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี และทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์ในฐานะประมุขแห่งรัฐเป็นเวลานานที่สุดในโลก นับจากเสด็จขึ้นครองราชย์ในวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 จนถึงปัจจุบันรวมเป็นเวลากว่า 60 ปี
อำนาจอธิปไตย หรืออำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศของไทย แบ่งเป็น 3 ฝ่าย ได้แก่
ฝ่ายบริหาร คือคณะรัฐมนตรีหรือรัฐบาล มีหน้าที่บริหารประเทศตามนโนบายที่กำหนด
ฝ่ายนิติบัญญัติ คือรัฐสภา มีหน้าที่ในการออกกฎหมายบังคับใช้ในประเทศ ตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหาร ประกอบด้วยสมาชิก 2 ส่วน คือ
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน วาระดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี
สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนและจากการสรรหา วาระดำรงตำแหน่งคราวละ 6 ปี
ฝ่ายตุลาการ หรือศาล เป็นสถาบันการปกครองที่สำคัญ เพราะมีหน้าที่พิจารณาคดีความต่างๆ ให้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ เพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่ประชาชน
การบริหารงานของสถาบันการปกครองแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น
ส่วนกลาง ได้แก่ กระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ส่วนราชการอื่นที่เทียบเท่า
ส่วนภูมิภาค ประกอบด้วย 76 จังหวัด ซึ่งแยกย่อยได้เป็นอำเภอ กิ่งอำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน ดังนี้
เป็นการแบ่งภาคตามเกณฑ์การแบ่งตามภูมิศาสตว์ของราชบัณฑิตยสถาน
ส่วนท้องถิ่น เทศบาล องค์การบริหารส่วนจังหวัด และองค์การบริหารส่วนตำบล รวมทั้งมีการปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ 2 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานครและเมืองพัทยา
สาเหตุที่ไม่นับรวมกรุงเทพมหานครเป็นจังหวัดที่ 77 เพราะกรุงเทพมหานครจัดเป็นเมืองที่มีการปกครองแบบท้องถิ่นรูปแบบพิเศษนั่นเอง
แต่ถ้าแบ่งตามเกณฑ์ภูมิภาคศาสตร์อย่างในแผนที่ ประเทศไทยก็จะมี 77 จังหวัด
นอกจากกรุงเทพมหานครแล้ว เมืองที่มีการปกครองแบบท้องถิ่นรูปแบบพิเศษอีกแห่งคือ เมืองพัทยา
บทความที่เกี่ยวข้องกับปกบ้านครองเมือง ของประเทศไทย
http://goo.gl/0BNBK4
พิมพ์บทความนี้
