วันนี้วันที่ 50 นับจากวันเข้าพรรษา : ในท้องมีพระ

นับจากวันเข้าพรรษามา 50 วันแล้ว ก็เหลืออีก 40 วัน ตอนต้นพรรษาเราได้ตั้งใจเอาไว้ว่า ให้พรรษานี้เป็น พรรษาแห่งการบรรลุธรรม คำเต็มคือบรรลุพระธรรมกาย ซึ่งมีอยู่ในตัวของมนุษย์ทุกคนในโลก จะรู้หรือไม่รู้ จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม ล้วนมีพระธรรมกายภายในทั้งสิ้น ซึ่งหน้าตาเหมือนกันหมด ลักษณะก็เหมือนกัน เป็นกายตรัสรู้ธรรม เป็นพระรัตนตรัยภายใน เป็นกายผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว เป็นที่พึ่งที่ระลึกของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ของมวลมนุษยชาติทั้งปวงพรรษานี้ทุกคนก็จะต้องตั้งใจปฏิบัติให้พบพระให้ได้ https://dmc.tv/a16604

บทความธรรมะ Dhamma Articles > บางสิ่งที่แสวงหา
[ 10 ก.ย. 2556 ] - [ ผู้อ่าน : 18261 ]
 
ในท้องมีพระ

     นับจากวันเข้าพรรษามา 50 วันแล้ว ก็เหลืออีก 40 วัน ตอนต้นพรรษาเราได้ตั้งใจเอาไว้ว่า ให้พรรษานี้เป็น พรรษาแห่งการบรรลุธรรม คำเต็มคือบรรลุพระธรรมกาย ซึ่งมีอยู่ในตัวของมนุษย์ทุกคนในโลก จะรู้หรือไม่รู้ จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม ล้วนมีพระธรรมกายภายในทั้งสิ้น ซึ่งหน้าตาเหมือนกันหมด ลักษณะก็เหมือนกัน เป็นกายตรัสรู้ธรรม เป็นพระรัตนตรัยภายใน เป็นกายผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว เป็นที่พึ่งที่ระลึกของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ของมวลมนุษยชาติทั้งปวงพรรษานี้ทุกคนก็จะต้องตั้งใจปฏิบัติให้พบพระให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นคฤหัสถ์หรือบรรพชิต ถ้าหากว่ายังไม่ได้ถึงพระธรรมกาย อย่างน้อยก็ให้เห็นเป็นพระพุทธรูปก็ได้เมื่อใจยังหยุดได้ไม่สมบูรณ์ หรือหยุดในระดับอ่อน ๆ เราจะเห็นองค์พระหลากหลายทีเดียว บางคนเห็นองค์พระที่ทำด้วยวัสดุที่แตกต่างกัน เป็นโลหะก็มี อิฐ หิน ปูน ไม้ แก้ว รัตนชาติต่าง ๆ หลากหลาย ที่คุ้นเคยกับพระพุทธรูปชาติไหน ก็อาจจะเห็นเป็นองค์พระชาตินั้น ของจีนก็อาจจะเห็นพระพุทธรูปจีนของญี่ปุ่นก็อาจจะเห็นพระพุทธรูปของญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกงก็เหมือนกัน เราคุ้นเคยกับองค์ไหนอาจจะเห็นองค์นั้นไปก่อน อย่างนี้ก็ถือว่าใช้ได้ในระดับหนึ่ง
 
ในท้องมีพระ
การที่เห็นองค์พระได้แสดงว่าใจต้องหยุดในระดับหนึ่งแล้ว แม้จะยังไม่สมบูรณ์
แต่ว่า ณ จุดนั้น ถ้าทำความเพียรกันต่อไป ไม่ช้าก็จะเข้าถึงพระธรรมกายในตัวได้


     การที่เห็นองค์พระได้แสดงว่าใจต้องหยุดในระดับหนึ่งแล้ว แม้จะยังไม่สมบูรณ์ แต่ว่า ณ จุดนั้น ถ้าทำความเพียรกันต่อไป ไม่ช้าก็จะเข้าถึงพระธรรมกายในตัวได้ ดังนั้นถ้าเห็นในเบื้องต้นที่แตกต่างหลากหลายอย่างนี้ก็อย่าเพิ่งไปสงสัยว่า เอ๊ะ! ใช่หรือไม่ใช่ ครูไม่ใหญ่ขอยืนยันว่า ใช่จ้ะ ใช่องค์พระแต่ก็ยังไม่ใช่พระธรรมกายที่สมบูรณ์ ยังเป็นหุ่นโกลน ๆ ก่อนที่จะสมบูรณ์เวลาที่เขาปั้นองค์พระ ตอนแรกเขาก็จะทำเป็นโครงโกลน ๆ ขึ้นมาก่อน แล้วก็ค่อยมาเก็บรายละเอียดทีหลัง ในที่สุดก็เหมือนกันจนได้

     เพราะฉะนั้น เห็นองค์พระแล้วไม่ว่าแบบไหนก็อย่าทิ้ง พอเห็นว่า ไม่ใช่พระธรรมกาย อย่างนี้ไม่เอา เอาใหม่ ไม่ต้องนะ อย่าคิดอย่างนั้น เห็นพระได้นี่ก็บุญเหลือหลายแล้ว ขนาดยังไม่เข้าไปถึงพระธรรมกาย เห็นองค์พระอ้วน ๆก็ได้ ท้วม ๆ หรือหล่อ ๆ อย่างนี้นะ แค่นั้นก็ปิดประตูอบายแล้ว เพราะใจผ่องใส แสดงว่าจิตต้องเลื่อมใสในพระรัตนตรัยพอสมควร ภาพอย่างนี้จึงเกิดขึ้นได้การเห็นองค์พระในระดับนี้ก็ยังได้ชื่อว่า พระเห็นพระ เณรเห็นพระ โยมเห็นพระ แต่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องจำตรงนี้เอาไว้นะ เพราะฉะนั้นเลิกสงสัยกันได้แล้วมีพระพุทธรูปองค์หนึ่ง ครูไม่ใหญ่เห็นแล้วปลื้ม แต่คนจำนวนมากมองผ่านไปแล้วก็ไม่ได้คิดอะไร แค่คิดว่าเออแปลกดี มีอยู่วันหนึ่งเขาเอาพระพุทธปฏิมากรของจีนมาให้ครูไม่ใหญ่ดู บอกว่าอย่างนี้ในเมืองจีนมีเยอะแยะเลย เป็นองค์พระอ้วน ๆ เขาบอกว่าเป็นพระสังกัจจาย แล้วมือของท่านแหวกท้องเอาไว้ และในท้ององค์พระอ้วน ๆ ก็มีองค์พระพุทธรูปที่สวยงามอยู่นั่นแหละเป็นปริศนาธรรมที่สำคัญมาก คือในยุคที่พระพุทธศาสนากำลังเจริญรุ่งเรืองในเมืองจีน องค์พระนี้ได้ถูกประดิษฐานเอาไว้เป็นปริศนาธรรม คล้าย ๆจะบอกว่าในท้องของทุก ๆ คน มีพระอยู่ คือ พระธรรมกายภายในครูไม่ใหญ่เห็นแล้วปลื้มมากเลย ซาบซึ้งในภูมิปัญญาของบรรพบุรุษชาวพุทธจีนที่มีวิธีการสอนลูกหลานได้ดีมาก แต่เดี๋ยวนี้ลูกหลานพากันไปสนใจทีวีสนใจเรื่องต่าง ๆ ความสนุกสนานเพลิดเพลิน ไฮเทค เลยเดินผ่านไปผ่านมามองไม่เห็นว่าบรรพบุรุษกำลังจะบอกปริศนาธรรมที่สำคัญทิ้งไว้เป็นมรดกหลังจากที่ท่านละโลกไปแล้ว

     คำว่า “พระธรรมกาย” เคยเจริญรุ่งเรืองในเมืองจีนมาก่อนนะ ในยุคที่พระพุทธศาสนาเจริญถึงขีดสุด ก่อนที่จะถูกลบเลือนไป แล้วต่อมาเมื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองใหม่ สิ่งเหล่านี้ก็เลยไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร ซึ่งน่าเสียดาย ในยุคนี้น่าจะฟื้นฟูกันขึ้นมาใหม่ เราไม่ควรมองผ่านสิ่งที่บรรพบุรุษกำลังจะบอกว่า ในตัวมนุษย์มีพระธรรมกายในตัวกัน
 
ในท้องมีพระ
 ชาวบ้านแก่ง อุตรดิตถ์ แห่กราบไหว้ "พระประธาน" พบตรงกลางท้องมีองค์พระสร้างด้วยหินศิลาแลงปรากฏอยู่


     เพราะฉะนั้น พระเห็นพระ เณรเห็นพระ โยมเห็นพระ ในพรรษานี้จึงเป็นสิ่งที่ถูกต้องดีงาม เราต้องทำให้ได้ ถ้ายังไม่เห็นพระ ชีวิตยังไม่ปลอดภัยต้องให้เห็นพระให้ได้สมัยโบราณ เวลาใครเจ็บป่วยยังเตือนสติกัน ให้นึกถึงพระอรหังไว้คือ ให้นึกถึงพระอรหันต์นั่นเอง แต่เดี๋ยวนี้เวลาไปเยี่ยมไข้เขาไม่พูดอย่างนี้กันแล้ว

     มีอยู่รายหนึ่ง ท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่กำลังนอนป่วยอยู่ แล้วก็มีเพื่อนไปเยี่ยม “อ้าว! ท่าน อย่าทำเป็นสะเงาะสะแงะป่วยอยู่เลย ลุกขึ้นมา นี่เตรียมเอาไวน์มาให้ มาดื่มไวน์กันดีกว่า” นี่สมัยนี้เขาเยี่ยมผู้ป่วยกันแปลก ๆ เหมือนกับช่วยส่งไปอบายเลย แปลกดีเหมือนกันเราต้องทำให้เข้าถึงพระธรรมกายให้ได้ ถ้าไม่ถึงชีวิตยังไม่ปลอดภัยแม้นมีชีวิตอยู่ก็เหมือนตายแล้ว เพราะว่าไม่ได้พบสิ่งที่ประเสริฐสิ่งที่เลิศสำหรับการเกิดมาเป็นมนุษย์ในชาติหนึ่ง เสียไปชาติหนึ่งเลย เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งรีบตาย ถ้ายังไม่ได้เข้าถึงพระธรรมกาย

ไม่มีเวลา ไม่มีในโลก



     มักจะอ้างกันว่าไม่มีเวลา จริง ๆ แล้วไม่มีเวลาไม่มีในโลก ทุกคนมีเวลาเท่ากัน 24 ชั่วโมง แต่ใช้เวลาเพื่อให้เกิดกำไรชีวิตเป็นบุญกุศลไม่เท่ากัน และมักจะอ้างว่า ไม่ว่าง มีภารกิจโน่นนี่ทำมากมาย

     ครั้งหนึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงชี้ให้พระอานนท์ดูนักธุรกิจท่านหนึ่งแล้วตรัสว่า “อานนท์ เธอดูพ่อค้าคนนั้นสิ เขาเก่งในด้านธุรกิจ มีเกวียนบรรทุกสินค้าเป็นร้อย ๆ เล่ม เขามีความฉลาด แต่เขาไม่รู้เลยว่าอีก 7 วัน เขาจะต้องตาย เขาก็ยังมัวเพลินกับการแสวงหาทรัพย์ภายนอกอยู่เลย”พระอานนท์กราบทูลถามว่า “ข้าพระองค์จะไปบอกเขาได้ไหม” “ได้ อานนท์”พระอานนท์ก็เลยไปทำหน้าที่กัลยาณมิตร เล่าเรื่องราวให้พ่อค้าฟังและแนะนำให้พ่อค้าสั่งสมบุญกุศลตลอด 7 วันที่เหลือ โชคดีที่นักธุรกิจท่านนั้นยังมีบุญเก่าจึงเชื่อพระอานนท์ เชื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และได้นำทรัพย์ที่แสวงหามาได้มาสร้างบุญ สร้างทานกุศล พอครบ 7 วัน ก็ละโลกตายแล้วก็ไปดีด้วยบุญที่ทำตลอด 7 วันนั้นทีนี้สมมติว่า ถ้าไม่ได้พระอานนท์มาเป็นกัลยาณมิตร อะไรจะเกิดขึ้นกับนักธุรกิจท่านนั้น พอตายไปแล้วหมดสิทธิ์ใช้ทรัพย์ที่หามาได้ ถูกริบหมดเลย ทรัพย์นั้นก็ต้องตกเป็นของคนอื่น ไม่ได้เปลี่ยนโลกียทรัพย์เป็นอริยทรัพย์บุญก็ไม่เกิดขึ้นกับตัว ตายแล้วไปสู่ปรโลกจะต้องไปอยู่ในภูมิที่มีแต่ความทุกข์ทรมาน ชีวิตมันเป็นอย่างนี้แหละ

     เพราะฉะนั้น คำว่า ไม่ว่าง ไม่มีเวลา อย่าเอามาใช้สำหรับปิดโอกาสตัวเองในการแสวงหาความดี บุญกุศล หรือพระรัตนตรัยในตัว

1 กันยายน พ.ศ. 2546
จากหนังสือบางสิ่งที่แสวงหา
โดย พระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)

บางสิ่งที่แสวงหา

http://goo.gl/Z9UHJv


พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      เมื่อเข้าถึงจึงรู้สึกพอ (2)
      เมื่อเข้าถึงจึงรู้สึกพอ (1)
      มหาปวารณา
      หยุดเป็นตัวสำเร็จ
      ทำทุกอิริยาบถ
      พอดีเมื่อพึงพอใจ
      ง่ายกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
      บวชไปนิพพาน
      4 ส. ช่วยให้ง่าย
      ความเชื่อไว้บนหิ้ง ความจริงต้องพิสูจน์
      บวชแล้วได้อะไร
      ไม่ได้ตายเถอะ
      อิทธิบาท 4 ธรรมแห่งความสำเร็จ




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related