ยอดกุศลธรรม

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย รอยเท้าของสัตว์ทั้งหลายที่เที่ยวไปบนปแผ่นดินเหล่าใดเหล่าหนึ่งรอยเท้าเหล่านั้นทั้งหมด ย่อมถึงความรวมลงในรองเท้าเหล่านั้นทั้งหมด ย่อมถึงความรวมลงในรอยเท้าช้าง https://dmc.tv/a14530

บทความธรรมะ Dhamma Articles > แรงบันดาลใจจากพระไตรปิฎก
[ 27 ต.ค. 2555 ] - [ ผู้อ่าน : 18269 ]
แรงบันดาลใจจากพระไตรปิฎก
ณ ป่าประดู่ลาย

  
ยอดกุศลธรรม
 
 
 
      ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย รอยเท้าของสัตว์ทั้งหลายที่เที่ยวไปบนแผ่นดินเหล่าใดเหล่าหนึ่งรอยเท้าเหล่านั้นทั้งหมด ย่อมถึงความรวมลงในรองเท้าเหล่านั้นทั้งหมด ย่อมถึงความรวมลงในรอยเท้าช้าง รองเท้าช้าง โลกกล่าวว่า เป็นยอดของรองเท้าเหล่านั้นเพระาความเป็นของใหญ่ แม้ฉันใด
 
        ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กุศลธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ก็ฉันนั้นเหมือนกันแล กุศลธรรมเหล่านั้นทั้งหมด มีความไม่ประมาทเป็นมูลประชุมลงในความไม่ประมาท ความไม่ประมาท บัณฑิตกล่าวว่า เป็นยอดของกุศลธรรมเหล่านั้น
 
อัปปมาทสูตร เล่ม 38 หน้า 35

 
กุศลธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญ

      ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราไม่สรรเสริญแม้ซึ่งความตั้งอยู่ในกุศลธรรมทั้งหลาย ไฉนจะสรรเสริญความเสื่อมรอบในกุศลธรรมทั้งหลายเล่า
 
      ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย แต่เราสรรเสริญความเจริญในกุศลธรรมทั้งหลาย มิใช้ความตั้งอยู่ มิใช้ความเสื่อมในกุศลธรรม
 
ฐิติสูตร เล่ม 38 หน้า 173

 

 
อาหารของอวิชชา

        ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เงื่อนต้นแห่งอวิชชาย่อมไม่ปรากฎในกาลก่อน แต่นี้ อวิชชาไม่มี แต่ภายหลังจึงมี เพราะเหตุนั้น เราจึงกล่าวคำนี้อย่างนี้ว่า ก็เมื่อเป็นเช่นนั้น อวิชชามีข้อนี้เป็นปัจจัยจึงปรากฎ
 
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมกล่าวอวิชชาว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร
อะไรเป็นอาหารของอวิชชา ควรจะหล่าวว่า นิวรณ์ 5
อะไรเป็นอาหารของนิวรณ์ 5 ควรกล่าวว่า ทุจริต
อะไรเป็นอาหารของทุจริต 3 ควรกล่าวว่า การไม่สำรวมอินทรีย์
อะไรเป็นอาหารแห่งการไม่สำรวมอินทรีย์ ควรกล่าวว่า ความไม่มีสติสัมปชัญญะ
อะไรเป็นอาหารของความไม่มีสติสัมปชัญญะควรกล่าวว่า การกระทำไว้ในใจโดยไม่แยบคาบ
อะไรเป็นอาหารของการทำไว้ในใจโดยไม่แยบคาย ควรกล่าวว่า ความไม่มีศรัทธา
อะไรเป็นอาหารของความไม่มีศรัทธาควรกล่าวว่า การไม่ฟังสัทธรรม
อะไรเป็นอาหารของการไม่ฟังสัทธรรมควรกล่าวว่า การไม่คบสัปบุรุษ
 
อวิชชาสูตร เล่ม 38 หน้า 197


 
เทวทูต

      เหล่านายนิรยบาลจะจับสัตว์นั้นที่ส่วนต่างๆ ของแขนไปแสดงแก่พระยายมว่า ข้าแต่พระองค์ บุรุษนี้ไม่ปฏิบัติชอบในมารดา ไม่ปฏิบัติชอบในสมณะ ไม่ปฏิบัติชอบในพราหมณ์ ไม่อ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ในสกุลของพระองค์จงลงอาชญาแก่บุรุษนี้เถิด

      ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พระยายมจะปลอบโยน เอาอกเอาใจ ไต่ถามถึงเทวทูตที่ 1 กะสัตว์นั้นว่า ดูก่อนพ่อมหาจำเริญ ท่านไม่ได้เห็นเทวทูตที่ 1 ปรากฏในหมู่มนุษย์หรือ สัตว์นั้นทูลอย่างนี้ว่า ข้าพเจ้าไม่เห็นเลยเจ้าข้า

       พระยายมถามอย่างนี้ว่า ดูก่อนพ่อมหาจำเริญ ท่านไม่ได้เห็นเด็กแดงๆ ยังอ่อนนอนแปดเปื้อนมูตรคูถของตนอยู่ในหมู่มนุษย์หรือสัตว์นั้นทูลอย่างนี้ว่า เห็นเจ้าข้า

       พระยายมถามอย่างนี้ว่า ดูก่อนพ่อมหาจำเริญท่านนั้นรู้ความ มีสติ เป็นผู้ใหญ่แล้ว ได้มีความดำริดังนี้บ้างไหมว่าแม้ตัวเราแล ก็มีความเกิดเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเกิดไปได้ ควรที่เราจะทำความดีทางกาย ทางวาจา และทางใจ สัตว์นั้นทูลอย่างนี้ว่า ข้าพเจ้าไม่อาจ เจ้าข้า มัวประมาทเสียเจ้าข้า พระยายมกล่าวอย่างนี้ว่า ดูก่อนพ่อมหาจำเริญ ท่านไม่ได้ทำความดีทางกาย ทางวาจา และทาางใจไว้เพราะมัวประมาทเสีย ดังนั้น

       เหล่านายนิรยบาลจักลงทษโดยอาการที่ท่านประมาทแล้วก็บาปกรรมนั้นแล ไม่ใช้มารดาทำให้ท่าน ไม่ใช้บิดาทำให้ท่าน ไม่ใช้พี่น้องชายทำให้ท่าน ไม่ใช้พี่น้องหญิงทำให้ท่านไม่ใช้มิตรอำมาตย์ทำให้ท่าน ไม่ใช้ญาติสาโลหิตทำให้ท่าน ไม่ใช้สมาณะและพราหมณ์ทำให้ท่าน ไม่ใช้เทวดาทำให้ท่าน ตัวท่านเองทำเข้าไว้ ท่านเท่านั้นจักเสวยวิบากของบาปกรรมนี้

       ...ดูก่อนพ่อมหาจำเริญ ท่านไม่ได้เห็นเทวทูตที่ 2 ปรากฏในหมู่มนุษย์หรือ (เห็นหญิงหรือชายมีอายุ 80 ปี 90 ปี 100 ปี นับแต่เกิดมาผู้แก่ ซี่ดครงคด หลังงอ ถึงไม้เท้า งกเงิ่น เดินไป กระสับ กระส่าย ล่วงวัยหนุ่มสาว ฟันหัก ผมหงอก หนังย่น ศีรษะล้าน เหี่ยว ตัวตกกระ ในหมู่มนุษย์)...ฯลฯ

       ...ดูก่อนพ่อมหาจำเริญ ท่านไม่ได้เห็นเทวทูตที่ 3 ปรากฏในหมู่มนุษย์หรือ (หญิงหรือชาย ผู้ป่วย ทนทุกข์เป็นไข้หนัก นอนเปื้อนมูตรคูถของตนมีคนอื่นคอยพยุงเดิน ในหมู่มนุษย์) ... ฯลฯ

       ...ดูก่อนพ่อมหาจำเริญ ท่านไม่ได้เห็นเทวทูตที่ 4 ปรากฏในหมู่มนุษย์หรือ (เห็นพระราชาทั้งหลาย ในหมู่มนุษย์จับโจรผู้ประพฤติผิดมาแล้วสั่งลงกรรมกรณ์ต่างชนิด)...ฯลฯ

        ...ดูก่อนพ่อมหาจำเริญ ท่านไม่ได้เห็นเทวทูตที่ 5 ปรากฏในหมู่มนุษย์หรือ (หญิงหรือชายที่ตายแล้ววันหนึ่ง หรือสองวัน หรือสามวันขึ้นพอง เขียวช้ำ มีน้ำเหลืองเยิ้มในหมู่มนุษย์)...
 
เทวทูตสูตร เล่ม 23 หน้า 190

 

http://goo.gl/3NuJx


พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      อานิสงส์การจุดประทีปเป็นพุทธบูชา : ตอน พระอนุรุทธเถระผู้มีจักษุทิพย์
      เพราะบูชาพระเจดีย์จึงมีรัศมีสว่างไสว บูชาด้วยดอกไม้แปดดอก
      พระปัญจทีปทายิกาเถรี กับอานิสงส์บูชาพระเจดีย์จึงมีทิพยจักษุ
      พระอุปวาณเถระ กับอานิสงส์การบูชาพระเจดีย์
      พระมหากัสสปะเถระ กับอานิสงส์สร้างพระสถูปเจดีย์
      บุญ คือ อะไร ?
      ศีลดี คือ อะไร ?
      เมื่อสวรรค์มีจริง ทำอย่างไรจึงจะได้ไปสวรรค์ ?
      ถ้าจิตขุ่นมัวในขณะนั้น ตายแล้วไปไหน ?
      นรก-สวรรค์
      อานิสงส์ของการฟังธรรม
      ทำทานอย่างไร จึงจะได้ บุญมาก ?
      ทำไมคนจึงต่างกัน ?




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related