ยอดผู้นำบุญพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกหมู่ชนล้วนมีผู้นำ แต่ในบรรดาผู้นำทั้งหลาย พระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ สุดยอดของผู้นำ เพราะนำในสิ่งที่ทำได้ยากที่สุด คือ นำพาสรรพสัตว์ทั้งหลายให้หลุดพ้นบ่วงแห่งภพและการเวียนว่ายตายเกิด และทรงเป็นผู้นำในการสร้างความดีของสรรพสัตว์ ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ยังเป็นปุถุชนเป็นพระโพธิสัตว์สร้างบารมีอยู่ในขณะที่ชาวโลกไหลไปตามกระแสกิเลส แต่พระโพธิสัตว์ทั้งหลายทวนกระแสกิเลสเป็นตัวอย่าง เป็นผู้นำในการสร้างความดี สร้างความอัศจรรย์ใจต่อผู้อยู่รอบข้าง และก่อเกิดแรงบันดาลใจ ให้อยากทำความดีให้ได้เช่นนั้นบ้างดังนั้น ตำแหน่ง “ผู้นำบุญ” จึงเป็นตำแหน่งอันทรงเกียรติของโลกและจักรวาล เพราะเป็นผู้นำแห่งความดี ดังเช่นพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย เป็นผู้ที่จะเป็นหลัก เป็นกำลังใจ และฉุดให้ชาวโลก พ้นจากภัยของกระแสกิเลสอันเชี่ยวกรากแต่ การเป็นผู้นำบุญ มิได้เป็นด้วยชื่อ หากแต่เป็นด้วยการกระทำ กระทำสิ่งที่ดีกว่า กระทำสิ่งที่เป็นแบบอย่าง กระทำสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจ ให้คนรอบตัวเกิดกำลังใจในการสร้างความดียิ่งขึ้นไป ดังเช่น เรื่องราวของ ภเวสีอุบาสก ยอดผู้นำบุญในสมัยพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้าดังนี้ยอดผู้นำบุญเขตประตูน้ำสมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จจาริกไปในโกศลชนบท พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ ขณะที่เสด็จดำเนินไปตามหนทาง ได้ทอดพระเนตรเห็นป่าสาละแห่งหนึ่ง จึงทรงแวะเสด็จเข้าไปสู่ป่าสาละนั้น ครั้นเสด็จถึงแล้ว ทรงทำการแย้มพระโอษฐ์ให้ปรากฏครั้งนั้น ท่านพระอานนท์จึงได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้พระผู้มีพระภาคทรงแสดงอาการแย้ม พระตถาคตย่อมไม่ทรงแสดงอาการแย้มโดยไม่มีเหตุ”พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสเล่าว่า “ดูก่อนอานนท์ ในอดีตสมัยของพระกัสสปอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ ประเทศนี้เป็นเมืองมั่งคั่ง กว้างขวาง มีชนมาก มีมนุษย์หนาแน่นในพระนครนั้น มีอุบาสกนามว่า ภเวสี เป็นผู้ยังไม่บริบรูณ์ในศีล ๕ แม้อุบาสกประมาณ ๕๐๐ คนในกลุ่มที่ ภเวสีอุบาสกชวนเข้าวัด ก็เป็นผู้ยังไม่บริบรูณ์ในศีลวันหนึ่ง ภเวสีอุบาสกได้คิดว่า “ก็เราเป็นผู้มีอุปการะมากเป็นหัวหน้าชักชวนอุบาสกประมาณ ๕๐๐ คนเหล่านี้ และเราก็เป็นผู้ยังไม่บริบรูณ์ในศีล แม้อุบาสกประมาณ ๕๐๐ เหล่านี้ก็เป็นผู้ยังไม่บริบรูณ์ในศีล ต่างคนต่างก็เท่าๆ กัน ไม่ยอ่งไปกว่ากันเอาเถอะ เราควรปฏิบัติให้ยิ่งกว่า”ดังนั้น ภเวสีอุบาสกได้เข้าไปหาอุบาสกประมาณ ๕๐๐ เหล่านั้นแล้วได้กล่าวว่า “ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ตั้งแต่วันนี้ไป ขอท่านทั้งหลาย จงจำเราไว้ว่า เป็นผู้กระทำให้บริบรูณ์ในศีล”ฝ่ายอุบาสกประมาณ ๕๐๐ เหล่านั้น ได้คิดว่า “ภเวสี อุบาสกผู้เป็นเจ้า เป็นผู้มีอุปการะมาก เป็นหัวหน้า ชักชวนเราทั้งหลาย หากภเวสีอุบาสก จักเป็นผู้กระทำให้บริบรูณ์ในศีลไม่ได้เล่า”ดังนั้นอุบาสก ๕๐๐ เหล่านั้น ได้เข้าไปหาภเวสีอุบาสกแล้วกล่าวว่า “ตั้งแต่วันนี้ไป ขอภเวสีอุบาสก จงจำอุบาสก ๕๐๐ แม้เหล่านี้ว่า เป็นผู้กระทำให้บริบรูณ์ในศีล”ต่อมา ภเวสีอุบาสกได้คิดว่า “ก็เราแลเป็นผู้มีอุปการะมาก เป็นหัวหน้าชักชวนอุบาสประมาณ ๕๐๐ เหล่านี้และเราก็เป็นผู้กระทำให้บริบรูณ์ในศีล แม้อุบาสกประมาณ๕๐๐ เหล่านี้ ก็เป็นผู้กระทำให้บริบรูณ์ในศีล ต่างคนต่างก็เท่าๆ กัน ไม่ยิ่งไปกว่ากัน เอาเถอะ เราควรปฏิบัติให้ยิ่งกว่า”ดังนั้น ภเวสีอุบาสกได้เข้าไปหาอุบาสกประมาณ ๕๐๐ เหล่านั้น แล้วกล่าวว่า “ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ตั้งแต่วันนี้ไป ขอท่านทั้งหลาย จงจำเราไว้ว่า เป็นผู้ประพฤติพรหมจรรย์ ประพฤติเว้นไกลจากเมถุน อันเป็นธรรมของชาวบ้านครั้งนั้น อุบาสกประมาณ ๕๐๐ เหล่านั้นได้คิดว่า “ภเวสีอุบาสก เป็นผู้มีอุปการะมาก เป็นหัวหน้า ชักชวนเราทั้งหลาย หากภเวสีอุบาสก จักประพฤติพรหมจรรย์ ประพฤติเว้นไกลจากเมถุน อันเป็นธรรมของชาวบ้าน ก็ไฉนเราทั้งหลายจัก เป็นผู้ประพฤติพรหมจรรย์ ประพฤติเว้นไกลจากเมถุน อันเป็นธรรมของชาวบ้านไม่ได้เล่า”ด้วยอาการเช่นนี้ ภเวสีอุบาสก และอุบาสกประมาณ ๕๐๐ ได้เพิ่มวัตรปฎิบัติในการฝึกฝนความดีของตนๆ ดังนี้ คือ เป็นผู้บริโภคอาหารมื้อเดียว เว้นจากการบริโภคในราตรี งดเว้นการบริโภคอาหารในเวลาวิกาลบรรพชาอุปสมบทและต่อมา ได้บรรพชาอุปสมบทในสำนักของพระกัสสปอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วได้หลีกออกจากหมู่อยู่ผู้เดียวไม่ประมาท มีความเพียร มีใจเด็ดเดี่ยว ไม่นานนัก ก็ทำให้แจ้ง ซึ่งที่สุดแห่งพรหมจรรย์อันยอดเยี่ยม ภเวสีภิกษุ และภิกษุประมาณ ๕๐๐ เหล่านั้น ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ทั้งหมดภิกษุประมาณ ๕๐๐ เหล่านั้น มีภเวสีภิกษุเป็นประมุขพยายามบำเพ็ญธรรมที่สูงๆ ขึ้นไป ประณีตขึ้นไป ได้ทำให้แจ้ง ซึ่งวิมุตติอันเป็นธรรมชั้นเยี่ยม ด้วยประการฉะนี้ดูก่อนอานนท์ เพราะฉะนั้น เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า เราทั้งหลายจักพยายามบำเพ็ญธรรมที่สูงๆ ขึ้นไปประณีตขึ้นไป จักทำให้แจ้งซึ่งวิมุตติอันเป็นธรรมชั้นเยี่ยมดังนี้แล”ภเวสีอุบาสก เป็นตัวอย่างที่ดีเยี่ยมของผู้นำบุญในฐานะแห่งความเป็นผู้นำ หมายถึงต้องเป็นเลิศกว่าในทางคุณความดี พยายามพัฒนาความดีของตนเป็นแบบอย่างแก่ผู้อื่นในหมู่ และอุบาสกประมาณ ๕๐๐ ก็เป็นตัวอย่างอันเยี่ยมของผู้ตามที่ทำความดีตามอย่างไม่ลดละ ตามติด ติดตามไปตลอดเส้นทางแห่งความดี และนี่คือ แบบอย่างอันยอดเยี่ยมของหมู่คณะนักสร้างบารมี ที่เท่าเทียมกันทั้งทีมแรงบันดาลใจจากพระไตรปิฎก
โดยพระมหาเถระ รุ่นปี พ.ศ. 2534 หน้า 143 - 147
http://goo.gl/oHdgd