พุทธสุภาษิตสะกิดใจ "คนชั่วช้า ไม่พ้นตาสังคม"โดย พระเทพรัตนกวี (สุรินทร์ ชุตินฺธโร ป.ธ.๗)
สพฺพญฺเจ ปฐวี ทชชา, นากตญฺญุมภิราธเย
ถึงจะให้แผ่นดินทั้งหมด ก็ยังคนอกตัญญูให้ยินดีไม่ได้
คนอกตัญญู หมายถึง คนที่ไม่มีความสำนึกรู้ถึงอุปการคุณที่คนอื่นเขากระทำต่อคน และไม่คิดที่จะทำการตอบแทน ที่เรียกว่า คนอกตัญญู บุคคลประเภทนี้ จะเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวอย่างเดียว หมายถึง คิดแต่จะเอาอย่างเดียว ในใจมีแต่เล่ห์เหลี่ยมในเชิงเอาเปรียบ ในแง่ทุจริตคดโกง ด้วยปัญญาทราม จะไม่ยกเว้นแม้แต่บิดามารดา คนที่มีนิสัยเนรคุณ ย่อมจะไม่เป็นที่ต้องการของคนอื่น เพราะเขารู้ว่า คนอย่างนี้แม้จะยกแผ่นดินทั้งโลกให้แก่เขา ก็จะนึกถึงคุณไม่ได้ ในใจเขากลับจะคิดว่าเขาเป็นคนฉลาดมากมนุษย์เราเมื่อรวมอยู่เป็นหมู่คณะ ย่อมจะมองเห็นพฤติกรรมของกันและกันได้ดี สามารถจะแยกแยะออกให้รู้ว่า คนไหนมีนิสัยเป็นอย่างไร ดีหรือไม่อย่างไร สามารถจะวิจารณ์วิจัยได้อย่างใกล้เคียง เรียกตรงนี้ ตาสังคม
เป็นที่ทราบกันแล้วว่า คนเราทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้ จะอยู่เพียงคนเดียวไม่ได้ จำเป็นจะต้องมีการอยู่กันกับสังคม การอยู่ในสังคม ตาสังคมมองเห็นว่า คนไหนเป็นคนดี มีความกตัญญูกตเวที ไม่เป็นคนเนรคุณ ไม่เอาเปรียบสังคม
การทำตนเอาเปรียบต่อสังคมก็ดี การทำตนเพื่อเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวก็ดี หรือการแย่งชิงอำนาจวาสนา ชื่อเสียงคุณความดีก็ดี ตาสังคมจะมองเห็นได้หมด และเมื่อบุคคลมาประพฤติอย่างนี้ เขาย่อมจะไม่เห็นคุณความดีที่คนอื่นหยิบยื่นให้ตรงกับที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า คนอกตัญญู ต่อให้เอาแผ่นดินทั้งโลกไปมอบให้ เขาก็ยังไม่รู้คุณ เพราะเขาตกอยู่ในลักษณะของ คนเนรคุณ
เพราะฉะนั้น ขอทำความเข้าใจว่า เกิดมาเป็นคนมีการอยู่ร่วมในสังคม ควรจะมีอัธยาศัยไมตรี ต่อบุคคลโดยทั่วไป และมองเห็นคุณความดีที่เขาทำให้กับเรา ก็จะต้องตอบแทนเขาให้ปรากฏ ให้ตาสังคมมองเห็นว่า เป็นคนดี ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เอาเปรียบสังคม มีแต่ความดีต่อกัน ขอให้คิดว่า
1. จะให้แผ่นดินทั้งหมด แก่คนคดทางใจ ทรัพย์จะสูญบุญคุณก็ไม่ได้
2. ทำชั่วปกปิด คิดว่าคนนิยม แต่คนชั่วช้า ไม่พ้นตาสังคม
http://goo.gl/W82WXj