รศ.ดร.วิสิฐ
จะวะสิต รองผอ.สถาบันวิจัยโภชนาการ ม.มหิดล กล่าวว่า นักโภชนาการกรมอนามัย
ได้ทำการสำรวจและพบว่า คนไทยส่วนใหญ่ขาดสารอาหารประเภทจุลโภชนาการ
คือสารอาหารชนิดที่ร่างการต้องการเพียงเล็กน้อย
เมื่อมีการขาดสารอาหารชนิดดังกล่าวแล้วส่วนมากจะมองไม่ออก ว่าขาดสารอาหาร
แต่การขาดสารอาหารแบบนี้ จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายเปลี่ยนแปลง
คือจะทำให้ป่วยง่าย เฉื่อยชา สมองในส่วนการคำนวณช้า
ซึ่งมองภายนอกจะไม่สามารถทราบได้ว่าร่างกายขาดสารอาหารประเภทจุลโภชนาการ
ถือเป็นความผิดปกติประเภทที่ซ่อนเร้น รศ.ดร.วิสิฐ กล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาการขาดสารอาหารประเภทจุลโภชนาการ สามารถแก้ไขได้โดยการเติมสารอาหารที่มักจะขาด คือ เหล็ก ไอโอดีน วิตามินเอ ลงไปในอาหาร ที่เคยทำมาแล้ว เช่น เกลือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซึ่งการเติมสารอาหารจะไม่ทำให้รสชาติของอาหารเปลี่ยนแปลงไปมากนัก ซึ่งการเลือกชนิดอาหารที่จะเติมสารอาหารเพิ่มเติมลงไป จะเลือกเติมในอาหารประเภทที่มีการบริโภคในวงกว้าง อย่างแพร่หลาย เพื่อทำให้คนไทยได้รับสารอาหารที่เติมอย่างได้ประโยชน์ที่สุด
"สถาบันวิจัยโภชนาการฯ มีโครงการที่จะทำการเติมสารอาหารให้กับผู้ผลิตอาหารประเภทต่างๆ โดยรับสมัครเข้าโครงการและจะมีนักวิชาการถ่ายทอดความรู้และติดตามประเมินผลให้ โดยจะมีการติดสัญลักษณ์ให้กับสินค้า ว่าเป็นสินค้าที่เติมสารอาหาร" รศ.ดร.วิสิฐ กล่าว
รศ.ดร.วิสิฐ กล่าวต่อไปว่า ปัญหาของประเทศไทย คือประชากรไม่อ่านฉลากสินค้า ทำให้การกระจายของสินค้าที่เติมสารอาหารเพื่อทดแทนเหล่านี้ ยังไม่เป็นที่นิยม และไม่สามารถกระจายตลาดได้มากนัก จึงจำเป็นต้องเลือกสินค้าที่มีการขายในปริมาณมาก เพื่อให้ถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีการขาดสารอาหารอย่างได้ประสิทธิภาพที่สุด
ที่มา-






