
ศ.ดร.วันเพ็ญกล่าวว่า ผู้ป่วยภูมิแพ้ส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่ามีอาการแพ้แมลงสาบ เนื่องจากเชื่อว่าบ้านสะอาด ทีมวิจัยได้สำรวจที่อยู่อาศัยของผู้ป่วยภูมิแพ้ที่มารักษาในโรงพยาบาลศิริราชจำนวน 80 ครัวเรือน โดยใช้เครื่องดูดฝุ่นสำหรับเก็บสารก่อภูมิแพ้ นำมาวิเคราะห์ผ่านน้ำยาพิเศษที่พัฒนาขึ้นครั้งแรกของประเทศไทย และได้จดสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว พบว่า ฝุ่นละอองของทุกครัวเรือนล้วนมีส่วนประกอบของสารก่อภูมิแพ้ในแมลงสาบทั้งสิ้น โดยสารดังกล่าวมีโมเลกุล 2 ชนิดที่เป็นตัวกระตุ้นอาการแพ้คือ โมเลกุล Per A1 และ Per A 9 ซึ่งพบในกล้ามเนื้อและน้ำย่อยของแมลงสาบ ศ.ดร.วันเพ็ญกล่าวว่า สำหรับการรักษาจะใช้ยาที่นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งมีราคาสูง ส่วนการป้องกันมีวัคซีนที่พัฒนาจากต่างประเทศเช่นกัน แต่สายพันธุ์ที่นำมาพัฒนาวัคซีนไม่ตรงกับสายพันธุ์ไทย ส่งผลให้ประสิทธิภาพไม่ดีเท่าที่ควร ล่าสุดทีมวิจัยอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อร่วมมือกับนักวิจัยของศูนย์การแพทย์เมโยคลินิก สหรัฐอเมริกา เพื่อพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคภูมิแพ้จากแมลงสาบสายพันธุ์อเมริกันโดยเฉพาะ โดยประเทศไทยมีองค์ความรู้ในการสกัดหาสารก่อภูมิแพ้ในแมลงสาบ แต่ยังไม่มีองค์ความรู้ว่าส่วนไหนของโมเลกุลเป็นตัวกระตุ้นการเกิดภูมิแพ้ ขณะที่นักวิจัยสหรัฐมีองค์ความรู้ด้านนี้
คาดว่าใน 2
ปีจะสามารถพัฒนาวัคซีนต้นแบบได้สำเร็จ แมลงสาบต้องกำจัดให้สิ้นซาก
โดยการทำความสะอาดบ้านอย่าให้มีเศษอาหารตกค้าง เห็นแมลงสาบเพียง 1 ตัว
แสดงว่ามีการขยายพันธุ์แล้วกว่า 800 ตัว ห้องที่พบแมลงสาบมากที่สุดคือ
ห้องครัว รองลงมาคือห้องนั่งเล่น และห้องนอนในบ้าน คอนโดมิเนียม
อพาร์ตเมนต์ ฯลฯ
ที่มา-
