
ทีมจุฬาฯ แก้ปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง ทำเขื่อนกั้นลดแรงคลื่นปะทะพร้อมกับดักตะกอนไม่ให้ไหลลงทะเล ประเดิมใช้งานหมู่บ้านในสมุทรปราการ เพียง 2 เดือน โกยตะกอนกลับมาใช้เป็นหน้าดินได้หนาหนึ่งฟุต เผยเป็นแห่งแรกของโลกที่แก้ปัญหาการกัดเซาะพื้นที่ชายฝั่งสำเร็จ
รศ.ดร.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล หน่วยศึกษาภัยพิบัติและข้อสนเทศเชิงพื้นที่ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ทีมงานร่วมกันได้ดำเนินโครงการที่ชื่อว่า แบบจำลองเขื่อนสลายคลื่น "ขุนสมุทรจีน 49 เอ 2" เพื่อแก้ปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง พร้อมทั้งนำร่องใช้งานที่หมู่บ้านขุนสมุทรจีน ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ
แบบจำลองดังกล่าวประกอบด้วยโครงสร้างหลัก 2 ส่วน คือ ส่วนที่ช่วยลดแรงคลื่นปะทะชายฝั่ง และส่วนดักตะกอนไม่ให้ไหลลงทะเล เมื่อตะกอนที่ดักไว้สะสมตัวมากขึ้น เจ้าหน้าที่จะตัดเอามาทำหน้าดินปลูกต้นโกงกางเพื่อให้รากช่วยยึดดินตะกอนไว้ และในอนาคตก็จะกลายเป็นแผ่นดิน
ปัจจุบันทีมวิจัยได้ติดตั้งเขื่อนไปเป็นระยะทาง 250 ม. ด้วยงบ 5 ล้านบาท บริเวณชายฝั่งติดกับวัดขุนสมุทรจีน ซึ่งถือเป็น 50% ของโครงการทั้งหมด พบว่า 2 เดือนที่ผ่านมา ความแรงคลื่นปะทะหลังเขื่อนเบาลง ขณะที่ตะกอนสะสมตัวเพิ่มขึ้น 30 ซม. ทั้งยังมีพืชและสัตว์น้ำในบริเวณดังกล่าวเพิ่มขึ้นด้วย
ส่วนการดำเนินโครงการระยะ 2 ต้องรอดูข้อมูลปริมาณการตกตะกอน ความเร็วและแรงของกระแสน้ำ ทิศทางและความเร็วลม โดยทีมวิจัยกำลังจะสร้างสถานีตรวจวัด เพื่อประเมินการทำงานบริเวณหน้าและหลังเขื่อนสลายคลื่น ทั้งยังต้องรอดูงบประมาณสนับสนุน คาดว่าระยะ 2 จะใช้งบ 10 ล้านบาท
ทั้งนี้ คาดว่าอีก 6 เดือนจึงจะเก็บและสรุปข้อมูลโครงการระยะแรกได้สมบูรณ์ สำหรับนำไปสู่นโยบายการแก้ปัญหาระดับประเทศต่อไป ส่วนแบบจำลองเขื่อนสลายคลื่นนี้ ปลูกโกงกางยึดหน้าดิน เผยเป็นแห่งแรกของโลกที่สามารถลดการกัดเซาะพื้นที่ชายฝั่ง และได้รับความสนใจจากนานาประเทศ
