นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร กงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน
กล่าวถึงโครงการนำคณะนาฏศิลป์พื้นบ้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือจาก
ม.ราชภัฏอุบลราชธานีมาจัดแสดงที่จีนว่า
ปัจจุบันรูปแบบการทูตมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก
โดยเฉพาะการนำวัฒนธรรมมาเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ซึ่งตนเห็นว่าศิลปวัฒนธรรมไทยเป็นสิ่งที่สวยงามและมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง
จึงน่าจะนำมาจัดแสดงเพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
ซึ่งการแสดงทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยเป็นการแสดงที่สนุกสนานไม่น่าเบื่อ
ซึ่งจะทำให้ชาวจีนที่รับชมเกิด ความประทับใจ
ส่งผลให้อยากที่จะไปสัมผัสบรรยากาศของประเทศไทยจริง ๆ
ซึ่งการสร้างสัมพันธ์ทางการทูตเชิงวัฒนธรรมนั้น
จะช่วยในเรื่องของการท่องเที่ยวไปในตัวอีกด้วย นายณัฏฐวุฒิ กล่าวต่อไปว่า การนำวัฒนธรรมไทยมาจัดแสดงนั้น ตนคิดว่าจะต้องจัดอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยจะให้คณะการแสดงของมหาวิทยาลัยจากภูมิภาคต่าง ๆ ของไทยได้มีโอกาสมาแสดงความสามารถ ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้เยาวชนไทยได้มาเรียนรู้ประสบการณ์การใช้ชีวิตในต่างแดน รวมทั้งได้เรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมของประเทศเพื่อนบ้าน ตลอดจนได้เป็นทูตทางวัฒนธรรมอีกด้วย ซึ่งจะเป็นการปลูกฝังให้เด็กเกิดความรู้สึกรักวัฒนธรรมและอยากที่จะรักษาเอกลักษณ์ความเป็นไทยมากขึ้น
“คนจีนชอบวัฒนธรรมไทยมาก เมื่อไปเที่ยวเมืองไทยก็จะกลับมาเล่าความประทับใจในศิลปะการแสดงพื้นบ้านของไทยว่ามีความสนุกสนาน ผมจึงคิดว่าถ้านำการแสดงจากไทยมาแสดงให้คนจีนได้ดูก็จะเป็นการกระตุ้น
ให้คนจีนอยากไปเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น
ทั้งนี้ในปัจจุบันหลายประเทศได้หันมาใช้การทูตเชิงวัฒนธรรมมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศส หรือเกาหลี
ดังนั้นผมในฐานะที่เป็นนักการทูตจึงได้เริ่มนำการทูตเชิงวัฒนธรรมมาใช้
เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นการรุกของวัฒนธรรมไทยเข้าสู่โลกสากล” กงสุลใหญ่ กล่าว.
ที่มา-




