มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เผยผลวิจัยพบสูบบุหรี่ขณะตั้งครรภ์ ส่งผลเสี่ยงรกลอกก่อนกำหนดคลอด ทำให้ตกเลือดรุนแรง และทารกในครรภ์อาจเสียชีวิตได้

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยว่า รายงานของวารสารระบาดวิทยาของอเมริกัน ตีพิมพ์วันที่ 1 ส.ค. 2550 ระบุว่า การสูบบุหรี่ขณะตั้งครรภ์มีความเกี่ยวโยงสัมพันธ์กับความเสี่ยงต่อการเกิดรกลอกตัวจากมดลูกก่อนกำหนด หรือก่อนที่ทารกจะคลอด ทำให้เกิดการตกเลือดรุนแรง หากรกลอกตัวมากถึงร้อยละ 40 จะทำให้ทารกในครรภ์เสียชีวิต

รายงานดังกล่าวเป็นผลงานวิจัยของ ดร.กานดี อนันธ์ จากมหาวิทยาลัยแพทย์โรเบิร์ต วูด จอห์นสัน นิวบรันสวิค รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งได้ศึกษาเพื่อพิสูจน์ว่า การสูบบุหรี่ระหว่างตั้งครรภ์เป็นสาเหตุของรกลอกตัวก่อนกำหนดเพียงครรภ์เดียว หรือส่งผลต่อการตั้งครรภ์ครั้งต่อไป

ผลวิจัยพบว่า มารดาที่ไม่สูบบุหรี่ขณะตั้งครรภ์ ความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนดในครรภ์ต่อมาคือ 5.3 เท่าของมารดาที่ไม่เคยมีประวัติรกลอกตัวมาก่อน ส่วนมารดาที่สูบบุหรี่ขณะตั้งครรภ์ ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นเป็น 10.9 เท่า

ทั้งนี้ มารดาที่ไม่สูบบุหรี่ที่เกิดภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด มักจะมีโอกาสเป็นอีกในครรภ์ต่อไป โดย ศ.นพ.ประกิต กล่าวว่า หญิงตั้งครรภ์ทุกคนจึงไม่ควรสูบบุหรี่ขณะตั้งครรภ์ แต่ตามสถิติ หญิงตั้งครรภ์ส่วนใหญ่ไม่สามารถเลิกบุหรี่ได้

ดังนั้น ทางออกที่ดีที่สุดคือ วัยรุ่นหญิงไม่ควรริเริ่มสูบบุหรี่ และผู้ที่สูบบุหรี่อยู่แล้วควรเลิกสูบก่อนตั้งครรภ์

 
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

บทความที่เกี่ยวข้อง