จากตอนที่แล้ว พระเจ้าวิเทหราช ครั้นได้สดับคำรายงานเรื่องที่ท้าวสักกเทวราชเสด็จมาทดลองปัญญามโหสถโดยผ่านทูตคนสนิท ก็ทรงอัศจรรย์พระทัยปรารถนาจะสดับเรื่องนั้นจากมหาอำมาตย์ผู้เห็นเหตุการณ์โดยตรง จึงมีรับสั่งให้เรียกตัวอำมาตย์กลับคืนสู่พระนคร

พระเจ้าวิเทหราชทรงพอพระหฤทัยในคำกราบทูลของมหาอำมาตย์ยิ่งนัก แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่อาจจะตัดสินพระทัยด้วยพระองค์เองได้ในทันที จึงผินพระพักตร์มาหาอาจารย์เสนกะ แล้วจึงตรัสหารือว่า ท่านอาจารย์เห็นสมควรที่เราจะเรียกตัวมโหสถมาเข้าเฝ้าได้หรือยังล่ะ
ฝ่ายอาจารย์เสนกะ เมื่อได้ยินว่าท้าวสักกเทวราชได้เสด็จมาเพื่อประกาศปัญญานุภาพของ มโหสถก็ยิ่งขุ่นเคืองใจ ครุ่นคิดแต่เพียงว่า ทำอย่างไรจึงจะสามารถยับยั้งพระองค์ไว้ได้
เมื่อได้ช่องกราบทูล จึงรีบทูลคัดค้านและชี้แจงเหตุผลในทันทีว่า การที่มโหสถเป็นผู้มีปัญญามากนั้นก็เป็นที่ประจักษ์แล้ว แต่ในยามนี้บ้านเมืองก็เป็นปกติสุขดี จึงไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนอันใด ที่จะต้องรีบนำตัวมโหสถมาสู่ราชสำนัก ดังนั้น ขอจงทรงรอดูอีกสักพักเถิด

ท่านอาจารย์เสนกะฟังพระดำรัสของเจ้าเหนือหัวแล้ว คิดว่า การจะกราบทูลทัดทานลอยๆ เกินไป อาจจะทำให้ทรงขุ่นเคืองพระทัยได้ จึงคิดไตร่ตรองหาช่องทางที่มีเหตุมีผลแยบคายกว่าเดิม เพื่อประวิงเวลาไว้ให้นานที่สุด
“ขอเดชะ พระบารมีไม่พ้นเกล้าฯ ตามที่พระองค์ทรงกังวลพระทัยว่าจะเนิ่นนานเกินไปนั้น ข้าพระบาทขอกราบทูลว่า มิได้เป็นเช่นนั้นอย่างแน่นอน พระเจ้าข้า” ท่านเสนกะยืนยัน
ท้าวเธอจึงทรงรับสั่งถามว่า “อย่างไรกัน ท่านอาจารย์ เราไม่เข้าใจ ไหนท่านลองแถลงมาให้กระจ่างซิ”

ท้าวเธอยังไม่ทรงพอพระทัย ตรัสถามด้วยพระสุรเสียงดังกึกก้องไปทั่วท้องพระโรงว่า “ท่านอาจารย์ท่านหมายความว่า จะให้เรารอไปเรื่อยๆ น่ะหรือ”

ท่านเสนกะทราบพระราชอัธยาศัยดีว่า หากพระองค์ไม่ทรงพอพระทัย หรือไม่เข้าพระทัยสิ่งใด ก็จักทรงทักท้วงขึ้นทันที ฉะนั้นท่านเสนกะจึงไม่รอ

แม้มโหสถก็เช่นกัน หากเป็นผู้รอบรู้ หลักแหลม และคมคายเช่นนั้นจริง สมกับที่เป็นบัณฑิตแล้วไซร้ ก็จักสามารถผ่านการทดสอบได้อย่างดี ดั่งทองชมพูนุทที่แม้จะผ่านการทดสอบด้วยวิธีใดๆ ก็ยังคงเป็นธาตุบริสุทธิ์ตลอดกาลทีเดียว พระพุทธเจ้าข้า”
ท่วงทีวาจาและศิลปะการอ้างเหตุผลของอาจารย์เสนกะ ยังคงได้ผลดีอยู่ ไม่น่าเชื่อว่าเพียงไม่นานเท่าไร พระเจ้าวิเทหราชก็ทรงคล้อยตามคำของท่านเสนกะจนได้
“อืมม... น่าฟังมากท่านอาจารย์ หากจะทดลองให้มั่นใจเสียก่อน ก็ดีเหมือนกัน งั้นก็เป็นอันตกลงตามนั้น แล้วเราค่อยมาคิดปัญหาทดลองกันอีกที”

และแล้ววันหนึ่ง ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้ชาวบ้านปาจีนยวมัชฌคามต้องตื่นตระหนกตกใจกันไปถ้วนหน้า เมื่อมีพวกราชบุรุษจากราชสำนักมาปรากฏตัวขึ้นที่หมู่บ้าน พวกเขานำข่าวสารเร่งด่วนมาพร้อมกับท่อนไม้ตะเคียนกลมยาว 1 คืบ อันเป็นวัตถุแห่งปัญหา ครั้นแล้วจึงป่าวประกาศพระบรมราชโองการให้ชาวเมืองได้รับทราบว่า
“ชาวบ้านปาจีนยวมัชฌคามทุกคนจงฟัง พระเจ้าวิเทหราช เจ้าเหนือหัวแห่งมิถิลานคร ใคร่จะทราบว่า ท่อนไม้ตะเคียนนี้ ทางไหนเป็นโคน ทาง

ปัญหาครั้งนี้ เกิดขึ้นจากบุคคลต้นคิดคืออาจารย์เสนกะเพื่อทดลองปัญญาของมโหสถโดยเฉพาะ เป็นปัญหาที่ตั้งขึ้นอย่างมีเงื่อนไข คือถ้าแก้ไม่ได้ ก็จะต้องถูกปรับมากมายเดือดร้อนกันถ้วนหน้า แล้วมโหสถจะแก้ปัญหานี้อย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไป
พระธรรมเทศนาโดย : พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)