รักษาศีลได้อานิสงส์ผลบุญอย่างไร

ทาน ศีล ภาวนา

ทาน ศีล ภาวนา

 

ความหมายของศีล

   คำว่า ศีล มีรากศัพท์มาจากคำว่า สิระ ซึ่งแปลว่า ยอด หมายความว่า เป็นสิ่งที่อยู่บนจุดที่สูงที่สุด ผู้ใดก็ตามรักษาศีลเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ ผู้นั้นจะเป็นผู้มีใจสูง มีความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ เพราะมนุษย์แปลว่า ผู้มีใจสูง จะได้รับความเคารพนับถือจากสัตบุรุษทั้งหลาย

 

    ศีลมาจากคำว่า สีล แปลว่า ปกติ โดยธรรมชาติของสัตว์จะรักและหวงแหนชีวิตของตนเอง รวมถึงสิ่งต่างๆ ที่เป็นของตน ดังนั้นเมื่อเกิดความรู้สึกเช่นนี้แล้ว  เพราะศีลเป็นปกติของมนุษย์ทั้งหลาย ศีลเป็นปกติของมนุษย์ที่จะไม่เบียดเบียนใคร หรือลักขโมยของใคร

 

     ศีลมาจากคำว่า สีตละ ซึ่งแปลว่า เย็น เพราะว่าใครก็ตามที่เป็นผู้มีปกติรักษาศีลอยู่ทั้งวันทั้งคืน ผู้นั้นจะเป็นผู้ที่มีความเย็นกายเย็นใจ เหมือนผู้ที่มีร่างกายสกปรก เมื่อได้อาบน้ำชำระร่างกาย นั่งพักอยู่ภายใต้ร่มไม้ใหญ่ที่มีร่มเงาแผ่ขยาย จะเกิดความรู้สึกเย็นกายเย็นใจ สบายอกสบายใจ พลอยทำให้ผู้ที่ได้เข้ามาอยู่ใกล้ๆ ก็เกิดความรู้สึกเย็นกายเย็นใจไปด้วย

 

    ศีล ยังมาจากคำว่า สิวะ แปลว่า ปลอดโปร่ง เพราะผู้ที่รักษาศีลจะเป็นผู้ที่มีจิตใจปลอดโปร่งเบาสบาย เนื่องจากมีความบริสุทธิ์ภายใน ความบริสุทธิ์นั้นจะกลั่นใจให้เบิกบานผ่องใส

 

    ศีล เป็นคุณธรรมที่จะคุ้มครองรักษากาย วาจา ใจ  ของเราให้เรียบร้อยสมบูรณ์ เป็นคุณธรรมเบื้องต้นที่จะส่งให้เราเข้าถึงสมาธิ ปัญญา ซึ่งเป็นหนทางแห่งการบรรลุมรรคผลนิพพาน 

 

   ดั่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ใน ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก ว่า "สีลํ โลเก อนุตฺตรํ  ศีลเป็นเยี่ยมในโลก"   

 

อานิสงส์ของศีล

      1. เป็นเหตุให้ได้ทรัพย์สมบัติ สามารถบริโภคใช้สอยทรัพย์ที่เกิดมีแก่ตนได้เต็มอิ่มโดยไม่ต้องหวาดระแวงอะไร

      2. เป็นเหตุให้มีชื่อเสียงดี มีเกียรติคุณฟุ้งขจรไปว่าเป็นคนไว้ใจได้ ทำให้มีอนาคตดีเพราะได้รับความไว้วางใจในความประพฤติ

      3. เป็นเหตุเป็นคนแกล้วกล้า อาจหาญ สง่าผ่าเผย ในเวลาเข้าสังคม

      4.เป็นเหตุให้เป็นคนไม่หลงลืมสติ ไม่หลงเพ้อดิ้นรนเวลาใกล้ตาย

      5. เป็นเหตุให้เข้าถึงสุคติภูมิ เมื่อตายไปแล้ว            

 

โอวาทหลวงปู่เกี่ยวกับการรักษาศีล

ศีลเป็นทางมาแห่งทรัพย์ 

 

หลวงปู่บิณฑบาตโปรดญาติโยม

พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากนำ้ภาษีเจริญ (สด จันทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย พระผู้ปราบมาร

 

“ เสียทรัพย์เสียไป ศีลอย่าให้เสีย ต้องรักษาไว้ ศีลเป็นสิ่งที่สร้างทรัพย์เจ้าทรัพย์…

ถ้าว่ามีศีลละก็… ได้ชื่อว่าเป็น คนดี คนบริสุทธิ์แล้ว เป็นเจ้าทรัพย์

ทรัพย์ดึงดูดในโลกให้มาหา… ไม่ต้องเดือดร้อนอะไร ให้บริสุทธิ์จริงๆนะ อย่าบริสุทธิ์จอมปลอม ไม่ได้นะ…”

 

คนรับใช้อนาฑบิณฑิกเศรษฐี รักษาศีลเพียงครึ่งวัน

   ในสมัยพุทธกาล มีฤๅษีจำนวน 500 ตน ที่อุทิศตนบำเพ็ญภาวนาอยู่ในป่าหิมพานต์เป็นเวลายาวนาน วันหนึ่ง พวกเขาได้ตัดสินใจออกจากป่าเพื่อเดินทางเข้าสู่เมือง ในระหว่างทาง พวกเขาได้หยุดพักใต้ต้นไทรใหญ่ต้นหนึ่ง หัวหน้าฤๅษีเกิดความคิดในใจว่า "ต้นไทรใหญ่ต้นนี้ คงมีเทวดาผู้มีศักดิ์สถิตอยู่แน่นอน หากเทวดานำพาน้ำเย็นมาดับความกระหายให้หมู่ฤๅษี ก็คงดีไม่น้อย" เพียงคิดเสร็จ สิ่งอัศจรรย์ก็เกิดขึ้น เทวดาผู้นั้นได้นำน้ำเย็นมาให้ฤๅษีดื่มตามความปรารถนา

 

   หัวหน้าฤๅษีเห็นดังนั้นก็คิดในใจว่า "เราอยากเห็นเทวดาผู้มีฤทธิ์นี้ หากท่านมีอยู่จริง ก็ขอให้ปรากฏกายให้เราเห็นด้วยเถิด" ทันใดนั้น เทวดาก็ปรากฏกายที่ข้างต้นไทรใหญ่ทันที รัศมีของเทวดานั้นสว่างไสวเป็นอย่างยิ่ง

ฤๅษีทั้งหลายต่างก็ทึ่งและถามว่า "ท่านเทวดา ท่านทำบุญกุศลใดถึงได้มีรัศมีสว่างไสวเช่นนี้" เทวดาเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็เกิดความละอายใจ เพราะบุญที่ตนเองทำไว้นั้นมีเพียงเล็กน้อย แต่เมื่อถูกถามหนักเข้าก็จำต้องเล่าความจริงออกมาว่า:

 

 

ทำงานหนัก

คนรับใช้ทำงานหนักมาตลอดทั้งวัน

 

   ในสมัยพุทธกาล เทวดานี้เคยเกิดเป็นชายยากจนที่ทำงานรับจ้างอยู่ในบ้านของอนาถบิณฑิกเศรษฐี หน้าที่ของเขาคือการหาฟืนทุกวัน วันหนึ่ง เป็นวันอุโบสถศีล อนาถบิณฑิกเศรษฐีได้ชักชวนให้ทุกคนในบ้านรักษาศีล 8 ชายหนุ่มคนนี้เมื่อกลับมาถึงบ้านเห็นว่าไม่มีใครทานอาหารจึงถามว่าทำไม แม่ครัวจึงบอกว่าเป็นวันอุโบสถศีลและทุกคนในบ้านรักษาศีล 8 กันหมด

 

   ชายหนุ่มเกิดจิตเลื่อมใส อยากรักษาศีล 8 บ้าง จึงไปถามเศรษฐี เศรษฐีกล่าวว่า "รักษาได้ แต่คงรักษาได้เพียงครึ่งวัน" ชายหนุ่มก็รับศีลอย่างเต็มใจ และแม้ว่าตลอดทั้งวันเขาจะไม่ได้ทานอาหารจนเกิดความทุกข์ทรมาน เขาก็ยังตั้งใจรักษาศีลให้บริสุทธิ์ที่สุด

 

   เมื่อถึงกลางคืน ด้วยความหิวจัดและความทรมานจากการไม่ได้ทานอาหาร เขาก็สิ้นชีวิตลง แต่ด้วยจิตที่ผ่องใสและความตั้งใจในการรักษาศีล เขาได้ไปเกิดเป็นรุกขเทวดาที่มีรัศมีสว่างไสวอยู่ที่ต้นไทรใหญ่แห่งนั้น

เมื่อเทวดาเล่าถึงตอนนี้ เขากล่าวว่า "ชายหนุ่มคนนั้นก็คือข้าพเจ้าเอง สิ่งที่ข้าพเจ้าได้มาในตอนนี้เกิดจากการรักษาศีลเพียงครึ่งวัน"

 

   ฤๅษีทั้ง 500 ท่านเมื่อได้ยินเรื่องราวนี้ และได้ยินคำว่า "พระพุทธเจ้า" ก็เกิดความปีติยินดี ขนลุกชูชัน ต่างลุกขึ้นอัญชลีต่อเทวดาและกล่าวว่า "โอ พระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นแล้ว เราเฝ้ารอคอยบุคคลเช่นนี้มายาวนานประหนึ่งรอคอยมาเป็นแสนปี เราจะไปเฝ้าพระบรมศาสดาในบัดนี้" แล้วฤๅษีทั้งหมดก็รีบเดินทางไปวัดพระเชตวัน เพื่อเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ และเมื่อได้ฟังพระธรรมเทศนา พวกเขาก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ในทันที

 

   เราจะเห็นได้ว่าการตั้งใจรักษาศีลนั้นมีอานิสงส์อย่างมากมาย ทำให้ละจากปากอุศลความไม่ดีทั้งหลายได้ ทำให้เรามั่นคงอยู่ในความดี เมื่อละโลกไปย่อมเข้าสู่ความเป็นสหายของเทวดาทั้งหลาย เกิดในสุคติภพแต่เพียฝ่ายเดียว เมื่อบุญบารมีเต็มเปี่ยมย่อมได้บรรลุมรรคผลนิพพานในที่สุด

 

   ดังนั้นเรามารักษาศีลกันในทุกๆ โดยเฉพาะวันพระ และวันสำคัญทางพระพุทธศาสนถวายเป็นพุทธบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิตกัน

แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

บทความที่เกี่ยวข้อง