จากทัศนคติเดิมๆกับการดื่มเหล้าในกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นวัยอยากรู้อยากลอง ชอบความท้าทาย
คำเชิญชวนที่กระตุ้นความกล้าดูเหมือนจะเป็นทัศนคติที่หลายคนหลงผิดรับรู้
เลยเถิดเป็นค่านิยมต่อวัยรุ่น ให้มองว่า เหล้า คือสิ่งวัดใจ ในวลีที่ว่า "แน่จริง ...ต้องดื่ม"วานนี้ (3มิย.51)รวมพลคนไม่ดื่มเปิดตัว โครงการ DNA ( Drink No Alcohol) หรือ โครงการสายพันธุ์ใหม่ไร้แอลกอฮอล์ปีที่ 3 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการสร้างทัศนคติที่ดีในเยาวชนไทยวัยรุ่น ให้ห่างไกลจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด โดยมีเป้าหมายในการทำงานของโครงการ คือ ป้องกันนักดื่มหน้าใหม่และชะลออายุการดื่มครั้งแรกในกลุ่มวัยรุ่น
โดยการสร้างทัศนคติที่ดีต่อการไม่ดื่มภายใต้ความสนใจด้านต่างๆกับ กิจกรรม การรณรงค์ และต่อต้านภายใต้ชื่อโครงการ DNA ( Drink No Alcohol) # แน่จริงไม่ดื่ม
กับคนที่ดื่มหลักๆแล้วนั้นก็มีอยู่หลากหลายสาเหตุ และที่มา
ที่ส่วนใหญ่ก็หนึไม่พ้นเรื่องของสังคม การสังสรรค์ การระบายความเครียด
หรืออื่นๆอย่างที่เรานั้นพอทราบ มองต่างมุมครั้งนี้ Life on campus จะพาไปดูทรรศนะของเหล่า คนในดวงใจนักศึกษาที่พวกเขาไม่นิยมดื่มเหล้ากันบ้างว่าเป็นอย่างไร
“โอ๋” ศิลปิน ประจำวงฟูตอง ดูมาดเซอร์ๆกับดนตรีหนักๆก็พาให้คิดว่าจำเป็นต้องเมาก่อนขึ้นการแสดง เพื่อจะให้มีความเมามันส์ในชั่วโมงบนเวที
“ คนเล่นดนตรีแนวหนัก ๆดนตรีมันโหดๆ คนก็มองว่าจะต้องขี้เมาแน่นอน บางทีเราก็อยากสนุกกับคนดูเลยลองดื่มเหล้าขึ้นเวทีไปแสดง ปรากฏว่าเละนะ เวลาขึ้นเวทีมันต้องรู้ทุกอย่าง จังหวะ ดนตรี เนื้อร้อง ไฟ หลายอย่างแต่กลายเป็นความผิดพลาดเยอะเลย ควบคุมอะไรไม่ได้ ฉะนั้นควรมีสตินะ ถึงจะดูดุ
“โอ๋” ศิลปิน ประจำวงฟูตอง ดูมาดเซอร์ๆกับดนตรีหนักๆก็พาให้คิดว่าจำเป็นต้องเมาก่อนขึ้นการแสดง เพื่อจะให้มีความเมามันส์ในชั่วโมงบนเวที
“ คนเล่นดนตรีแนวหนัก ๆดนตรีมันโหดๆ คนก็มองว่าจะต้องขี้เมาแน่นอน บางทีเราก็อยากสนุกกับคนดูเลยลองดื่มเหล้าขึ้นเวทีไปแสดง ปรากฏว่าเละนะ เวลาขึ้นเวทีมันต้องรู้ทุกอย่าง จังหวะ ดนตรี เนื้อร้อง ไฟ หลายอย่างแต่กลายเป็นความผิดพลาดเยอะเลย ควบคุมอะไรไม่ได้ ฉะนั้นควรมีสตินะ ถึงจะดูดุ
ดูเถื่อนบ้างของรับรองว่าไม่ได้เป็นเพราะเหล้าหรือต้องพึ่งเหล้า
เลย
มันคือสาเหตุหนึ่งที่ไม่ดื่มเหล้า เพราะโอ๋มองว่ามันเสียจริตมากกว่ามันทำให้เราควบคุมตัวเองไม่ได้”
ส่วนสาเหตุของสองสาว “ป่าน – สิริมา ไชยปรีชาวิทย์ กับ “แพร อรุณี ไชยปรีชาวิทย์" เหตุผลที่ไม่ดิ่มเหล้าของเธอทั้งสองคน สองสาวบอกรู้สึกว่าทำตัวให้สนุกเองได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาเหล้าขณะไปเที่ยว
“ จริงๆแล้ววัยรุ่นเราเป็นวัยสนุกสนานอยากรู้อยากลอง เราโชคดีที่มีคุณพ่อเข้าใจ คุณพ่อก็ถามเลยว่าอยากลองปะ บอกว่าอยากก็รินให้เลยให้ลองจะได้รู้ พอรู้ว่ามันรสชาติไม่อร่อย และเหม็นเราก็หยุดเลย กับคำที่เขาพูดกันว่ากินหน่อยเหอะจะได้สนุกๆ ตรงนี้เราสองคนไม่เคยเชื่อเลยนะ เพราะเราสามารถสนุกได้โดยไม่พึ่งเหล้า จริงๆแล้ว มันเป็นการเชิญชวนกันแบบไร้เหตุผลมากกว่า”
ด้านหนุ่มศิษย์เก่าสถาปัตย์ฯ อย่าง "แสตมป์ ศิลปิน วง 7th scence" แสตมป์บอก สาเหตุที่เขาไม่กินเหล้าทั้งๆที่ใช้ชีวิตอยู่ในกลุ่มนักศึกษาขาลุยมาตลอด นั่นเป็นเพราะเขาไม่อยากเมาอยู่ในสภาพที่ดูไม่ได้
“ ตอนปีหนึ่งรุ่นพี่ก็จะมารับน้อง และก็จะมีตามธรรมเนียมส่งเหล้ามา เฮ้ย เอาหน่อยๆ เพื่อการสังสรรค์ความสนุก แต่มันมีศัพท์อยู่คำหนึ่งครับ คือ เมาดิบ หมายความว่าไม่ต้องกินก็เมาได้ หลังจากที่ปี1 คนที่กินเหล้าเริ่มจะเมามาย ทุกคนที่หน้าตาดูหล่อๆตอนปีหนึ่งหน้าใสๆพอเมาแล้วคนหล่อก็หายไปครึ่งหนึ่ง ผมว่าสภาพคนเมามันดูไม่ได้ ผมเลยไม่กินดีกว่า จริงๆแล้วเพราะไม่กินเราก็สนุกได้ผมเลยไม่คิดอะไรมาก”
และเหตุผลสั้นๆง่ายๆสำหรับการไม่ดื่มเหล้าของนางเอกสาวหน้าใสอย่าง “นาถ - ยุวนาถ อาระยานิมิตสกุล” คือ รสชาติไม่อร่อย
“ ภาพของคนที่ดื่มเหล้าในสายตานาถมันก็ดูไม่ดีอยู่แล้ว เพราะมันจะทำให้ภาพลักษณ์ที่เราเห็นผู้ชายดื่มเหล้าคือไว้ใจไม่ได้ ควบคุมสติไม่ได้ ยิ่งเราเป็นผุ้หญิงก็ยิ่งไม่ควร แต่เอาเข้าจริงเรารู้ว่ามันไม่ดี
ด้วยความเป็นวัยรุ่นก็วัยอยากเรียนรู้ นาถก็เคยลองค่ะ แล้วผลก็คือมันไม่อร่อยเลย ถ้าจะให้ไปเที่ยวแล้วสนุกๆจริงๆของกินน้ำอัดลมยังดีกว่า สามารถสนุกได้แล้ว เราสนุกเองได้ไม่ต้องพึ่งพา”
เอาล่ะ ไม่ว่าใครจะมีเหตุผลของการดื่มเหล้าแตกต่างกันอย่างไรก็ตามที แต่หากเกิดกรณีตกอยู่ในสถานการณ์คำท้าท้ายอย่างไม่กล้าหลบหนีที่ว่า “แน่จริงต้องดื่ม”
ตรงนี้ “แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต”ได้กล่าวให้คำแนะนำไว้ว่า
“ถ้าเรากล้าที่จะปฎิเสธจะโก้มาก ถ้าเรากลัวก็จะไม่โก้ สำหรับเยาวชนคนรุ่นใหม่ก็ขอให้เป็นเยาวชนที่จิตใจตื่นเบิกบาน โลกไม่ได้ชอบคนเก่ง โลกไม่ใช่วัฒนธรรมเก่า ๆต้องเสพสติปัญญาเข้าไป แม่ชีอยากให้ทุกๆคนหนุ่มสาวที่มีจำนวนมาก 3 ส่วนของโลกคิดดูแล้วกัน ว่าจะเป็นของโหลที่ไม่กล้าปฎิเสธ หรือจะเป็นคนโก้ๆที่กล้าจะปฎิเสธต่อส่วนยั่วยุ เพื่อเรียนรู้ชีวิตอย่างมีสติปัญญา”
ส่วนสาเหตุของสองสาว “ป่าน – สิริมา ไชยปรีชาวิทย์ กับ “แพร อรุณี ไชยปรีชาวิทย์" เหตุผลที่ไม่ดิ่มเหล้าของเธอทั้งสองคน สองสาวบอกรู้สึกว่าทำตัวให้สนุกเองได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาเหล้าขณะไปเที่ยว
“ จริงๆแล้ววัยรุ่นเราเป็นวัยสนุกสนานอยากรู้อยากลอง เราโชคดีที่มีคุณพ่อเข้าใจ คุณพ่อก็ถามเลยว่าอยากลองปะ บอกว่าอยากก็รินให้เลยให้ลองจะได้รู้ พอรู้ว่ามันรสชาติไม่อร่อย และเหม็นเราก็หยุดเลย กับคำที่เขาพูดกันว่ากินหน่อยเหอะจะได้สนุกๆ ตรงนี้เราสองคนไม่เคยเชื่อเลยนะ เพราะเราสามารถสนุกได้โดยไม่พึ่งเหล้า จริงๆแล้ว มันเป็นการเชิญชวนกันแบบไร้เหตุผลมากกว่า”
ด้านหนุ่มศิษย์เก่าสถาปัตย์ฯ อย่าง "แสตมป์ ศิลปิน วง 7th scence" แสตมป์บอก สาเหตุที่เขาไม่กินเหล้าทั้งๆที่ใช้ชีวิตอยู่ในกลุ่มนักศึกษาขาลุยมาตลอด นั่นเป็นเพราะเขาไม่อยากเมาอยู่ในสภาพที่ดูไม่ได้
“ ตอนปีหนึ่งรุ่นพี่ก็จะมารับน้อง และก็จะมีตามธรรมเนียมส่งเหล้ามา เฮ้ย เอาหน่อยๆ เพื่อการสังสรรค์ความสนุก แต่มันมีศัพท์อยู่คำหนึ่งครับ คือ เมาดิบ หมายความว่าไม่ต้องกินก็เมาได้ หลังจากที่ปี1 คนที่กินเหล้าเริ่มจะเมามาย ทุกคนที่หน้าตาดูหล่อๆตอนปีหนึ่งหน้าใสๆพอเมาแล้วคนหล่อก็หายไปครึ่งหนึ่ง ผมว่าสภาพคนเมามันดูไม่ได้ ผมเลยไม่กินดีกว่า จริงๆแล้วเพราะไม่กินเราก็สนุกได้ผมเลยไม่คิดอะไรมาก”
และเหตุผลสั้นๆง่ายๆสำหรับการไม่ดื่มเหล้าของนางเอกสาวหน้าใสอย่าง “นาถ - ยุวนาถ อาระยานิมิตสกุล” คือ รสชาติไม่อร่อย
“ ภาพของคนที่ดื่มเหล้าในสายตานาถมันก็ดูไม่ดีอยู่แล้ว เพราะมันจะทำให้ภาพลักษณ์ที่เราเห็นผู้ชายดื่มเหล้าคือไว้ใจไม่ได้ ควบคุมสติไม่ได้ ยิ่งเราเป็นผุ้หญิงก็ยิ่งไม่ควร แต่เอาเข้าจริงเรารู้ว่ามันไม่ดี
ด้วยความเป็นวัยรุ่นก็วัยอยากเรียนรู้ นาถก็เคยลองค่ะ แล้วผลก็คือมันไม่อร่อยเลย ถ้าจะให้ไปเที่ยวแล้วสนุกๆจริงๆของกินน้ำอัดลมยังดีกว่า สามารถสนุกได้แล้ว เราสนุกเองได้ไม่ต้องพึ่งพา”
เอาล่ะ ไม่ว่าใครจะมีเหตุผลของการดื่มเหล้าแตกต่างกันอย่างไรก็ตามที แต่หากเกิดกรณีตกอยู่ในสถานการณ์คำท้าท้ายอย่างไม่กล้าหลบหนีที่ว่า “แน่จริงต้องดื่ม”
ตรงนี้ “แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต”ได้กล่าวให้คำแนะนำไว้ว่า
“ถ้าเรากล้าที่จะปฎิเสธจะโก้มาก ถ้าเรากลัวก็จะไม่โก้ สำหรับเยาวชนคนรุ่นใหม่ก็ขอให้เป็นเยาวชนที่จิตใจตื่นเบิกบาน โลกไม่ได้ชอบคนเก่ง โลกไม่ใช่วัฒนธรรมเก่า ๆต้องเสพสติปัญญาเข้าไป แม่ชีอยากให้ทุกๆคนหนุ่มสาวที่มีจำนวนมาก 3 ส่วนของโลกคิดดูแล้วกัน ว่าจะเป็นของโหลที่ไม่กล้าปฎิเสธ หรือจะเป็นคนโก้ๆที่กล้าจะปฎิเสธต่อส่วนยั่วยุ เพื่อเรียนรู้ชีวิตอย่างมีสติปัญญา”
ที่มา- 
