|
ภาพจาก www.dailymail.co.uk | |
 |
เด็กที่หัดดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะเป็นสุราหรือเบียร์ รวมไปถึงการเริ่มทดลองสารเสพติดก่อนอายุ 15 ปี จะมีความเสี่ยงในเรื่องของปัญหาสุขภาพมากกว่าคนอื่น
มหาวิทยาลัย California เมือง Irvine สหรัฐอเมริกา เผยว่า จากการวิจัยระยะยาว ในเรื่องของวัยรุ่นกับแอลกอฮอล์และสารเสพติด พบว่า หลังจากที่ได้ทำการศึกษา กลุ่มเด็ก 3 ขวบ ประมาณ 1,000 คน และติดตามผลของพวกเขา ตลอดระยะเวลา 30 ปีนั้น มีเด็กที่ได้ดื่มของมึนเมาและลองยาเสพติดก่อนอายุ 15 ปี เมื่อโตขึ้น พวกเขาได้ประสบปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพมากกว่าคนอื่นๆที่อยู่ในวัยเดียวกัน
ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ทางทีมงานได้ติดตามผลนั้น เมื่อเด็กๆเหล่านี้โตขึ้นจนกระทั่งอายุ 32 ปี พบว่า คนที่เริ่มดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนอายุ 15 ปี ถึงแม้จะดื่มเพียงไม่กี่ครั้งก็ตาม ก็ทำให้คนเหล่านี้ต้องหยุดเรียน ยิ่งไปกว่านั้น อาจเกิดอาการต้องการยาอย่างรุนแรง มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และปัญหาการก่ออาชญากรรมตามมา ในขณะที่ Candice Odgers นักจิตวิทยาจาก UCI และทีมงานพบว่า เด็กผู้หญิงที่ดื่มแอลกอฮอล์ก่อนอายุ 15 ปี มีอัตราเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์มากกว่าเด็กผู้หญิงคนอื่นๆที่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับกับสิ่งเหล่านี้
ทั้งนี้ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ทำให้แอลกอฮอล์เป็นสิ่งที่วัยรุ่นส่วนใหญ่ต่างอยากทดลอง แต่หารู้ไม่ว่า สิ่งนี้กลับเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดอันตราย ทำลายสุขภาพอย่างทวีคูณในอนาคต นักวิจัยพบว่า พฤติกรรมของผู้ใหญ่บางคนที่มีปัญหาเหมือนเด็กๆ ยังคงใช้แอลกอฮอล์เป็นทางเลือกในการแก้ปัญหา จึงก่อให้เกิดผลเสียตามมานานัปการ ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาของการทารุณกรรม ปัญหาครอบครัว และในเรื่องของอาชญากรรม แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้น การศึกษาในครั้งนี้พบว่า 50% ของวัยรุ่นที่เป็นนักดื่มก่อนอายุ 15 ปีนั้น ไม่ได้ดื่มเพราะมีปัญหาแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เด็กๆที่ไม่เคยมีประวัติปัญหาทางพฤติกรรม หรือปัญหาครอบครัวในเรื่องของการถูกกดขี่ข่มเหงหรือปัญหาต่างๆ ก็ยังเสี่ยงที่จะมีปัญหาสุขภาพ ถ้าพวกเขาเริ่มดื่มแอลกอฮอล์หรือเสพยาก่อนอายุ 15 ปี ซึ่งตามหลักสากลแล้ว ได้มีการเรียกร้องทุกคนช่วยกันปกป้อง เอาใจใส่ดูแลเด็กๆ ให้ห่างจากสิ่งเหล่านี้ซึ่งเด็กที่เริ่มเข้าสู่วัยรุ่นนั้นจะเป็นวัยที่มีความเสี่ยงค่อนข้างมาก Odgers กล่าวทิ้งท้าย
เรียบเรียงจาก HealthDay News
ที่มา-
|