เมื่อ
เวลา 15.00 น. วันที่ 8
มิ.ย. ร.ต.ท. มนตรี วรรณคง ร้อยเวร สภ.ย่อยบางจาก
อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
ได้รับแจ้งมีเหตุชุลมุนวุ่นวายเกิดขึ้นที่วัดมัชฌิมภูมิ (วัดเกาะหัวบ้าน)
หมู่ 1 ต.ท่าไร่ จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.กิตติชัย ไกรนรา สารวัตร หัวหน้า
สภ.ย่อยบางจาก นำกำลังรุดไปตรวจสอบ
พบว่าทางวัดกำลังจัดพิธีฌาปนกิจศพนางสายใจ นิยมจิตร์ อายุ 35 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 13/1 หมู่ 2 ต.ท่าไร่ ที่ถึงแก่กรรม
มีพระภิกษุรวมทั้งชาวบ้านที่มาร่วมงานประมาณ 200 คน
กำลังชุลมุนวุ่นวายโกลาหลบริเวณศาลาที่ตั้งศพ
ส่วนบริเวณหน้ากุฏิของพระครูพัฒนกิจโกศล เจ้าอาวาส นั้น พบผู้หญิง 3 คน
ทราบชื่อภายหลังคือนางสายจิต นิยมจิตร์ อายุ 38 ปี
พี่สาวของผู้ตาย
น.ส.สายชล นิยมจิตร์ อายุ 29 ปี น้องสาวของผู้ตาย และ น.ส.คนึงนิจ
เจริญผกาศร อายุ 25 ปี เป็นญาติมีศักดิ์เป็นหลานสาวของผู้ตาย
กำลังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งตัวสั่นเทาส่งเสียงตะโกน ด่าทอฟังไม่ได้ศัพท์
ส่วนน้ำเสียงที่ออกมานั้นมีทั้งเสียงของผู้หญิงและเสียงของผู้ชายปะปนกัน
โดยเฉพาะ น.ส. สายชล นิยมจิตร์
ซึ่งตัวสั่นงันงกคล้ายกับคนถูกผีเข้าส่งเสียงร้องโหวกเหวกทำเอาญาติและผู้คนในงานพากันหวาดกลัวขนลุกซู่
เพราะเสียงนั้นฟังคล้ายกับเสียงและสำเนียงของนางสายใจผู้ตาย
ประกาศว่าห้ามเผาศพของตนอย่างเด็ดขาด ตราบใดที่ยังไม่ได้พบลูกชายทั้ง 2 คน
หากใครเผาศพก็จะตามเอาชีวิต
ในขณะที่ร่างของนางสายจิตมีเสียงของผู้ชายและเสียงของคนจีน
ประกาศไม่ให้วิญญาณของนางสายใจที่เข้าสิงในร่างของนางสายจิตทำร้ายหรือเอาชีวิตคนอื่น ส่วน น.ส.คนึงนิจที่ตัวสั่นเหมือน
คนถูกผีเข้าอีกคน
พูดออกมามีทั้งเสียงของหญิงและชายรวมทั้งเสียงสำเนียงคนจีน
บอกว่าตนคือวิญญาณเจ้าที่มาให้ความคุ้มครองชาวบ้าน
จะปกป้องทุกคนที่อยู่ที่นี่ ซึ่งปรากฏว่าวิญญาณที่เข้าสิงร่างของคนทั้ง 3
ส่งเสียงทะเลาะกันเองดังลั่น
ทำให้บรรยากาศชวนขนลุกขนพองวุ่นวายปั่นป่วนหนักเข้าไปอีก
ส่วนศพคนตายในโลงยังไม่ได้ทำพิธีเผาใดๆ
ทางด้านพระครูพัฒนกิจโกศล อายุ 69 ปี เจ้าอาวาสวัดดังกล่าว
เล่าเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นว่า
ขณะที่กำลังทำพิธีสวดศพผู้ตายอยู่ที่ศาลาหน้าเมรุเพื่อเตรียมทำพิธีทอดผ้าบังสุกุลอยู่นั้น
มีรถบรรทุกหกล้อขับผ่านวัดและกระบะหลังได้เกี่ยวเอาสายสิญจน์ที่พาดขึงไว้
ระหว่างศาลาหน้าเมรุกับตัวเมรุขาด ปรากฏว่าโยมผู้หญิงทั้ง 3
ที่นั่งอยู่ในศาลาก็เกิดอาการคลุ้มคลั่งเหมือนกับถูกผีเข้าขึ้นมาทันที
ทำให้พระที่สวดศพและชาวบ้านพากันแตกตื่นตกใจลุกหนีออกจากศาลากันเป็นแถว
รวมทั้งตัวอาตมาเองก็ยอมรับว่ารู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นกัน
เพราะไม่เคยเจอกับเหตุการณ์ประหลาดแบบนี้มาก่อน ส่วนหญิงที่ถูกผีเข้าทั้ง
3 ได้พากันกระโดดลงจากศาลาไปออกอาการคลุ้มคลั่งกันที่หน้ากุฏิของอาตมา
หลังทราบถึงความเป็นมาของเหตุวุ่นวาย
เจ้าหน้าที่ตำรวจถึงกับทำอะไรไม่ถูก อย่างไรก็ตาม
พระครูพัฒนกิจโกศลได้นำน้ำมนต์มาประพรมหญิงทั้งสามที่ถูกวิญญาณเข้าสิงแต่
อาการก็ยังไม่ดีขึ้น กระทั่งมีผู้เฒ่าในหมู่บ้านแนะนำให้ญาติไปตามฤาษีแมน
อนาสิน อายุ 33 ปี ที่บำเพ็ญเพียรอยู่ที่ป่าบ้านบางไทร ต.บางศาลา
อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช มาช่วยปราบวิญญาณที่เข้าสิง
ซึ่งต่อมาในช่วงเย็นฤาษีแมนได้เดินทางมาถึงวัดได้เข้าเจรจากับวิญญาณที่สิง
อยู่ในร่างคนทั้งสามขอให้ออกจากร่างโดยเร็ว
ญาติโยมจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้
จากนั้นฤาษีแมนกับพระในวัดได้นำน้ำมนต์มาประพรม
ปรากฏว่าทั้งสามได้ล้มหมดสติไปก่อนทางญาติๆจะรีบพาส่ง
รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช
ขณะเดียวกันนางถาวร บุญชูวงศ์ อายุ 58 ปี
เจ้าภาพงานศพดังกล่าวและเป็นน้าสาวของผู้ตาย เปิดเผยว่า
นางสายใจผู้ตายเคยแต่งงานอยู่กินกับนายโกสินทร์ นำพัฒน์ มีลูกด้วยกัน 2 คน
ต่อมามีปัญหาครอบครัวได้แยกทางกัน
และนายโกสินทร์รับเป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูลูกพากันอพยพไปอยู่ต่างจังหวัด
ส่วนนางสายใจหลังเลิกกับสามีได้ไปทำงานที่ จ.ภูเก็ต
ต่อมาเกิดป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดจึงกลับมาอยู่บ้านและได้เสียชีวิตลง
หลังผ่านเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางญาติๆได้ตกลงกันว่าจะทำการเผาศพของนางสาย
ใจให้เสร็จสิ้นภายในคืนวันเดียวกันนี้
เพื่อให้วิญญาณได้ไปผุดไปเกิดตามคำแนะนำของฤาษีแมน
โดยในช่วงเผาศพนางสายใจนั้นทางฤาษีแมนจะอยู่ร่วมในพิธีด้วยเพื่อให้งานเสร็จสิ้นไปอย่างเรียบร้อย
ที่มา-