
น.พ.อุดม เพชรสังหาร ผอ.ศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพเด็กและเยาวชน สถาบันรักลูก มองว่า สมาธิสัมพันธ์กับสมอง โดยคลื่นสมองที่สงบจะช่วยในการเรียนรู้ ที่ดี ปกติแล้วสมองคนเรา 100 ส่วน จะสนใจสิ่งที่ผ่านเข้ามาขณะนั้น 1 ส่วน ที่เหลือจะถูกทิ้งไป เมื่อเด็กจดจ่อกับการทำกิจกรรมแล้ว จะเกิดการกระตุ้น วงจรแห่งความปีติ (Reward Circuit) จึงควรให้กำลังใจ ชื่นชม แล้วเขาจะรู้สึกดีและทำเช่นนั้นอีก สมองมนุษย์จะฉลาดอยู่ที่เชื่อมต่อเซลล์สมอง ซึ่งเกิดได้ดีใน 2 ปีแรกของชีวิต
นอกจากนี้ น.พ.อุดมยังเสริมอีกว่า ดนตรีหรือเพลงจังหวะช้า มีผลต่อการทำงานของก้านสมอง ทำให้จิตใจมีความสงบเยือกเย็น และมีความจดจ่อกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เกิดคลื่นสมองที่เรียกว่าคลื่นอัลฟา (Alpha Wave) คือ ภาวะที่มีสมาธิ และเหมาะในการเรียนรู้ แต่ปัจจุบันลูกหลานของเรามีปัญหาเรื่องสมาธิมากขึ้น อยู่นิ่งๆกับที่ไม่ได้ เพราะผู้ใหญ่ไม่เป็นแบบอย่างให้เห็นในเรื่องของความอดทน, อดกลั้น, มานะพยายาม
ดร.วรนาท รักสกุลไทย กก.ฝ่ายวิชาการ สมาคมอนุบาลศึกษาแห่งประเทศไทย แนะเคล็ดลับว่า สมาธิในเด็กไม่ใช่ Meditation แต่หมายถึง Better Attention หรือความสนใจจดจ่อและมุ่งมั่น ซึ่งขึ้นอยู่ กับอายุด้วย เช่น เด็ก 3 ขวบ มีสมาธิ 5 นาที ส่วนเด็ก 3 ขวบขึ้นไปมีสมาธิราวๆ 12-15 นาที เราจึงมีหน้าที่ออกแบบการเรียนรู้ของเด็กผ่านกิจกรรมต่างๆ
เช่น การวาดภาพ ที่เด็กเล็กจะชอบระบายสีน้ำ มาก เพราะไม่ต้องออกแรงกดและใช้งานได้ง่าย การพับกระดาษก็จะเหมาะกับเด็กที่โตขึ้นมาหน่อย ทำ ให้เด็กเกิดความคิดสร้างสรรค์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับคุณแม่ด้วย เพราะเด็กบางคนไม่ได้สมาธิสั้น แต่คุณแม่เป็นคนคิดเร็ว ทำเร็ว เด็กจึงมีพฤติกรรมเลียนแบบ เช่นนี้เรียกว่า สมาธิสั้นเทียม เพราะมาจากสิ่งแวดล้อม...ฉะนั้นเด็กจะสมบูรณ์หรือขาดๆ เกินๆ ก็อยู่ที่พ่อแม่ช่วยเติมเต็มน่ะเอง
ที่มา-
