
ทศชาติชาดก
เรื่อง มหาชนก ผู้ยิ่งด้วยวิริยบารมี ตอนที่ 4
จากตอนที่แล้ว กองทัพของพระโปลชนก ออกเดินทางเข้าสู่มิถิลานคร ใช้เวลาในคืนวันรุ่งขึ้นอีกครึ่งคืนก็เข้าเขตพระนคร จึงทรงให้ตั้งค่ายพักแรมอยู่นอกพระนคร พอรุ่งสางก็ตรัสสั่งให้ล้อมพระนครเอาไว้ พร้อมทั้งได้ส่งสารไปถวายพระเชษฐาว่า “เมื่อก่อนหม่อมฉันไม่เคยคิดเป็นศัตรูต่อเจ้าพี่เลย แต่บัดนี้ หม่อมฉันจะขอเป็นศัตรูหละ เจ้าพี่จะมอบราชสมบัติให้แก่หม่อมฉันหรือจะรบจงรีบตอบมา”
พระราชาอริฏฐชนกทรงสดับสารของพระอนุชาแล้ว ก็ทรงเรียกพระอัครมเหสีมา ตรัสบอกพระนางว่า การรบครั้งนี้ ไม่รู้ว่าจะชนะหรือจะแพ้ ถ้าหากเราประสบภัยเธอพึงรักษาครรภ์ไว้ให้ดี แล้วก็ยกทัพออกจากพระนคร ทำการรบกับกองทัพของพระอนุชาของพระองค์เอง
ขณะที่รบกันอยู่อย่างสามารถ เพียงในวันแรกเท่านั้น ทหารของพระโปลชนกก็ได้ใช้ธนูยิงพระเจ้าอริฏฐชนกราชถึงสิ้นพระชนม์บนคอช้างท่ามกลางสนามรบนั้นเอง

ฝ่ายอัครมเหสีของพระเจ้าอริฏฐชนกทรงรู้ว่าพระสวามีสิ้นพระชนม์แล้ว จึงทรงปลอมเป็นหญิงชาวบ้าน รีบเสด็จออกจากพระนคร ทรงได้รับการอนุเคราะห์จากท้าวสักกะ ซึ่งทรงเนรมิตเกวียนแล้วทรงจำแลงพระองค์เป็นชายแก่ ขับ
เกวียนมารับพระนางไปสู่นครกาลจำปากะ

ในเวลาเย็นวันนั้น ก็ลุถึงนครกาลจำปากะ พระเทวีทอดพระเนตรเห็นประตูหอรบและกำแพงพระนคร จึงตรัสถามท้าวสักกะว่า “ท่านตา เมืองนี้ชื่ออะไร”
ท้าวสักกะตรัสตอบว่า “นครกาลจัมปากะ แม่นาง”
พระเทวีตรัสค้านว่า “ท่านตา ท่านพูดอะไร นครกาลจำปากะอยู่ห่างจากนคร
ของพวกเราถึง 60 โยชน์มิใช่หรือ”

ท้าวสักกะตรัสว่า “ถูกแล้วแม่นาง แต่ตารู้จักหนทางลัด จึงมาถึงเร็ว”
แล้วท้าวสักกเทวราชก็ให้พระเทวีลงจากเกวียน ณ ที่ใกล้ประตูด้านทิศทักษิณ ตรัสบอกว่า “แม่นาง บ้านของตาอยู่ข้างหน้า แต่แม่นางจงเข้าไปสู่นครนี้เถิด”
ตรัสแล้วท้าวสักกะก็ขับเกวียนต่อไปเหมือนไปข้างหน้า แล้วหายพระองค์กลับไปสู่ที่ประทับยังภพดาวดึงส์
ส่วนพระเทวีก็เสด็จเข้าสู่ประตูพระนคร เนื่องจากไม่รู้ว่าจะเสด็จไปทางไหนดีเพราะไม่ทรงรู้จักใครเลย จึงประทับนั่งที่ศาลาพักร้อนแห่งหนึ่งตามลำพัง
ขณะนั้น มีพราหมณ์ชาวเมืองกาลจัมปากะผู้สอนมนต์คนหนึ่ง เป็นอาจารย์ทิศาปาโมกข์ มีลูกศิษย์เป็นชายหนุ่ม 500 คนแวดล้อม กำลังเดินไปเพื่ออาบน้ำที่ท่าน้ำผ่านมาที่ด้านหน้าศาลานั้น

ด้วยอานุภาพแห่งบุญของพระโพธิสัตว์ผู้บังเกิดในพระครรภ์ของพระเทวี เมื่อพราหมณ์มองเห็นพระเทวีเท่านั้น จึงเกิดเมตตาราวกับว่าเป็นน้องสาวแท้ๆ ของตน
ได้ให้มาณพทั้งหมด หยุดรออยู่ข้างนอกก่อน ส่วนตนก็เข้าไปในศาลาตามลำพัง ได้ไต่ถามการมาของพระนางว่า “น้องหญิง แม่นางคงไม่ใช่คนถิ่นนี้ เธอมาจากเมืองไหนหรือ”

“แม่นาง ฉันเป็นมหาพราหมณ์ ผู้เป็นอาจารย์สอนศิลปะศาสตร์ให้แก่ศิษย์ที่อยู่เบื้องหลังนั้น กำลังจะไปอาบน้ำ ฉันดูลักษณะของเธอแล้ว เธอคงไม่ใช่หญิงชาวเมืองธรรมดาละกระมัง พอจะเปิดเผยฐานะที่แท้จริงของเธอให้เราทราบได้หรือไม่”
พระเทวีดำริว่า ชายผู้มีสายตาเฉียบคมผู้นี้ ดูเป็นคนเปิดเผย มีฐานะเป็นอาจารย์ของคนทั้งหลาย พอที่จะเปิดเผยฐานะที่แท้จริงของเราได้ จึงตรัสเล่าเรื่องราวทั้งหมดไห้ฟังว่า “ฉันเป็นอัครมเหสีของพระอริฏฐชนกราช ผู้
เป็นพระราชาของกรุงมิถิลา

...เมื่อสองวันก่อน พระองค์ได้ทำสงครามกับกองทัพของพระอนุชาของพระองค์เอง แต่ทรงเสียทีแก่ข้าศึก ถูกทหารฝ่ายตรงข้ามยิงด้วยลูกธนูสิ้นพระชนม์ในสงคราม ฉันกลัวภัยที่จะมาถึงตน จึงหนีมายังเมืองนี้ เพื่อรักษาครรภ์ไว้”
“โอ จริงๆ ด้วย เธอเป็นถึงพระอัครมเหสี นี่พระนางทรงพระครรภ์ด้วยหรือนี่ หม่อมฉันขอพระราชทานอภัยด้วย ที่แสดงอาการไม่สุภาพ”
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ” “แล้วพระเทวีจะไปที่ไหนต่อ พระเทวีทรงมีพระประยูรญาติอยู่ในเมืองนี้บ้างหรือไม่ละ”
“ฉันไม่รู้จะไปทางไหนเหมือนกัน เพราะไม่รู้จักใครในเมืองนี้เลย”

แล้วมหาพราหมณ์ก็ออกอุบายว่า “ขอให้พระนางทำตามคำแนะนำของหม่อมฉัน โดยหม่อมฉันขอตั้งพระนางไว้ในตำแหน่งน้องสาว เพื่อปกปิดไม่ให้ใครรู้ฐานะที่แท้จริงของพระนางและพระโอรส

พระเทวีทรงเห็นว่าพราหมณ์อยู่ในฐานะที่พอจะเอาเป็นที่พึ่งได้ในยามยากเช่นนี้ จึงทรงปฏิบัติตามคำแนะนำของพราหมณ์ทุกอย่าง ทรงร้องไห้รำพรรณเรียกพราหมณ์ว่าพี่ แล้วทอดพระองค์ลงจับข้อเท้าของพราหมณ์ ทั้งสองต่างแสดงความรักและคิดถึงประดุจพี่น้องที่รักกันแต่ต้องจากกันไปเสียนาน

ฝ่ายเหล่าลูกศิษย์ได้ยินเสียงของพราหมณ์และพระเทวีร้องให้ จึงพากันเข้าไปในศาลา ถามว่า “ท่านอาจารย์ นางเป็นใครหรือขอรับ”
พราหมณ์กล่าวด้วยอาการตื้นตันใจว่า “ท่านทั้งหลาย หญิงนี้เป็นน้องสาวของฉัน เราถูกพรากจากกันตั้งแต่ครั้งยังเล็ก เพิ่งจะมาพบกันในวันนี้แหละ ฉันดีใจเหลือเกิน”
พวกลูกศิษย์จึงแสดงความยินดีต่ออาจารย์ และได้ปวารณาว่า “ท่านอาจารย์โปรดวางใจเถิด พวกเราจะช่วยกันดูแลน้องสาวของท่านเป็นอย่างดี เสมือนกับเป็นมารดาของพวกเราเอง”
พราหมณ์ได้ฟังคำปวารณาจากลูกศิษย์แล้ว ก็ปลื้มใจ จึงสั่งลูกศิษย์ให้บอกพราหมณีว่า หญิงนี้เป็นน้องสาวของเรา ให้ดูแลความสะดวกสบายด้วย ส่วนว่า เรื่องราวของพระเทวีจะเป็นอย่างไรโปรดติดตามในตอนต่อไป
โดย : หลวงพ่อธัมมชโย (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)