ยกระดับการบังคับใช้กฎหมายเมาแล้วขับ
 
 
        มูลนิธิเมาไม่ขับ ระบุควรเพิ่มโทษเมาแล้วขับ เนื่องจากในปัจจุบันบทลงโทษยังไม่รุนแรงเท่าที่ควร
 
        นายสุรสิทธิ์ ศิลปงาม ผู้จัดการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวว่า ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เติบโตอย่างรวดเร็วในไทย แต่การบังคับใช้กฎหมายเมาแล้วขับยังไม่ต่อเนื่อง คนส่วนใหญ่ยังไม่ตระหนัก คิดว่าเมาแล้วขับไม่ใช่เรื่องอันตราย ขณะที่บทลงโทษก็ยังไม่รุนแรง ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา เริ่มเปิดเสรีการค้า จะทำให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากเพื่อนบ้านหลั่งไหลเข้ามาและมีราคาถูกลง อาจส่งผลให้คนไทยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้น
 
        ด้านนายสงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า ไทยเก็บภาษีจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ปีละประมาณเก้าหมื่นล้านบาท แต่จากรายงานของกระทรวงสาธารณสุขพบว่า ไทยต้องสูญเสียรายได้ให้กับธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตกประมาณปีละสี่แสนล้านบาท โดยสองแสนล้านบาทได้จากผู้ที่ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาบริโภค ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ส่วนอีกสองแสนล้านบาท ได้จากภาษีของประชาชนที่รัฐบาลนำไปใช้เยียวยาความสูญเสียที่เกิดจากอุบัติเหตุเมาแล้วขับ
 
        นอกจากนี้ สิ่งที่น่าเป็นห่วงพบว่า อายุเฉลี่ยของนักดื่มหน้าใหม่เริ่มลดลงจากเดิมที่เป็นนักเรียน นักศึกษาระดับมัธยมศึกษา แต่ปัจจุบันพบว่า นักเรียนในระดับประถมศึกษาก็เริ่มดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพิ่มขึ้นแล้ว ดังนั้นทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรช่วยกันรณรงค์เลิกดื่มแอลกอฮอล์อย่างจริงจัง


รับชม DMC News ประจำวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ.2553 กรุณากดที่นี่

แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

บทความที่เกี่ยวข้อง