พุทธบุตรใหม่แดนใต้ รวมใจ บ้าน วัด โรงเรียน

 

 

 

        พระครูไกรสรธรรมรังษี เจ้าอาวาสวัดบางเงิน อายุ 86-ปี พรรษา 66-ได้กล่าวด้วยความปลื้มใจว่า “ก่อนที่จะมีโครงการของหลวงพ่อธัมมชโย ชาวบ้านจะเข้าวัดครั้งหนึ่ง ก็มาตามประเพณี วันพระก็มีแต่คนเฒ่าทั้งนั้น สภาพวัดก็ไม่สะอาดเหมือนตอนนี้ พระอยู่ประจำก็มีแค่สามรูป เพราะส่วนใหญ่นิยมบวชกันตามประเพณี เจ็ดวันบ้าง 15-วันบ้าง ทำให้มีพระจำพรรษาอยู่น้อย แต่เมื่อมีโครงการของหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ตั้งแต่โครงการบวชอุบาสิกาแก้ว ชาวบ้านก็ตื่นตัว พากันเข้าวัดอย่างต่อเนื่อง แถมมาแล้วยังมาช่วยกันคนละไม้คนละมือปรับปรุงพัฒนาวัดให้สะอาด นำทีมโดยผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน พาชาวบ้านมาทำความดี ตอนนี้ไม่ว่าฝนจะตก แดดจะจ้าขนาดไหน ทุกๆจุดของวัดบางเงินก็พร้อมรองรับและเหมาะสมต่อการอบรม…

 

        โครงการบวชพระเข้าพรรษาครั้งนี้ ทำให้ชาวบ้านวัดบางเงิน เลื่อมใสและศรัทธาพระพุทธศาสนามากขึ้น ตั้งแต่หลวงพ่อสร้างโบสถ์มา ยังไม่เคยมีพิธีอุปสมบทมากเท่านี้มาก่อน พรรษานี้หลวงพ่อดีใจ และขอสนับสนุนโครงการของหลวงพ่อ ธัมมชโยทุกโครงการ ขอให้คุณครูไม่ใหญ่มีความเจริญยิ่งๆขึ้นไป และขอให้จัดโครงการดีๆแบบนี้บ่อยๆ”

 

        ชาวบ้านและบรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองของธรรมทายาท 300-กว่าท่าน ที่ไปร่วมในพิธีอุปสมบท ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ครั้งนี้เหมือนได้รวมพลังชาวพุทธอีกครั้ง ภาพการอุปสมบทหมู่แบบนี้ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นที่ไหนเลย ดีใจที่สิ่งดีๆจะได้ย้อนกลับมาสู่ชุมชนอีกครั้ง และเข้าพรรษานี้ก็จะได้ตักบาตรพระเยอะๆ และอยากจะเห็นพระเดินธุดงค์ด้วย หลังเสร็จพิธีอุปสมบท พระธรรมทายาทเดินแปรแถวลงจากโบสถ์ 2-แถว มีผู้ปกครองและชาวบ้านจำนวนมาก มารอถวายปัจจัยและเช็ดเท้าพระด้วยความปลื้ม ถึงกับเอ่ยปากว่า ไม่มีความปีติครั้งใดเท่ากับที่ลูกชายได้บวชครั้งนี้เลย

 

 

        เรื่องการขบฉันภัตตาหารของพระธรรมทายาทที่นี่ ต้องบอกว่า สบายหายห่วง เพราะได้บรรดาหน่อแก้วหมุนเวียนกันมาวันละ 4-คน มารับบุญแบบทูอินวัน คือ เป็นทั้งแม่ครัวและเป็นเจ้าภาพภัตตาหารไปในตัว โดยหน่อแก้วจะพากันขนพืชผักไร้สารที่ปลูกเองที่บ้านและของเพื่อนบ้านผู้ใจบุญ มาเป็นวัสดุอย่างดีในการประกอบอาหารเลี้ยงพระ ทำให้พระธรรมทายาทได้อิ่มอร่อยถูกหลักโภชนาการ มีเรี่ยวแรงในการฝึกฝนอบรมตนให้เป็นพระแท้

 

        ก่อนหน้านี้ แม้รั้ววัดกับรั้วโรงเรียนจะอยู่ติดกัน แต่ความสัมพันธ์กลับเหินห่าง ทั้งครูและเด็กต่างก็ไม่เคยมีกิจกรรมร่วมกับทางวัด แต่ครั้งนี้ พอคุณครูเห็นมีพระมาบวชกันเยอะก็เกิดศรัทธา จึงมีอารมณ์พานักเรียนเข้ามาทำบุญถวายภัตตาหารเพลที่วัด มาร่วมกันพัฒนาวัดและยังนิมนต์พระพี่เลี้ยงไปเทศน์ให้นักเรียนฟังทุกอาทิตย์ด้วย

 

 

        ส่วนที่วัดกันตาราม อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตอนนี้ชาวบ้านก็พร้อมใจประกาศตัวเป็นพื้นที่ชาวพุทธเข้มแข็ง เพราะชาวบ้านที่นี่รักพระพุทธศาสนามาก ทุกๆวัน...ชาวบ้านจะมาคอยดูแลว่า พระธรรมทายาทอยู่สุขสบายกันดีหรือเปล่า มีสิ่งใดที่ญาติโยมจะเป็นธุระให้ได้ก็จะขันอาสาช่วยกันเต็มที่ เพราะชาวบ้านทุกคนคิดว่านี่เป็นวัดของเรา นี่เป็นพระของเรา เราต้องช่วยกันดูแล เมื่อญาติโยมให้การสนับสนุนเต็มที่ พระธรรมทายาทต่างก็มีกำลังใจในการฝึกตน ทนหิว บำเพ็ญตบะ เป็นพระแท้ เพื่อที่จะเป็นเนื้อนาบุญให้แก่ศรัทธาญาติโยม พระธรรมทายาททุกรูปตั้งใจนั่งสมาธิกันมาก มักจะหาช่วงเวลาปลีกวิเวกในมุมสงบแบบส่วนตัว หลายรูปมีประสบการณ์ที่ดี นั่งสมาธิเห็นความสว่าง เห็นองค์พระ มีความสุขกันทุกวัน

 

 

 

        พระขนบ ขนฺติโก อายุ 45-ปี หนึ่งในพระรุ่นแสนรูปที่ศูนย์อบรมวัดกันตาราม ท่านเป็นอดีตพระนักเทศน์ชื่อดังที่เคยบวชเรียนมาแล้วถึง 17-พรรษา แต่ก็มีเหตุให้ต้องลาสิกขาไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ท่านเล่าว่า “พอลาสิกขาไปแล้ว ก็เสียใจและเสียดายชีวิตในผ้าเหลืองมาก ชีวิตข้างนอกก็ขลุกขลักทุลักทุเล ไม่มีความสุขเหมือนชีวิตพระที่หมดห่วงหมดกังวล ญาติโยมหลายคนที่เคยศรัทธาก็มาขอร้องให้อาตมากลับไปบวชอีก บอกว่าจะขอเป็นเจ้าภาพจัดบวชให้ด้วย ในใจลึกๆก็คิดว่า สักวันจะต้องกลับมาบวชอีก ครั้งนี้ก็ได้จังหวะบุญเหมาะ คือ หลังฌาปนกิจคุณแม่ ก็ได้ทราบข่าวบุญบวชแสนรูปพอดี เลยตัดสินใจมาบวชอีกแบบไม่ลังเลใจ อยากบวชไปเรื่อยๆครับ ขอกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่เป็นอย่างสูง ที่จัดให้มีโครงการดีๆแบบนี้ ผมรักและศรัทธาหลวงพ่อมากครับ ผมจะขอเป็นพุทธบุตรที่หยัดสู้ เพื่อคืนความสว่างไสวให้ชายแดนใต้ครับ”