สธ. เตือนประชาชนระวังไข้เลือดออก

        กระทรวงสาธารณุข เตือนประชาชนระวังโรคไข้เลือดออก เผยช่วง 7 เดือนปี 2553 พบผู้ป่วยพุ่งกว่า 4.5 หมื่นราย เสียชีวิต 43 ราย โดยกลุ่มวัยรุ่นอายุ 10-24 ปี เป็นมากสุดกว่าร้อยละ 50
 
        ดร.พรรณสิริ  กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข  เปิดเผยว่าสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในปีนี้น่าห่วงมาก จำนวนผู้ป่วยสูงกว่าปีที่ผ่านมาประมาณร้อยละ 40 ตั้งแต่เดือนมกราคม-30 กรกฎาคม 2553 ทั่วประเทศมีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกแล้ว 45,379 ราย เสียชีวิต 43 ราย  โดยพบผู้ป่วยทุกกลุ่มอายุ มากที่สุดคือกลุ่มเด็กโตถึงวัยรุ่น อายุ 10-24 ปี พบร้อยละ 52  ซึ่งต่างจากช่วง 3-4 ปีก่อนที่พบในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 9 ปี มากกว่า
 
        ขณะนี้มีรายงานพบเด็กแรกเกิดอายุต่ำกว่า 28 วัน ป่วยจำนวน 7 ราย ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปป่วย 322 ราย กระทรวงสาธารณสุขได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ และอสม. ร่วมกันประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้ประชาชนช่วยกันทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย โดยเฉพาะในบ้าน 
 
        โดยพบว่าผู้ป่วยร้อยละ 80 ถูกยุงลายในบ้านกัด  ซึ่งแหล่งน้ำในบ้านที่มักมียุงลายวางไข่ ได้แก่ ถังน้ำ โอ่งน้ำ พบได้ร้อยละ 40  รองลงมาคือน้ำหล่อขาตู้กับข้าว แจกัน  วิธีการลดปริมาณยุงลายที่ดีที่สุดคือการทำลายลูกน้ำทุก 5 -7 วันเพื่อไม่ให้มีโอกาสโตเป็นยุงเต็มวัย หากบ้านเรือนทั้ง 22 ล้านครัวเรือนช่วยกัน มั่นใจว่าปริมาณยุงลายตัวเต็มวัยจะลดลง เพราะยุง 1 ตัวจะมีอายุประมาณ 30-45 วัน ส่วนเรื่องการรักษาได้เน้นย้ำให้แพทย์ พยาบาลทุกคนปฏิบัติตามมาตรฐาน หากพบผู้ป่วยทุกอายุที่มีไข้สูง ขอให้นึกถึงโรคไข้เลือดออก และดูแลใกล้ชิด เพื่อลดการเสียชีวิตของผู้ป่วยให้ได้มากที่สุด

        แนะนำให้ประชาชนล้างทำความสะอาดภาชนะเก็บน้ำในห้องน้ำ น้ำหล่อขาตู้กับข้าว แจกัน ซึ่งควรทำความสะอาดทุกสัปดาห์ เนื่องจากยุงลายตัวเมียสามารถวางไข่ได้คราวละ 300-400 ฟอง เมื่อเป็นลูกน้ำ จะสามารถกลายเป็นตัวยุงมีปีกบินได้ภายใน 5-7 วัน จะเพิ่มความเสี่ยงในการถูกยุงลายกัดมากขึ้น
ปิดการแสดงความคิดเห็น

บทความที่เกี่ยวข้อง